นานมาแล้วผมเคยเขียนถึงความล้าหลังไม่ทันสมัยของกรมที่ดินกระทรวงมหาดไทย และเรียกร้องให้มีการปรับปรุงพัฒนาทั้งในเรื่องรูปแบบโฉนดที่ดิน และขั้นตอนการทำนิติกรรมที่ล่าช้าและมีการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อลัดขั้น ตอนกันอย่างโจ่งแจ้งทุกสำนักงานที่ดินทั่วประเทศไทยโดยให้เปรียบเทียบกับ พัฒนาการในการเสียภาษีรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบก, การปรับเปลี่ยนทะเบียนบ้านของกรมการปกครอง และการทันสมัยในการทำพาสปอร์ตของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น (รายละเอียดต้องไปหาอ่านย้อนหลังกันเอาเอง) ผ่านมานานแล้ว ที่เห็นปรับปรุงของสำนังานที่ดินหลายแห่งก็แค่ออฟฟิศที่ดูทันสมัยขึ้นบ้าง กับแอร์คอนดิชั่นที่เย็นฉ่ำกว่าเดิมนอกนั้นที่ผมเคยเรียกร้องยังเหมือนเดิมทุกประการครับ
มาบัดนี้ พบหน่วยงานของรัฐอีกองค์กรหนึ่งที่ปรับเปลี่ยนแล้ว แทนที่จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นกับด้อยประสิทธิภาพลงอย่างไม่น่าเชื่อ คือการรับส่งจดหมายทางไปรษณีย์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ครับ
แต่เดิมที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศสังกัดกรมไปรษณีย์โทรเลข งานรับส่งจดหมายรวดเร็วฉับไวทันใจไม่ว่าจะลงทะเบียนหรือไม่ลงทะเบียน โทรเลขระบบโบราณที่ใช้การเคาะสัญญาณส่งก็เป็นที่พึ่งในการส่งข่าวด่วนข่าวร้อนของปวงประชาชาวไทยได้เป็นอย่างดี จนปรับเปลี่ยนเป็นระบบโทรสาร ซึ่งก็รับใช้บริการในการรับส่งข่าวสารได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน การส่งจดหมายต่างๆ ก็ติดแสตมป์ตามราคาน้ำหนัก ที่สำคัญจริงๆ จึงจะมีการลงทะเบียนจดหมายที่ติดแสตมป์ส่งธรรมดาก็มีกำหนดรับส่งได้ตามเวลาและระยะทางอย่างไม่มีปัญหาใดๆ
แต่ปัจจุบัน เมื่อกรมไปรษณีย์โทรเลขถูกยุบในสมัยนายกรัฐมนตรีซีอีโอหน้าเหลี่ยมในปี 2545 ปรับเปลี่ยนระบบไปรษณีย์เป็น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ระบบการรับส่งจดหมายและพัสดุภัณฑ์ทางไปรษณีย์ในยุคที่เทคโนโลยีทางการสื่อสารเจริญรุดหน้าก้าวไกล กลับมีปัญหาในการส่งจดหมายและเอกสารทางไปรษณีย์ที่ล่าช้าอืดอาดอย่างไม่น่าเชื่อ
ในโลกโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงถึงขั้นก่นด่าความล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพในการส่งจดหมายและเอกสารทางไปรษณีย์อย่างสาดเสียเทเสียตลอด เวลา
ผมได้อ่านและรับรู้รับฟังมานานจนกระทั่งมาเจอเข้ากับตัวเองครั้งแรก การส่งการ์ดเชิญในจังหวัดเดียวกัน เขาเชิญผมไปร่วมเป็นเกียรติในงานๆ หนึ่ง วันที่ 28 มกราคม แต่การ์ดเชิญส่งถึงผมในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เสียหายทั้งคนเชิญและคนรับเชิญ ซึ่งต่างเข้าใจกันผิดเพราะไปรษณีย์ห่วยแตกที่ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี
ต่อมาเป็นประสบการณ์ตรงของผมเลยทีเดียว เมื่อเป็นเจ้าภาพร่วมกับฝ่ายชายในงานมงคลสมรสของลูกสาวผมเอง ทั้งเจ้าภาพฝ่ายหญิงและฝ่ายชายต่างต้องส่งการ์ดเชิญญาติสนิทมิตรสหายของทั้งสองฝ่ายทางไปรษณีย์จำนวนมากพอสมควรเพราะไม่สามารถไปเรียนเชิญด้วยตนเองได้ทั้งหมด
