เมื่อเวลา 15.30 น. วานนี้ (16 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 2/2558 ว่า ได้มีการพูดคุยหลายประเด็น ทั้งเรื่องของสิทธิประโยชน์ โดยในแต่ละพื้นที่ มีการกำหนดโรดแมป ซึ่งอาจจะมีอุตสาหกรรมหลายด้านรวมกัน ทั้งภาคการผลิต ภาคการเกษตร การท่องเที่ยว รวมทั้งโรงงานขนาดเล็ก เพื่อสร้างงานสร้างรายได้แก่ประชาชน ซึ่งในวันนี้เขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น ได้ทำสองอย่าง ทั้งในเรื่องของนิคมอุตสาหกรรม และที่ไม่ใช่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งตนได้กลับมาคิดใหม่ในพื้นที่ มีนิคมอุตสาหกรรมดูแลส่วนหนึ่ง ให้เอกชนอีกส่วนหนึ่ง โดยการนำมาเช่า เพื่อจะได้เร่งรัดให้เขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น เกิดขึ้นได้เร็ว นอกจากนี้ยังจะส่งเสริมให้โรงงานที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ ให้มีความเข้มแข็งขึ้น ทั้งหมดนี้จะทำให้การผลิตด้านอุตสาหกรรมแปรรูป เติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ในการดำเนินการ จำเป็นต้องพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเรื่องของสิทธิประโยชน์ ภาษี เงินทุน และระยะเวลาในการประกอบการ ต้องเกิดประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด และไม่สูญเสียสภาพสิ่งแวดล้อมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยังคงกฎอัยการศึก จะส่งผลกระทบต่อการลงทุน เพราะไม่มีบริษัทใดกล้าที่จะรับทำประกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราให้เฉพาะการท่องเที่ยว โดยตั้งงบไว้ 200 ล้านบาท ดังนั้น ถ้ามาลงทุน เราก็น่าจะให้ได้ โดยจะขอรับเรื่องนี้ไป สำหรับกฎอัยการศึกนั้นรัฐบาลกำลังหากฎหมายเข้ามาดูแลอยู่ รัฐบาลมีความเป็นห่วงไม่น้อยไปกว่าทุกคน และใช้อำนาจด้วยความระมัดระวัง
เมื่อถามว่า มีการเตรียมกฎหมายที่เบากว่ากฎอัยการศึก เข้ามาดูแลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี แต่จะดูแลให้ได้
"ทุกคนรู้อยู่ว่า มีคนที่รอออกมาเคลื่อนไหว แม้จะมีกฎอัยการศึก ก็ยังไม่กลัว ยังมีการวางระเบิด แล้วยังมาถามผมอีกว่า แสดงว่าเขาไม่กลัวกฎอัยการศึกใช่ไหม แล้วจะมีไว้ทำไม มันจะมีอะไรหนักกว่านี้อีก แต่ถามอย่างนี้ ก็ดีเหมือนกัน อะไรท่านก็ไม่รับ เขียนอะไรมา ก็ไม่รับ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า จะใช้เวลาประเมินอีกนานแค่ไหน ในการคงไว้ซึ่งกฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โปรดติดตาม กำลังร่างอยู่ ตนร้อนใจอยู่เหมือนกัน คิดว่าจะทำอย่างไร ให้มันสงบ
เมื่อถามว่า จะมีการนำ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาใช้แทนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง เขาเคยใช้หรือยัง แล้วใช้ได้ผลหรือไม่ ที่ผ่านมามีการใช้ทุกอย่างแล้ว ทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนกระทั่งมาถึงกฎอัยการศึก ถึงหยุดได้
"ขอถามว่า จะถอยหลังกลับไปมากๆ ได้หรือไม่ ท้ายที่สุดถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำ ก็จะถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่พอทำไปมีการกระทบกระทั่งแรงกันมาก เจ้าหน้าที่ก็เดือดร้อนอีก นั่นล่ะคนไทย อย่าไปคิดเรื่องกฎหมาย เดี๋ยวผมจัดการเอง แต่หาทางทำก่อน วันนี้ถ้าประชาชนร่วมมือกัน ไม่ทำให้ความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ต้องออกมาทำงาน การกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน ก็จะไม่เกิด โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงการปฏิรูป ผมทราบดีว่า คนไทยมีอิสรเสรีกันมานาน วันนี้รัฐบาลมีเวลาทำงานมา 7-8 เดือนเอง ถ้าจะให้ทุกอย่างมันเสร็จแล้วรีบๆไป มันก็มีตารางเวลาตามโรดแมปอยู่แล้วไม่ใช่หรือ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก ในบางพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี และกฎอัยการศึก ก็มีอยู่แล้วในเขตชายแดนภาคใต้ 30 กว่าอำเภอ ยังไม่เคยยกเลิกเลย แต่พอเอามาใช้ทั่วประเทศ ก็ตื่นเต้นกัน ถ้าไม่ทำความผิด ก็ไม่ต้องกลัว แล้วตนจะดูแลให้ ซึ่งกำลังหาทางอยู่
