วานนี้ (10 ก.พ.) นายธนพงศ์พันธ์ ประคองใจ รองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดคมนียเขต สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) พังงา ในฐานะประธานเครือข่ายครูและผู้บริหารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนกลุ่มครูและผู้บริหาร จำนวน 1,224 คน ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านให้มีการสรรหาผู้บริหารสถานศึกษา ครั้งที่ 1/2558 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เนื่องจากเห็นว่า สพฐ. ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวที่มิชอบด้วยกฎหมาย เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลที่อยู่เหนือ สพท. ขึ้นไป โดย สพฐ.ไม่ได้เสนอขออนุมัติตำแหน่งที่ว่าง และปฏิทินการกำหนด วัน และเวลา ในการดำเนินการคัดเลือกพร้อมกันต่อคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ก่อน ขณะเดียวกันตนและพวกยังได้ฟ้องต่อศาลปกครอง กรณีที่ได้รับการประกาศให้ขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านร้อยละ 60 ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา (เพิ่มเติม) สังกัด สพฐ. เนื่องจาก สพฐ. และ ก.ค.ศ. ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาจัดหาตำแหน่งให้ตน และพวกทั้ง 1,224 คน ซึ่งศาลปกครองได้รับฟ้อง และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ดังนั้นควรให้ศาลตัดสินเรื่องนี้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกในอนาคต
“ในขณะที่ยังรอคำตัดสินของศาลปกครองในเรื่องดังกล่าวอยู่ สพฐ.ไม่ควรจัดการสรรหาผู้บริหารสถานศึกษา ในระหว่างนี้ ดังนั้น เครือข่ายครูและผู้บริหารแห่งประเทศไทย จึงทำหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์ไปยังนายกรัฐมนตรี ได้โปรดมีคำสั่งมายังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ระงับการประกาศรับสมัครสรรหาข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รอง ผอ.และ ผอ.สถานศึกษา ในสังกัด สพฐ.ไว้ก่อน จนกว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งถึงที่สุด เพราะหากศาลพิพากษาให้ผม และพวกซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีเป็นฝ่ายชนะคดี ผู้ถูกฟ้องทั้ง สำนักงาน ก.ค.ศ. , เลขาธิการ ก.ค.ศ. และ สพฐ. จะต้องปฎิบัติตามคำสั่งของศาล ในการหาตำแหน่งให้ผม และพวกทั้ง 1,224 คน แต่หากยังปล่อยให้ สพฐ. จัดการสรรหาผู้บริหารสถานศึกษา ครั้งที่ 1/2558 ต่อไปอีก ตัวผมและพวกจะได้รับความเสียหาย เนื่องจากอาจไม่มีตำแหน่งเหลือเพื่อนำมาบรรจุ ถ้าศาลตัดสินให้ชนะคดี อีกทั้งจะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมากมาย” นายธนพงศ์พันธ์ กล่าว
“ในขณะที่ยังรอคำตัดสินของศาลปกครองในเรื่องดังกล่าวอยู่ สพฐ.ไม่ควรจัดการสรรหาผู้บริหารสถานศึกษา ในระหว่างนี้ ดังนั้น เครือข่ายครูและผู้บริหารแห่งประเทศไทย จึงทำหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์ไปยังนายกรัฐมนตรี ได้โปรดมีคำสั่งมายังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ระงับการประกาศรับสมัครสรรหาข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รอง ผอ.และ ผอ.สถานศึกษา ในสังกัด สพฐ.ไว้ก่อน จนกว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งถึงที่สุด เพราะหากศาลพิพากษาให้ผม และพวกซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีเป็นฝ่ายชนะคดี ผู้ถูกฟ้องทั้ง สำนักงาน ก.ค.ศ. , เลขาธิการ ก.ค.ศ. และ สพฐ. จะต้องปฎิบัติตามคำสั่งของศาล ในการหาตำแหน่งให้ผม และพวกทั้ง 1,224 คน แต่หากยังปล่อยให้ สพฐ. จัดการสรรหาผู้บริหารสถานศึกษา ครั้งที่ 1/2558 ต่อไปอีก ตัวผมและพวกจะได้รับความเสียหาย เนื่องจากอาจไม่มีตำแหน่งเหลือเพื่อนำมาบรรจุ ถ้าศาลตัดสินให้ชนะคดี อีกทั้งจะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมากมาย” นายธนพงศ์พันธ์ กล่าว