ASTVผู้จัดการรายวัน - ”เลนญ่า” ขยายฐาน จับกลุ่มลูกค้าคนไทย เปิดจิวเวลรี่เอาท์เล็ตแห่งแรก คาด 3 ปีแรกแตะ 500 ล้านบาท สวนทางจีดีพี มั่นใจกลยุทธ์ราคา ดีไซน์หรูหรา คุณภาพและราคาส่งออก เพิ่มแชร์วงการเครื่องประดับ หวังหญิงไทยวัยทำงานช้อปจิวเวลรี่มากขึ้น
นางนทีทอง ทองไทย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับเพชรและพลอย กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนไทยมากขึ้น หลังจากที่ได้สร้างฐานลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรปและจีนมานานกว่า 5 ปีจนมีความมั่นคงแล้ว โดยกลยุทธ์หลักคือ การเปิดจิวเวลรี่ แฟคทอรี่ เอาท์เล็ต บนถนนบางนา-ตราด ใช้พื้นที่ 150 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นเอาท์เล็ตแห่งแรกในประเทศไทย
โดยทำหน้าที่เป็นโชว์รูมหรือดิสเพลย์แคตตาล็อกที่ลูกค้าสามารถเข้ามาชมสินค้าและสั่งผลิตตามสายงานการผลิตซึ่งจะทำให้เหมาะแก่ความต้องการของผู้บริโภค โดยอาจปรับขนาด เปลี่ยนอัญมณี พลอยต่างๆ ตามที่ต้องการได้ แฟคทอรี่ เอาท์เล็ต เครื่องประดับโชว์ในร้านให้ชมมากกว่า 1000 แบบ การอกแบบเครื่องประดับแต่ละเซ็ตจะมาจากแรงบันดาลใจในเรื่องราวต่างๆ เพื่อให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงมีรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร
การลงทุนดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการสวนกระแสกับเศรษฐกิจไทยเพราะเป็นช่วงที่ฝืดเคืองและไม่ค่อยดี รายได้ของประชาชาติเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคาด้วย แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าเครื่องประดับยังมีความต้องการจากกลุ่มคนทำงานที่ต้องการสวมใส่เครื่องประดับเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้ดูโดดเด่นและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อีกทั้งเครื่องประดับของเลนญ่ามีดีไซน์ที่หรูหราในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้
การขยายฐานครั้งนี้จะทำให้คนไทยได้สวมใส่เครื่องประดับคุณภาพส่งออกในราคาโรงงาน ซึ่งจะถูกกว่าราคาขายปลีกประมาณ 50 -60% และในไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะทำรายได้ 50 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีหลังยอดขายจะโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงเทศกาลที่ผู้บริโภคต้องจับจ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ของขวัญ
สำหรับเอาท์เล็ตแห่งนี้มิได้เป็นการแบ่งสัดส่วนตลาดจากร้านจิวเวลรี่ในย่านหรูแต่เป็นการเพิ่มการจับจ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจสะสมเครื่องประดับของแท้มาใช้ในชี่วิตประจำวัน ให้สามารถสวมใส่เครื่องประดับในราคาที่เหมาะสม ด้านฝีมือในการผลิตเครื่องประดับของคนไทยนั้นได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาครัฐให้การสนับสนุนส่งเสริมด้านฝีมือแรงงาน และการสนับสนุนด้านอื่นๆ อาทิจาก BOI อีกทั้งภาพรวมของประเทศไทย เพศหญิงมีจำนวนมากกว่าเพศชาย ก็จะทำให้ยอดจำหน่ายสูงขึ้นจากปัจจัยนี้อีกเช่นกัน บริษัท ฯ ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ประมาณ 500 ล้านบาท ภาพรวมจากการใช้เครื่องประดับของผู้หญิงในปัจจุบัน จะสวมใส่เครื่องประดับอัญมณีแท้ในโอกาสพิเศษ
ทั้งนี้ บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด เป็นบริษัทที่ผลิตและส่งออกเครื่องประดับเพชร พลอย เครื่องประดับแฟชั่นประดับเพชรประเภท Diamondlike และ Swarovski Zirconia ตลาดใหญ่สำหรับการส่งออกของบริษัท ได้แก่ตลาดยุโรป และจีน คาดการณ์สัดส่วนรายได้จากการส่งออกและจากการขายในเอ้าท์เล็ต คิดเป็น 50 : 50 เท่ากัน ภายใน 3 ปีข้างหน้า ตลาดจิวเวลรี่ในประเทศไทย แบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออกและผลิตเพื่อขายในประเทศ มูลค่าในการส่งออกโดยเฉลี่ย 323,500 ล้านบาท ในปี 2557 ซึ่งเป็นหมวดสินค้าที่ทำรายได้อันดับ 4 ของประเทศ สัดส่วนการส่งออกและบริโภคในประเทศคิดเป็น 80 : 20%