การส่งการ์ดเชิญจำนวนมากๆ จะให้ลงทะเบียนทั้งหมดก็สิ้นเปลืองค่าส่งโดยไม่จำเป็น เราจึงเลือกลงทะเบียนเป็นบางส่วนที่สำคัญและจำเป็น นอกนั้นก็ปิดแสตมป์ส่งไปตามธรรมดา ฝ่ายชายส่งตามซองการ์ดเชิญจากโรงพิมพ์ ก็ติดแสตมป์ซองละ 3 บาท ฝ่ายหญิงเกรงซองการ์ดจะยับเสียหายก็ลงทุนซื้อซองมาใส่ซองการ์ดอีกชั้นหนึ่ง ชั่งน้ำหนักแล้ว ก็ติดแสตมป์ 5 บาทตามที่ไปรษณีย์กำหนด
งานมงคลกำหนดวันที่ 8 มีนาคม 2558 การ์ดทั้งสองฝ่ายก็เริ่มส่งตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์เพื่อให้การ์ดเชิญถึงผู้รับแต่เนิ่นๆ เมื่อคะเนว่าใกล้จะถึงวันงานก็มีการสุ่มเช็กไปยังปลายทาง ซึ่งก็เกิดการโกลาหลเป็นการใหญ่ เพราะผู้รับเชิญทั้งสองฝ่ายแจ้งกลับมาว่ายังไม่ได้รับการ์ดเชิญจำนวนไม่น้อย
มีการ์ดเชิญเหลือส่วนหนึ่งจึงต้องส่งซ้ำทาง EMS โดยก็ต้องเลือกเฉพาะแขกผู้ใหญ่ที่สำคัญ เพราะการ์ดเชิญเหลือจำนวนจำกัด แล้วก็ต้องแก้ปัญหาถ่ายการ์ดเชิญส่งไปทางไลน์ และลง facebook แบบสาดเชิญไปในทางสื่อสารสาธารณะ ซึ่งแม้จะไม่เหมาะสมนัก แต่ก็เป็นความจำเป็นเพราะถูกบีบด้วยเงื่อนไขเวลาการจัดงาน ซึ่งเจ้าภาพก็ต้องกราบขอโทษขอโพยแขกที่ไม่ได้รับการ์ดเชิญเป็นการใหญ่
ผมนำเรื่องทั้งหมดไปสอบถามไปรษณีย์ต้นทาง เขาก็บอกง่ายๆ เพียงว่าจดหมายที่ไม่ลงทะเบียนตรวจสอบไม่ได้ การส่งเร็วส่งช้าอยู่ที่ระบบส่งทางปลายทาง เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากแค่รับรู้ว่า ต่อไปการส่งจดหมายถ้าจะให้มั่นใจและตรวจสอบได้ต้องลงทะเบียนเพื่อเพิ่มค่าส่งจากแสตมป์ปกติอีกหลายเท่า ไปรษณีย์จึงจะรับประกันการรับส่งได้ ส่วนจดหมายที่เสียเงินติดแสตมป์ของไปรษณีย์เหมือนกันแต่ดันไม่ยอมเสียเงินเพิ่มค่าลงทะเบียน ไปรษณีย์ก็ปล่อยตามยถากรรม ฟังแล้วตลกแบบหัวร่อมิได้ร้องไห้ไม่ออกครับ
หลังจากงานแต่งผ่านพ้นไปเกือบสองสัปดาห์ จึงได้รับแจ้งจากแขกบางคนเพิ่งได้รับการ์ดเชิญ ผมขอให้เขาถ่ายที่ไปรษณีย์ประทับวันที่ส่งจากต้นทาง ปรากฏว่า เป็นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ทุกฉบับ แสดงว่าส่งจากต้นทาง 9 กุมภาพันธ์ แต่ถึงปลายทาง 15, 16 มีนาคม ลองคำนวณนับเอาเองครับว่ามันล่าช้าผิดปกติถึงเพียงนี้ได้อย่างไร และยังมีอีกบางส่วนที่สูญสลายไปในอากาศธาตุเพราะไปไม่ถึงปลายทาง โดยไม่มีหนทางจะจับมือใครดมเลย
ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมากมายทั่วประเทศ และเป็นความด้อยประสิทธิภาพหน่วยงานของรัฐที่ต้องเร่งพิจารณาปรับปรุงแก้ไขโดยเร็ว การรับส่งจดหมายและพัสดุภัณฑ์ทางไปรษณีย์ถือเป็นงานบริการสารณะที่รัฐต้องอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนโดยทั่วไปอย่างเสมอภาคด้วย โดยเฉพาะประชาชนในชนบทที่รายได้น้อยและด้อยโอกาส ซึ่งยังต้องพึ่งพาการส่งจดหมายทางไปรษณีย์เป็นสิ่งสำคัญจำเป็น ลำพังแค่การติดแสตมป์ตามราคาที่ไปรษณีย์กำหนดก็น่าจะเพียงพอที่หน่วยงานของรัฐต้องตอบแทนด้วยการบริการรับส่งจดหมายอย่างรับผิดชอบและตรงต่อเวลา โดยมิใช่การบีบบังคับให้คนยากจนต้องรับภาระเพิ่มในการลงทะเบียนอย่างไม่จำเป็น
ผมขอตะโกนดังๆ ให้ถึงหูกระทรวงไอซีที และ คสช.ได้ยินแล้ว ท่านจะคิดอ่านประการใดกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผมจะคอยติดตาม และนำมาเล่าสู่กันฟังอย่างไม่ละลดเลย
วันนี้ไม่มีบทกวีครับ ขอส่งท้ายด้วยเพลงมาร์ชไปรษณีย์ก็แล้วกัน http://youtu.be/0A_tsI06e88