นโยบายสร้างความปรองดองกำลังเดินหน้าดุ่ยๆ ไม่มีการทบทวน ไม่มีสะดุดชะงักแต่อย่างใด ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและสภาปฏิรูปไม่ฟังทั้งสิ้น
ถึงขณะนี้ ต้องสรุปว่า นโยบายสร้างความปรองดองต้องดันกันสุดซอย แม้ว่า สุดท้ายประชาชนจะไม่ได้อะไร และสังคมจะไม่เกิดความปรองดองขึ้นอย่างแท้จริงก็ตาม
เพราะเมื่อโจทก์ถูกตั้งไว้ จะต้องสร้างความปรองดองให้ได้ โดยไม่มีบรรทัดฐาน แยกคนชั่วออกจากคนดี ไม่มีการตีเส้น แยกคนผิดออกจากคนถูก และยังเดินหน้า หลับหูหลับตาเจรจากับหัวโจกคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมก่อความวุ่นวาย โดยไม่ยอมพูดถึงการกระทำผิดกฎหมาย เผาบ้านเผาเมือง
จะให้มวลมหาประชาชนยอมรับนโยบายปรองดองหรือ
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะทำอะไรก็ทำไป สมาชิกสภาปฏิรูปบางคนที่อยากได้หน้า จะปรองดองกับใครก็เชิญ แต่มวลมหาประชาชนขอไม่เอาด้วย
ที่ไม่เอาด้วยไม่ใช่เพราะไม่อยากให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ไม่ใช่เพราะไม่ชอบขี้หน้า สนช.บางคน และไม่ใช่เป็นเพราะไม่ต้องการเห็นการคืนความสุขให้ประชาชน
แต่เพราะไม่มีความเชื่อแม้แต่น้อยว่า นโยบายสร้างความปรองดองจะคืนความสุขให้ประชาชนได้
การส่งคนลงไปคุยกับหัวโจกคนเสื้อแดงที่เป็นลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นแกนนำปลุกระดมมวลชนมาคุกคามข่มขู่องค์กรต่างๆ ทำตัวเป็นกลุ่มอันธพาลนิยมความรุนแรง ปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง จนยกระดับตัวเองเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นเศรษฐี สู้แล้วรวยในพริบตา มวลมหาประชาชนที่ไหนจะยอมรับ
หัวโจกคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมสร้างความแตกแยก ยั่วยุการใช้ความรุนแรง จุดชนวนเผาบ้านเผาเมือง กระทำความผิดมากมาย แทนที่จะเร่งรัดดำเนินคดีตามกฎหมาย
รัฐบาลชุดนี้ สนช.หลายคนในชุดนี้ กลับไปให้ราคาหัวโจกเสื้อแดง สร้างบรรทัดฐานที่บัดซบทางสังคม โดยไปให้ความสำคัญกับกลุ่มคนที่ก่อเรื่องชั่วร้ายถึงขั้นมี สนช.ที่มองโลกสวยและเป็นนักสร้างภาพลงไปเจรจาด้วย
ทำไมไม่ค่อยมีใครไปคุยกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำไมไม่ค่อยมีใครลงไปจับเข่าคุยกับแกนนำมวลมหาประชาชนที่แสดงจุดยืนชัดเจน ในการต่อต้านรัฐบาลทรราช นักการเมืองเลวๆ และมีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปประเทศไทยในทุกภาคส่วน
คำตอบคือ รัฐบาลรู้ดีว่า จะสร้างภาพกับแกนนำมวลมหาประชาชนที่มีอุดมการณ์จริงไม่ได้ จะชวนปรองดองโดยให้ไปจับมือกับคนเลวก็ไม่มีวัน
และสนช.นักสร้างภาพก็รู้ดีว่า สมอง ปัญญา อุดมการณ์เพื่อประชาชนและจุดยืนการปฏิรูปประเทศ ไม่มีวันสู้กับแกนนำมวลมหาประชาชนได้ จึงวิ่งแจ้นไปจ๊ะจ๋ากับแกนนำคนเสื้อแดง
นโยบายปรองดองคงถูลู่ถูกัง ผลักดันกันจนถึงฝั่ง แต่อาจเป็นการปรองดองกันแค่สองฝ่าย ระหว่างฝ่ายเขียวกับฝ่ายแดง ระหว่างรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์กับลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ
เพราะมองไม่ออกว่า มวลมหาประชาชนที่ไหนจะร่วมด้วย มองไม่เห็นว่า แกนนำมวลมหาประชาชนคนใดจะเสนอหน้าร่วมปรองดองกับแกนนำคนเสื้อแดง
ถ้าจะเสนอหน้าร่วมปรองดอง จะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ได้รับฉันทามติจากมวลมหาประชาชนที่ไหน เมื่อไหร่ และมีเหตุผลใดที่จะไปจับมือกับลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณที่เลวสุดๆ ถึงขั้นปลุกระดมให้พี่น้องคนไทยฆ่ากันตาย เลวสุดๆ ถึงขั้นปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง เพียงเพื่อแสดงผลงานให้พ.ต.ท.ทักษิณเห็น
แม้แต่พระสุเทพ เทือกสุบรรณ วันนี้ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นตัวแทนมวลมหาประชาชนทั้งหมด และโดดเข้าร่วมในนโยบายปรองดอง
คงห้ามกันไม่ได้ ถ้าจะดันทุรังเดินหน้าปรองดองต่อไป ด้วยปรัชญาและแนวคิดเดิมๆ แต่ไม่มีวันที่มวลมหาประชาชนจะเอาด้วย