นางนทีทอง ทองไทย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับเพชรและพลอย กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนไทยมากขึ้น หลังจากที่ได้สร้างฐานลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรปและจีนมานานกว่า 5 ปีจนมีความมั่นคงแล้ว โดยกลยุทธ์หลักคือ การเปิดจิวเวลรี่ แฟคทอรี่ เอาท์เล็ต บนถนนบางนา-ตราด ใช้พื้นที่ 150 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นเอาท์เล็ตแห่งแรกในประเทศไทย
โดยทำหน้าที่เป็นโชว์รูมหรือดิสเพลย์แคตตาล็อกที่ลูกค้าสามารถเข้ามาชมสินค้าและสั่งผลิตตามสายงานการผลิตซึ่งจะทำให้เหมาะแก่ความต้องการของผู้บริโภค โดยอาจปรับขนาด เปลี่ยนอัญมณี พลอยต่างๆ ตามที่ต้องการได้ แฟคทอรี่ เอาท์เล็ต เครื่องประดับโชว์ในร้านให้ชมมากกว่า 1000 แบบ การอกแบบเครื่องประดับแต่ละเซ็ตจะมาจากแรงบันดาลใจในเรื่องราวต่างๆ เพื่อให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงมีรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร
การลงทุนดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการสวนกระแสกับเศรษฐกิจไทยเพราะเป็นช่วงที่ฝืดเคืองและไม่ค่อยดี รายได้ของประชาชาติเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคาด้วย แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าเครื่องประดับยังมีความต้องการจากกลุ่มคนทำงานที่ต้องการสวมใส่เครื่องประดับเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้ดูโดดเด่นและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อีกทั้งเครื่องประดับของเลนญ่ามีดีไซน์ที่หรูหราในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้
การขยายฐานครั้งนี้จะทำให้คนไทยได้สวมใส่เครื่องประดับคุณภาพส่งออกในราคาโรงงาน ซึ่งจะถูกกว่าราคาขายปลีกประมาณ 50 -60% และในไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะทำรายได้ 50 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีหลังยอดขายจะโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงเทศกาลที่ผู้บริโภคต้องจับจ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ของขวัญ
สำหรับเอาท์เล็ตแห่งนี้มิได้เป็นการแบ่งสัดส่วนตลาดจากร้านจิวเวลรี่ในย่านหรูแต่เป็นการเพิ่มการจับจ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจสะสมเครื่องประดับของแท้มาใช้ในชี่วิตประจำวัน ให้สามารถสวมใส่เครื่องประดับในราคาที่เหมาะสม ด้านฝีมือในการผลิตเครื่องประดับของคนไทยนั้นได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาครัฐให้การสนับสนุนส่งเสริมด้านฝีมือแรงงาน และการสนับสนุนด้านอื่นๆ อาทิจาก BOI อีกทั้งภาพรวมของประเทศไทย เพศหญิงมีจำนวนมากกว่าเพศชาย ก็จะทำให้ยอดจำหน่ายสูงขึ้นจากปัจจัยนี้อีกเช่นกัน บริษัท ฯ ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ประมาณ 500 ล้านบาท ภาพรวมจากการใช้เครื่องประดับของผู้หญิงในปัจจุบัน จะสวมใส่เครื่องประดับอัญมณีแท้ในโอกาสพิเศษ
ทั้งนี้ บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด เป็นบริษัทที่ผลิตและส่งออกเครื่องประดับเพชร พลอย เครื่องประดับแฟชั่นประดับเพชรประเภท Diamondlike และ Swarovski Zirconia ตลาดใหญ่สำหรับการส่งออกของบริษัท ได้แก่ตลาดยุโรป และจีน คาดการณ์สัดส่วนรายได้จากการส่งออกและจากการขายในเอ้าท์เล็ต คิดเป็น 50 : 50 เท่ากัน ภายใน 3 ปีข้างหน้า ตลาดจิวเวลรี่ในประเทศไทย แบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออกและผลิตเพื่อขายในประเทศ มูลค่าในการส่งออกโดยเฉลี่ย 323,500 ล้านบาท ในปี 2557 ซึ่งเป็นหมวดสินค้าที่ทำรายได้อันดับ 4 ของประเทศ สัดส่วนการส่งออกและบริโภคในประเทศคิดเป็น 80 : 20%