xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"พาเมียทัวร์ดอยอ่างขาง กินสตรอเบอรี่ฟังเด็กร้องเพลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 08.00 น.วานนี้ (17ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อม นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะประกอบด้วย นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากฝูงเครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (ขสทบ.) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อไปยัง ดอยอ่างขาง ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุน งานโครงการหลวง (กปส.) พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการ และถวายกำลังใจให้หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง จากนั้นในช่วงบ่ายจะเดินทางไปที่ จ.น่าน เพื่อรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้คณะของนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร เชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.15 น. จากนั้นเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยังสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ครั้งที่ 1/2558 ทั้งนี้ ม.จ.ภีศเดช ดิศกุล ประธานมูลนิธิโครงการหลวง คณะกรรมการ กปส. และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อร่วมกันแสดงความคิดเห็น เสนอแนะแนวทางต่างๆ ในการดูแลและพัฒนาโครงการหลวงให้เจริญก้าวหน้าตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว ในการส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวแก่ชาวเขา เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น และสร้างความเป็นอยู่ที่ดี มีอาชีพที่สุจริตสามารถดูแลตัวเองได้
ทั้งนี้ การดูแลและพัฒนาโครงการหลวงให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยยุทธศาสตร์การบริหารจัดการที่มีคุณภาพ ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งเรื่องการวิจัยและพัฒนากระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการวางแผนทางการตลาด เพื่อจัดจำหน่ายให้ทั่วถึง ตลอดจนคำนึงถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม ซึ่งจะส่งผลให้ชุมชน มีความเข้มแข็ง ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี
ในส่วนของรัฐบาลต้องการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ยกระดับรายได้ของประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตร ยังมีปัญหาเรื่องระบบชลประทาน รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเกษตรกรเรื่องการเพาะปลูก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะการทำโซนนิ่งพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ และพื้นที่การเพาะปลูกสำหรับผลการประชุม ที่ประชุม คณะกรรมการ กปส. มีมติเห็นชอบในหลักการยุทธศาตร์ แผนงาน และคำของบประมาณปี พ.ศ. 2559 ที่สนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวง จำนวน 38 แห่ง จำนวนเงิน 547,300,028 บาท และโครงการขยายผลโครงการหลวง จำนวน 29 แห่ง จำนวนเงิน 356,692,115 บาท โดยมอบหมายให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาให้การสนับสนุนตามความเหมาะสมต่อไป พร้อมทั้ง เห็นชอบการขอเพิกถอนพื้นที่มูลนิธิโครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์กรมหาชน) ออกจากเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
นอกจากนี้ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ จำนวน 35 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและติดตั้งระบบงาน ERP ระยะที่ 2 ของมูลนิธิโครงการหลวง เพื่อยกระดับเพิ่มความสามารถของบุคลากรด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล บริหารโครงการ ระบบบริหารงานและการกระจายสินค้า
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เยี่ยมฐานปฏิบัติงานบ้านนอแล และกิจกรรมสถานีวิจัยเกษตรหลวงอ่างขาง แปลงสตรอเบอรี่ ของเกษตรกร อาคารคัดบรรจุผลผลิต และแปลงวิจัยไม้ผลเขตหนาว ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ปลูกต้นซากุระญี่ปุ่นไว้เป็นที่ระลึกด้วย จากนั้นคณะของนายกฯ ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ สโมสรอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการเยี่ยมชมแปลงสตรอเบอรี่ของเกษตรกร นายกฯได้มอบอุปกรณ์การเรียนและผ้าห่มกันหนาวให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านขอบด้ง ที่มาให้การต้อนรับ จากนั้นได้สอบถามเกษตรกรถึงการปลูกและผลผลิตของสตรอเบอรี่ โดยตัวแทนเกษตรกรเปิดเผยว่า จากการปลูกสตรอเบอรี่พันธุ์พระราชทาน 80 จะมีรายได้เฉลี่ย 3-4 แสนบาทในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี หรือตกเดือนละราว 3 หมื่นบาทต่อครอบครัว โดยส่วนใหญ่จะนำไปขายที่ตัวเมือง จ.เชียงใหม่ และ กทม.
นอกจากนี้เกษตรกรยังได้นำสตรอเบอรี่นานาชนิดมาให้นายกฯและคณะชิม รวมทั้งนำกลับเป็นของที่ระลึกด้วย โดยก่อนเดินทางออกจากแปลงสตรอเบอรี่ นายกฯได้ให้กลุ่มนักเรียนร้องเพลงคืนความสุข และเพลงวันพรุ่งนี้ให้ฟัง ซึ่งกลุ่มนักเรียกร้องกันได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ทำให้นายกฯมีสีหน้ายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น