เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (8 มี.ค.) ร.ต.ท.มนตรี จันทร์เมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์ บริเวณลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟรือเสาะ และอยู่ตรงข้ามตลาดสดรือเสาะ ซึ่งตั้งอยู่ ม.1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 9 ราย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.รือเสาะ พ.ต.ท.เนติธร วัตตธรรม หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้ง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบซากชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีขาวดำ ทะเบียน ขจย 616 นราธิวาส ที่คนร้ายได้ซุกซ่อนระเบิดที่ประกอบในถังแก๊สปิคนิค ซึ่งตัดครึ่งหนึ่ง หนักประมาณ 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าออกของตลาดสด และมีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย จำนวน 6 คัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 9 ราย เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 11 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ 1. ส.อ.ทวีวัฒน์ อ่อนขวัญเพชร หน.ชุดอาการสาหัส 2. อส.ทพ.วิฑูรย์ มาจังหนีด 3. อส.ทพ.ประสิทธิชัย เพิ่มพูน และชาวบ้านอีก 6 ราย คือ 1. นายต่วน ดาโอ๊ะ 2. นายอันวาร์ เต๊ะ 3. นายมะยูนิ แวนิ อาการสาหัส 4. นายอับดุลเลาะห์ ดอเลาะ 5. นางนูรีดา อามะ และ 6. น.ส.ซากีมะ สาและ อายุ 16 ปี
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแอบแฝงตัวขี่รถ จยย. ที่ซุกระเบิดปะปนกับชาวบ้านมาจอดที่บริเวณลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟรือเสาะ ข้างประตูทางเข้าตลาดสด โดยทำทีมาจ่ายตลาด และคนร้ายเดินหายเข้าไปในตลาด เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน 3 นาย กำลังเดินถือเสบียงอาหารหลังเสร็จสิ้นจากการจ่ายตลาด เพื่อที่จะไปขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดไว้ คนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร และชาวบ้านที่กำลังเดินเพื่อจะเข้าไปซื้อของในตลาดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ต่อมา นายจำนัล เหมือนดำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าระเบิดต่อวงจรไม่สมบูรณ์ทำให้แรงระเบิดเกิดขึ้นในวงแคบ จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 3 ฝ่ายในพื้นที่รือเสาะ ประชุมติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ที่สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ โดยจะทำการสอบสวนจากผู้เห็นเหตุการณ์ และเข้าตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความเคลื่อนไหว โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่รือเสาะ
ส่วนกรณีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้บริเวณจุดเกิดเหตุ ในเบื้องต้น พบว่ากล้องดังกล่าวเกิดชำรุดไม่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามเสาไฟฟ้าจุดต่างๆ บนเส้นทางภายในเขตเทศบาล โดยมุ่งหน้าไปยังหน้าสถานีรถไฟจุดเกิดเหตุ เพื่อดูพฤติกรรมของคนร้ายอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า กล้องวงจรปิดจุดใดจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้บ้าง
สำหรับรถ จยย.คันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ตรวจสอบเป็นรถจักรยานยนต์ของ ครูฉัตรสุดา นิลสุวรรณ (ครูนก) ครูโรงเรียนบ้านตาโง๊ะ อ.เจาะไอร้อง ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เมื่อ 3 ธ.ค.55 และเอารถจักรยานยนต์ไปด้วย และนำมาก่อเหตุครั้งนี้
**ช่วยกันประณามพฤติกรรมโจรใต้
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้ ว่า ตามปกติในบริเวณใกล้เคียง ได้จัดให้มีตลาดเช้า ผลทำให้เจ้าหน้าที่สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 (ฉก.ทพ.11) ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และ ประชาชนได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย นั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือได้ว่า เป็นเหตุความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ จชต. และขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันประณามต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง (ผกร.) ที่ยังคงพยายามยกระดับสถานการณ์ในพื้นที่ ด้วยการใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนโดยอาศัยทุกโอกาสที่มี และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนที่เป็นผลกระทบต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด ทั้งที่ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน.คสช. ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมกับวางรากฐานการพัฒนาอย่างมั่นคงให้มีความยั่งยืนทุกด้าน ขณะนี้ประเทศกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี รวมถึงสถานการณ์ในพื้นที่ จชต. ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ได้กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ต่างเบื่อหน่ายต่อวิธีการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ก่อการร้าย และได้หันมาให้ความร่วมมือกับทางราชการจำนวนมาก ทุกคนต่างปรารถนาความสงบเรียบร้อย ความสุขในชีวิตอันประกอบด้วย คุณภาพชีวิตที่ดี และความอยู่ดีกินดี อย่างไรก็ตาม ขอให้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงมุ่งมั่นพยายามควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ภายใต้การอำนวยการของ มทภ.4 / ผอ.รมน. ภาค 4 อย่างเต็มความสามารถ
พบซากชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีขาวดำ ทะเบียน ขจย 616 นราธิวาส ที่คนร้ายได้ซุกซ่อนระเบิดที่ประกอบในถังแก๊สปิคนิค ซึ่งตัดครึ่งหนึ่ง หนักประมาณ 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าออกของตลาดสด และมีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย จำนวน 6 คัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 9 ราย เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 11 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ 1. ส.อ.ทวีวัฒน์ อ่อนขวัญเพชร หน.ชุดอาการสาหัส 2. อส.ทพ.วิฑูรย์ มาจังหนีด 3. อส.ทพ.ประสิทธิชัย เพิ่มพูน และชาวบ้านอีก 6 ราย คือ 1. นายต่วน ดาโอ๊ะ 2. นายอันวาร์ เต๊ะ 3. นายมะยูนิ แวนิ อาการสาหัส 4. นายอับดุลเลาะห์ ดอเลาะ 5. นางนูรีดา อามะ และ 6. น.ส.ซากีมะ สาและ อายุ 16 ปี
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแอบแฝงตัวขี่รถ จยย. ที่ซุกระเบิดปะปนกับชาวบ้านมาจอดที่บริเวณลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟรือเสาะ ข้างประตูทางเข้าตลาดสด โดยทำทีมาจ่ายตลาด และคนร้ายเดินหายเข้าไปในตลาด เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน 3 นาย กำลังเดินถือเสบียงอาหารหลังเสร็จสิ้นจากการจ่ายตลาด เพื่อที่จะไปขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดไว้ คนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร และชาวบ้านที่กำลังเดินเพื่อจะเข้าไปซื้อของในตลาดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ต่อมา นายจำนัล เหมือนดำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าระเบิดต่อวงจรไม่สมบูรณ์ทำให้แรงระเบิดเกิดขึ้นในวงแคบ จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 3 ฝ่ายในพื้นที่รือเสาะ ประชุมติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ที่สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ โดยจะทำการสอบสวนจากผู้เห็นเหตุการณ์ และเข้าตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความเคลื่อนไหว โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่รือเสาะ
ส่วนกรณีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้บริเวณจุดเกิดเหตุ ในเบื้องต้น พบว่ากล้องดังกล่าวเกิดชำรุดไม่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามเสาไฟฟ้าจุดต่างๆ บนเส้นทางภายในเขตเทศบาล โดยมุ่งหน้าไปยังหน้าสถานีรถไฟจุดเกิดเหตุ เพื่อดูพฤติกรรมของคนร้ายอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า กล้องวงจรปิดจุดใดจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้บ้าง
สำหรับรถ จยย.คันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ตรวจสอบเป็นรถจักรยานยนต์ของ ครูฉัตรสุดา นิลสุวรรณ (ครูนก) ครูโรงเรียนบ้านตาโง๊ะ อ.เจาะไอร้อง ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เมื่อ 3 ธ.ค.55 และเอารถจักรยานยนต์ไปด้วย และนำมาก่อเหตุครั้งนี้
**ช่วยกันประณามพฤติกรรมโจรใต้
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้ ว่า ตามปกติในบริเวณใกล้เคียง ได้จัดให้มีตลาดเช้า ผลทำให้เจ้าหน้าที่สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 (ฉก.ทพ.11) ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และ ประชาชนได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย นั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือได้ว่า เป็นเหตุความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ จชต. และขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันประณามต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง (ผกร.) ที่ยังคงพยายามยกระดับสถานการณ์ในพื้นที่ ด้วยการใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนโดยอาศัยทุกโอกาสที่มี และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนที่เป็นผลกระทบต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด ทั้งที่ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน.คสช. ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมกับวางรากฐานการพัฒนาอย่างมั่นคงให้มีความยั่งยืนทุกด้าน ขณะนี้ประเทศกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี รวมถึงสถานการณ์ในพื้นที่ จชต. ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ได้กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ต่างเบื่อหน่ายต่อวิธีการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ก่อการร้าย และได้หันมาให้ความร่วมมือกับทางราชการจำนวนมาก ทุกคนต่างปรารถนาความสงบเรียบร้อย ความสุขในชีวิตอันประกอบด้วย คุณภาพชีวิตที่ดี และความอยู่ดีกินดี อย่างไรก็ตาม ขอให้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงมุ่งมั่นพยายามควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ภายใต้การอำนวยการของ มทภ.4 / ผอ.รมน. ภาค 4 อย่างเต็มความสามารถ