เมื่อถามว่า ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ จะมีการพิจารณาเรื่องกฎอัยการศึก หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมบอกแล้วว่า ผมกำลังดูเรื่องนี้อยู่ เดี๋ยวผมจะดูให้ มันจะออกเป็นกฎอะไร เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน "
ทั้งนี้ ในการดำเนินการ จำเป็นต้องพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเรื่องของสิทธิประโยชน์ ภาษี เงินทุน และระยะเวลาในการประกอบการ ต้องเกิดประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด และไม่สูญเสียสภาพสิ่งแวดล้อมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยังคงกฎอัยการศึก จะส่งผลกระทบต่อการลงทุน เพราะไม่มีบริษัทใดกล้าที่จะรับทำประกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราให้เฉพาะการท่องเที่ยว โดยตั้งงบไว้ 200 ล้านบาท ดังนั้น ถ้ามาลงทุน เราก็น่าจะให้ได้ โดยจะขอรับเรื่องนี้ไป สำหรับกฎอัยการศึกนั้นรัฐบาลกำลังหากฎหมายเข้ามาดูแลอยู่ รัฐบาลมีความเป็นห่วงไม่น้อยไปกว่าทุกคน และใช้อำนาจด้วยความระมัดระวัง
เมื่อถามว่า มีการเตรียมกฎหมายที่เบากว่ากฎอัยการศึก เข้ามาดูแลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี แต่จะดูแลให้ได้
"ทุกคนรู้อยู่ว่า มีคนที่รอออกมาเคลื่อนไหว แม้จะมีกฎอัยการศึก ก็ยังไม่กลัว ยังมีการวางระเบิด แล้วยังมาถามผมอีกว่า แสดงว่าเขาไม่กลัวกฎอัยการศึกใช่ไหม แล้วจะมีไว้ทำไม มันจะมีอะไรหนักกว่านี้อีก แต่ถามอย่างนี้ ก็ดีเหมือนกัน อะไรท่านก็ไม่รับ เขียนอะไรมา ก็ไม่รับ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า จะใช้เวลาประเมินอีกนานแค่ไหน ในการคงไว้ซึ่งกฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โปรดติดตาม กำลังร่างอยู่ ตนร้อนใจอยู่เหมือนกัน คิดว่าจะทำอย่างไร ให้มันสงบ
เมื่อถามว่า จะมีการนำ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาใช้แทนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง เขาเคยใช้หรือยัง แล้วใช้ได้ผลหรือไม่ ที่ผ่านมามีการใช้ทุกอย่างแล้ว ทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนกระทั่งมาถึงกฎอัยการศึก ถึงหยุดได้
"ขอถามว่า จะถอยหลังกลับไปมากๆ ได้หรือไม่ ท้ายที่สุดถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำ ก็จะถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่พอทำไปมีการกระทบกระทั่งแรงกันมาก เจ้าหน้าที่ก็เดือดร้อนอีก นั่นล่ะคนไทย อย่าไปคิดเรื่องกฎหมาย เดี๋ยวผมจัดการเอง แต่หาทางทำก่อน วันนี้ถ้าประชาชนร่วมมือกัน ไม่ทำให้ความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ต้องออกมาทำงาน การกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน ก็จะไม่เกิด โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงการปฏิรูป ผมทราบดีว่า คนไทยมีอิสรเสรีกันมานาน วันนี้รัฐบาลมีเวลาทำงานมา 7-8 เดือนเอง ถ้าจะให้ทุกอย่างมันเสร็จแล้วรีบๆไป มันก็มีตารางเวลาตามโรดแมปอยู่แล้วไม่ใช่หรือ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก ในบางพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี และกฎอัยการศึก ก็มีอยู่แล้วในเขตชายแดนภาคใต้ 30 กว่าอำเภอ ยังไม่เคยยกเลิกเลย แต่พอเอามาใช้ทั่วประเทศ ก็ตื่นเต้นกัน ถ้าไม่ทำความผิด ก็ไม่ต้องกลัว แล้วตนจะดูแลให้ ซึ่งกำลังหาทางอยู่
เมื่อถามว่า ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ จะมีการพิจารณาเรื่องกฎอัยการศึก หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมบอกแล้วว่า ผมกำลังดูเรื่องนี้อยู่ เดี๋ยวผมจะดูให้ มันจะออกเป็นกฎอะไร เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน "
