ASTVผู้จัดการรายวัน - LPN แจงปี 57 กำไร 2,021 ล้านบาท ลด 13.19% ชี้เหตุหลักจากรายได้ลด จากผลกระทบทางการเมือง เผยแบ็กล็อกตุนในมือ 18,600 ล้านบาท รับรู้ปี 58 กว่า 14,000 ล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN แจ้งผลการดำเนินงานในปี 2557 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,021.40 บาท ลดลงจากปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิ 2,328.58 ล้านบาท หรือลดลง 13.19% เหตุผลหลักมาจากการรับรู้รายได้ที่ลดลงจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ร้อยละ 32.51 ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2556
ปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 12,867.09 ล้านบาท ลดลงจากปี 2556 ที่มีรายได้รวม 14,346.67 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่ลดลงของทุกภาคส่วนตั้งแต่ปลายปี 2556 จนถึงช่วงต้นปี 2557 ในเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งไม่เอื้อต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวม ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับแผน และเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ในช่วงต้นไตรมาส 3 สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้การเปิดตัวขายโครงการและการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้มีการปรับแผนแล้ว โดยไตรมาสที่ 4 บริษัทฯ ได้ส่งมอบโครงการลุมพินีเพลส ยูดี-โพศรี ซึ่งเป็นโครงการแห่งที่ 2 ที่อยู่ต่างจังหวัด (ภาคอีสานตอนบน) ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างน่าพอใจ
ในสิ้นปี 2557 บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) รวม 18,600 ล้านบาท แบ่งเป็นรับรู้รายได้ในปี 2558 จำนวน 14,000 ล้านบาท และปี 2559 จำนวน 4,600 ล้านบาท โดยสรุปในปี 2557 จากการที่มีเวลาทำงานปกติเพียงครึ่งปี หลัง บริษัทฯ เปิดขาย 8 โครงการ มูลค่า 13,111 ล้านบาท และมีโครงการที่ส่งมอบในปี เดียวกันอีก 9 โครงการ มูลค่ารวม 12,981 ล้านบาท จากเหตุการณ์ข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายปี 2557 ลดลงจากปี ก่อน 1,550 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 11.17
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติเสนอให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.26 บาท ในวันที่ 3 กันยายน 2557 ดังนั้น ส่วนที่เหลือจะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.54 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 10 เมษายน 2558.
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN แจ้งผลการดำเนินงานในปี 2557 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,021.40 บาท ลดลงจากปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิ 2,328.58 ล้านบาท หรือลดลง 13.19% เหตุผลหลักมาจากการรับรู้รายได้ที่ลดลงจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ร้อยละ 32.51 ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2556
ปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 12,867.09 ล้านบาท ลดลงจากปี 2556 ที่มีรายได้รวม 14,346.67 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่ลดลงของทุกภาคส่วนตั้งแต่ปลายปี 2556 จนถึงช่วงต้นปี 2557 ในเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งไม่เอื้อต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวม ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับแผน และเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ในช่วงต้นไตรมาส 3 สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้การเปิดตัวขายโครงการและการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้มีการปรับแผนแล้ว โดยไตรมาสที่ 4 บริษัทฯ ได้ส่งมอบโครงการลุมพินีเพลส ยูดี-โพศรี ซึ่งเป็นโครงการแห่งที่ 2 ที่อยู่ต่างจังหวัด (ภาคอีสานตอนบน) ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างน่าพอใจ
ในสิ้นปี 2557 บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) รวม 18,600 ล้านบาท แบ่งเป็นรับรู้รายได้ในปี 2558 จำนวน 14,000 ล้านบาท และปี 2559 จำนวน 4,600 ล้านบาท โดยสรุปในปี 2557 จากการที่มีเวลาทำงานปกติเพียงครึ่งปี หลัง บริษัทฯ เปิดขาย 8 โครงการ มูลค่า 13,111 ล้านบาท และมีโครงการที่ส่งมอบในปี เดียวกันอีก 9 โครงการ มูลค่ารวม 12,981 ล้านบาท จากเหตุการณ์ข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายปี 2557 ลดลงจากปี ก่อน 1,550 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 11.17
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติเสนอให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.26 บาท ในวันที่ 3 กันยายน 2557 ดังนั้น ส่วนที่เหลือจะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.54 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 10 เมษายน 2558.