นโยบายปรองดองถ้าเกิดขึ้นได้ ก็เกิดจากการขืนใจมวลมหาประชาชนเท่านั้น สนุกกับการขืนใจก็ทำกันไปแล้วกัน
ถึงขณะนี้ ต้องสรุปว่า นโยบายสร้างความปรองดองต้องดันกันสุดซอย แม้ว่า สุดท้ายประชาชนจะไม่ได้อะไร และสังคมจะไม่เกิดความปรองดองขึ้นอย่างแท้จริงก็ตาม
เพราะเมื่อโจทก์ถูกตั้งไว้ จะต้องสร้างความปรองดองให้ได้ โดยไม่มีบรรทัดฐาน แยกคนชั่วออกจากคนดี ไม่มีการตีเส้น แยกคนผิดออกจากคนถูก และยังเดินหน้า หลับหูหลับตาเจรจากับหัวโจกคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมก่อความวุ่นวาย โดยไม่ยอมพูดถึงการกระทำผิดกฎหมาย เผาบ้านเผาเมือง
จะให้มวลมหาประชาชนยอมรับนโยบายปรองดองหรือ
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะทำอะไรก็ทำไป สมาชิกสภาปฏิรูปบางคนที่อยากได้หน้า จะปรองดองกับใครก็เชิญ แต่มวลมหาประชาชนขอไม่เอาด้วย
ที่ไม่เอาด้วยไม่ใช่เพราะไม่อยากให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ไม่ใช่เพราะไม่ชอบขี้หน้า สนช.บางคน และไม่ใช่เป็นเพราะไม่ต้องการเห็นการคืนความสุขให้ประชาชน
แต่เพราะไม่มีความเชื่อแม้แต่น้อยว่า นโยบายสร้างความปรองดองจะคืนความสุขให้ประชาชนได้
การส่งคนลงไปคุยกับหัวโจกคนเสื้อแดงที่เป็นลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นแกนนำปลุกระดมมวลชนมาคุกคามข่มขู่องค์กรต่างๆ ทำตัวเป็นกลุ่มอันธพาลนิยมความรุนแรง ปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง จนยกระดับตัวเองเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นเศรษฐี สู้แล้วรวยในพริบตา มวลมหาประชาชนที่ไหนจะยอมรับ
หัวโจกคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมสร้างความแตกแยก ยั่วยุการใช้ความรุนแรง จุดชนวนเผาบ้านเผาเมือง กระทำความผิดมากมาย แทนที่จะเร่งรัดดำเนินคดีตามกฎหมาย
รัฐบาลชุดนี้ สนช.หลายคนในชุดนี้ กลับไปให้ราคาหัวโจกเสื้อแดง สร้างบรรทัดฐานที่บัดซบทางสังคม โดยไปให้ความสำคัญกับกลุ่มคนที่ก่อเรื่องชั่วร้ายถึงขั้นมี สนช.ที่มองโลกสวยและเป็นนักสร้างภาพลงไปเจรจาด้วย
ทำไมไม่ค่อยมีใครไปคุยกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำไมไม่ค่อยมีใครลงไปจับเข่าคุยกับแกนนำมวลมหาประชาชนที่แสดงจุดยืนชัดเจน ในการต่อต้านรัฐบาลทรราช นักการเมืองเลวๆ และมีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปประเทศไทยในทุกภาคส่วน
คำตอบคือ รัฐบาลรู้ดีว่า จะสร้างภาพกับแกนนำมวลมหาประชาชนที่มีอุดมการณ์จริงไม่ได้ จะชวนปรองดองโดยให้ไปจับมือกับคนเลวก็ไม่มีวัน
และสนช.นักสร้างภาพก็รู้ดีว่า สมอง ปัญญา อุดมการณ์เพื่อประชาชนและจุดยืนการปฏิรูปประเทศ ไม่มีวันสู้กับแกนนำมวลมหาประชาชนได้ จึงวิ่งแจ้นไปจ๊ะจ๋ากับแกนนำคนเสื้อแดง
นโยบายปรองดองคงถูลู่ถูกัง ผลักดันกันจนถึงฝั่ง แต่อาจเป็นการปรองดองกันแค่สองฝ่าย ระหว่างฝ่ายเขียวกับฝ่ายแดง ระหว่างรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์กับลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ
เพราะมองไม่ออกว่า มวลมหาประชาชนที่ไหนจะร่วมด้วย มองไม่เห็นว่า แกนนำมวลมหาประชาชนคนใดจะเสนอหน้าร่วมปรองดองกับแกนนำคนเสื้อแดง
ถ้าจะเสนอหน้าร่วมปรองดอง จะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ได้รับฉันทามติจากมวลมหาประชาชนที่ไหน เมื่อไหร่ และมีเหตุผลใดที่จะไปจับมือกับลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณที่เลวสุดๆ ถึงขั้นปลุกระดมให้พี่น้องคนไทยฆ่ากันตาย เลวสุดๆ ถึงขั้นปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง เพียงเพื่อแสดงผลงานให้พ.ต.ท.ทักษิณเห็น
แม้แต่พระสุเทพ เทือกสุบรรณ วันนี้ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นตัวแทนมวลมหาประชาชนทั้งหมด และโดดเข้าร่วมในนโยบายปรองดอง
คงห้ามกันไม่ได้ ถ้าจะดันทุรังเดินหน้าปรองดองต่อไป ด้วยปรัชญาและแนวคิดเดิมๆ แต่ไม่มีวันที่มวลมหาประชาชนจะเอาด้วย
นโยบายปรองดองถ้าเกิดขึ้นได้ ก็เกิดจากการขืนใจมวลมหาประชาชนเท่านั้น สนุกกับการขืนใจก็ทำกันไปแล้วกัน