ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เตรียมจับมือผู้ประกอบการ ห้าง จัดมหกรรมลดราคาสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศอีกครั้งช่วงเดือน พ.ค.นี้ นาน 10 วัน เพื่อลดภาระค่าครองชีพ กระตุ้นการใช้จ่าย และช่วยผู้ประกอบการระบายสต๊อก เผยการเดินตลาด พบราคาสินค้ารับตรุษจีน ทั้งหมู ไก่ ยังคงทรงตัว เตรียมตรวจตลาดเยาวราชอีกครั้งเร็วๆ นี้
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง และร้านสะดวกซื้อ ว่า ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดมหกรรมลดราคาขายสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อลดค่าครองชีพให้ประชาชน กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและระบายสต๊อกให้กับผู้ประกอบการอีกครั้ง ซึ่งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปหารือร่วมกับภาคเอกชนถึงรายละเอียดในการดำเนินการแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนพ.ค.2558 มีระยะเวลา 10 วัน
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ลดราคาสินค้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียน การสอน การศึกษา เพราะเป็นช่วงเปิดเทอม ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง
”การจัดโครงการเทใจ คืนสุขสู่ประชาชน ที่ลดราคาขายสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการแต่ละรายมียอดขายเพิ่มขึ้น จึงได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดทำโครงการลดราคาขายสินค้าในลักษณะเดียวกันนี้อีกครั้งทั่วประเทศ ซึ่งครั้งนี้จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นด้วยเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยอีกทางหนึ่ง”พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ได้รับรายงานว่า ราคาสินค้าอาหารสดไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาก แม้ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนอาหารปรุงสำเร็จ ห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีก เริ่มขายในราคาไม่เกินจานละ 35-40 บาทแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. เฉพาะในกรุงเทพฯ ส่วนสาขาในต่างจังหวัดจะเริ่มขายราคาดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.นี้เป็นต้นไป มีระยะเวลา 4 เดือน
ส่วนการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 9.99 แสนตันนั้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถทราบผลผู้ชนะการประมูล หลังจากได้เปิดให้เสนอราคาเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กรณีที่มีบริษัทแห่งหนึ่งยื่นซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาล แต่มีกระแสข่าวเกี่ยวพันกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจี 4 ฉบับนั้น ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงฯ กำลังพิจารณาอยู่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท สยามอินดิก้าจริง จะต้องถูกตัดสิทธิ์ออกจากการประมูลครั้งนี้ด้วย
วันเดียวกันนี้ นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เดินทางไปตรวจสอบภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ตลาดถนอมมิตร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยพบว่า ราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ส่วนใหญ่มีราคาทรงตัว โดยราคาเนื้อหมู กิโลกรัม (กก.) ละ 130 บาท เนื้อไก่ กก.ละ 80 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากผลผลิตมีมากขึ้น แต่ผลไม้พบว่ามีราคาสูงขึ้นบ้างตามกลไกตลาด เช่น ส้ม โดยระดับราคามีหลายระดับตามคุณภาพ ตั้งแต่ 3 กก. 100 บาท ไปจนถึง กก.ละ 100 บาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในเร็วๆนี้ กรมฯ จะลงพื้นที่ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอาหาร และสินค้ารับเทศกาลตรุษจีนที่ตลาดเยาวราช และยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ค้าภายในที่ประจำอยู่ในจังหวัดต่างๆ ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลให้มีการจำหน่ายสินค้าในราคาที่เหมาะสม ป้องกันไม่ให้สินค้าขาดแคลน และมีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง และร้านสะดวกซื้อ ว่า ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดมหกรรมลดราคาขายสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อลดค่าครองชีพให้ประชาชน กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและระบายสต๊อกให้กับผู้ประกอบการอีกครั้ง ซึ่งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปหารือร่วมกับภาคเอกชนถึงรายละเอียดในการดำเนินการแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนพ.ค.2558 มีระยะเวลา 10 วัน
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ลดราคาสินค้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียน การสอน การศึกษา เพราะเป็นช่วงเปิดเทอม ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง
”การจัดโครงการเทใจ คืนสุขสู่ประชาชน ที่ลดราคาขายสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการแต่ละรายมียอดขายเพิ่มขึ้น จึงได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดทำโครงการลดราคาขายสินค้าในลักษณะเดียวกันนี้อีกครั้งทั่วประเทศ ซึ่งครั้งนี้จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นด้วยเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยอีกทางหนึ่ง”พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ได้รับรายงานว่า ราคาสินค้าอาหารสดไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาก แม้ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนอาหารปรุงสำเร็จ ห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีก เริ่มขายในราคาไม่เกินจานละ 35-40 บาทแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. เฉพาะในกรุงเทพฯ ส่วนสาขาในต่างจังหวัดจะเริ่มขายราคาดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.นี้เป็นต้นไป มีระยะเวลา 4 เดือน
ส่วนการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 9.99 แสนตันนั้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถทราบผลผู้ชนะการประมูล หลังจากได้เปิดให้เสนอราคาเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กรณีที่มีบริษัทแห่งหนึ่งยื่นซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาล แต่มีกระแสข่าวเกี่ยวพันกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจี 4 ฉบับนั้น ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงฯ กำลังพิจารณาอยู่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท สยามอินดิก้าจริง จะต้องถูกตัดสิทธิ์ออกจากการประมูลครั้งนี้ด้วย
วันเดียวกันนี้ นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เดินทางไปตรวจสอบภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ตลาดถนอมมิตร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยพบว่า ราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ส่วนใหญ่มีราคาทรงตัว โดยราคาเนื้อหมู กิโลกรัม (กก.) ละ 130 บาท เนื้อไก่ กก.ละ 80 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากผลผลิตมีมากขึ้น แต่ผลไม้พบว่ามีราคาสูงขึ้นบ้างตามกลไกตลาด เช่น ส้ม โดยระดับราคามีหลายระดับตามคุณภาพ ตั้งแต่ 3 กก. 100 บาท ไปจนถึง กก.ละ 100 บาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในเร็วๆนี้ กรมฯ จะลงพื้นที่ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอาหาร และสินค้ารับเทศกาลตรุษจีนที่ตลาดเยาวราช และยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ค้าภายในที่ประจำอยู่ในจังหวัดต่างๆ ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลให้มีการจำหน่ายสินค้าในราคาที่เหมาะสม ป้องกันไม่ให้สินค้าขาดแคลน และมีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา