เริ่มต้นเดือนกุมภาพันธ์ใกล้วันวาเลนไทน์ บ้านเมืองทำท่าว่าจะสงบนิ่งภายใต้นโยบายปรองดองสมานฉันท์ ดันมีสภาวะแปรผันเมืองพวกแกล้งตายเริ่มกระดิกตัวเปิดปากลองของท่านผู้กุมอำนาจรัฐ ส่งผลให้ถูกเรียกตัวไปติวเข้มหลายคนเชิงปรามห้ามเคลื่อนไหว
จู่ๆ ก็มีมือไม่ดีหวังร้ายวางระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูกบนทางเชื่อมห้างสยามพารากอนกับสถานีรถไฟฟ้าสยาม มีคนบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน แต่ผลด้านจิตวิทยามีมากกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยต่างๆ ท่านผู้นำมีข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือพวกป่วนเมือง
ถ้าไม่ใช่พวกเครือข่ายคนแกล้งตายอยากลองของ คนการข่าวของรัฐก็อาจเป็นมือที่สาม ต้องการป้ายสีให้พวกแกล้งตายสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่าทุกอย่างไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุม ตำรวจมีนายใหม่แล้วแต่พวกแต่งเครื่องแบบแอบสีแดงแตงโมยังมีแฝงอยู่
พวกนี้รอวันหวนคืนกลับของยุคนายใหญ่รอบใหม่ จึงพร้อมด้วยพลังจากสารพัดทิศบันดาลด้วยอำนาจเงิน ทั้งฝรั่งมังค่ากระหายหิวทรัพยากรแผ่นดินไทยและพวกจิตใจขายชาติ แถมยังประกาศอย่างอหังการ มั่นใจศักยภาพในกลุ่มพวกเดียวกันให้คึกคัก
ภายใน 1 ปี อำนาจต้องเปลี่ยนมือไปเข้าทางนายใหญ่อีกครั้งแน่นอน ทำอย่างไรยังไม่บอก กลัวแผนลับรั่วไหล ช่วงนี้กลุ่มแกนนำปกติต้องหลีกให้อดีตพวกมีสีจงรักภักดีต่อเงินของนายใหญ่ได้วางแผนเพื่อให้สำเร็จ ระเบิด 2 ลูกเกี่ยวด้วยหรือไม่ต้องรอผล
ไม่ใช่คำคุยโวโอ้อวด เมื่อการเคลื่อนไหวใต้ดินยังเป็นไปอย่างเต็มกำลัง ด้วยการปล่อยพวกขี้ข้าหน้าเดิมผลัดกันมาเล่นจำอวดหน้าม่าน ทำให้ผู้กุมอำนาจรัฐวอกแวก นึกว่าขบวนการเสื้อแดงจะรวมพลังรอวันเลือกตั้งซึ่งถูกบอกหลอกๆ ว่าจะมีต้นปีหน้า
ถ้ามีจริง ขบวนการนายใหญ่หรือตัวแทนแฝงมากับพลังเสริมโดยนายใหญ่อาจสานฝันความทะเยอทะยานเป็นผู้กุมอำนาจรัฐคนใหม่ แต่ต้องเสี่ยงลองของจากกลุ่มเก่าและคนไทยรักชาติที่รู้ทันไม่ยอมเอาด้วยหลังจากทนดูปาหี่ราคาถูกมาหลายเดือน
ขบวนการใต้ดินของกลุ่มสูญเสียอำนาจจึงวางแผนรอบคอบ เดินหน้าพร้อมชาติมหาอำนาจต้องการทรัพยากรแผ่นดินไทย ซึ่งมองว่าตราบใดที่รัฐบาลปัจจุบันยังอยู่ และมีแนวโน้มว่าจะลงรากฝังลึก ตราบนั้นย่อมไม่มีความมั่นใจในการได้ผลประโยชน์
โดยเฉพาะสัมปทานปิโตรเลียมต่อเนื่องจากปัจจุบันและเปิดพื้นที่ใหม่ทั่วประเทศ
การเดินหน้าครั้งนี้พวกกลุ่มใกล้ชิดนายใหญ่ ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ไม่เปิดหน้าเดินเกมอย่างเต็มที่ พวกอดีตเสนาบดีขี้ข้าได้รับคำสั่งให้ออกมาเล่นตลกหน้าม่าน เพื่อหลอกให้สังคมเข้าใจผิดว่ายังเป็นพวกมีราคา มีโอกาสกลับมาเป็นใหญ่อีกรอบ
เป็นไปได้ ถ้ากลุ่มผู้มีอำนาจปัจจุบันตามไม่ทัน หรือเกิดมีปัญหาปีนเกลียว ขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพราะขัดผลประโยชน์ ฟ้องให้ชาวบ้านเห็นว่าความรักชาติที่ประกาศปาวๆ ตลอดมานั้นเป็นข้ออ้างสุดท้ายของคนโกงตามคำพูดของ “มาร์ค ทเวน”
“Patriotism is the Last Refuge of a Scoundrel” และในบ้านเราคนรักชาติที่น่ากลัวคือพวกมีอำนาจ และใช้ทุกวิถีทางเพื่อรักษาและเสริมอำนาจให้อยู่ยาว ถ้ามีปัญหาหนักข้อก็เปลี่ยนสภาพยกระดับเป็นเผด็จการมือใหม่ฝึกหัด ส่วนใหญ่ใจไม่ถึงไปไม่รอด
การเดินทางมาของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีปลายเดือนก่อนจึงเป็น “ความบังเอิญแบบพอดี” ประจวบเหมาะกับเวลาที่แม่นางปูโฉมสคราญจากดินแดนล้านนาถูกไล่ต้อนไปติดกับดักในข้อกล่าวหาว่าประพฤติมิชอบตามด้วยคดีอาญาหนัก
จากนั้นทีมงานเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ออกตระเวนพยายามพบปะแกนนำสอดแนมความเคลื่อนไหวพวกแกล้งตาย ถามไถ่ดูว่าเสื้อสีแดงยังมีอยู่มั้ย ซักเตรียมใส่รอบใหม่อีกหรือยัง พร้อมประเมินศักยภาพและอารมณ์ว่าพร้อมเริ่มงานสู้แล้วรวยอีกมั้ย
น่าเสียดาย ความพยายามขอพบแกนนำเสื้อแดงอุดรฯ เป็นการผิดหวัง เมื่อขาใหญ่รอดตายจากการโดนยิงหวุดหวิดมีธุระต้องไปนอกพื้นที่ บอกไว้แต่เพียงว่า “ขออภัยในความไม่สะดวก” แต่วงในรู้ว่าช่วงนี้ไม่อยากให้การดิ้นรนขอใบอนุญาตวิทยุชุมชนติดขัด
ถ้าไปทำอะไรขัดหูขัดตาไม่สบอารมณ์ทหารในพื้นที่ โอกาสจะได้เปิดสถานีวิทยุชุมชนอีกรอบคงต้องเปลี่ยนไปทำนาแห้วถาวร หรืออาจถูกเรียกไปปรับทัศนคติอีกรอบ
การเคลื่อนไหวเดินเกมของสหรัฐฯ โดยใช้เจ้าหน้าที่ระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีไม่ได้มีเพียงในพื้นที่เอเชียแปซิฟิก หลังจากประธานาธิบดีโอบามาได้ประกาศคืนดีกับคิวบาก็ได้ส่งผู้ช่วยรัฐมนตรีรับผิดชอบในภาคพื้นนั้น นางโรเบอร์ตา เจคอบสัน ยกทีมไปเจรจา
เงื่อนไขระดับต้นๆ ของทีมเจรจาคือข้อเรียกร้องให้รัฐบาลคิวบาไม่จำกัดพื้นที่ในการเดินทางของเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ ในคิวบา เพื่อที่จะได้ไปพบปะพูดคุยกับชาวบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีแนวคิดอยากโค่นล้มรัฐบาลของราอูล คาสโตร น้องชายของฟิเดล
จะเห็นได้ว่ามีความเคลื่อนไหวในลักษณะคล้ายกัน อาจเป็นการหาข่าวปกติเพื่อประเมินสถานการณ์ความเป็นไปในบ้านเมืองเราว่าความสงบมั่นคงจะจีรังยั่งยืนลงรากลึกสถาพรหรือไม่ หรือเป็นเพียงม่านควันพรางตาเพื่อให้พวกแกล้งตายทำเป็นเนียน
ฝ่ายความมั่นคงของกลุ่มอำนาจปัจจุบันจึงต้องระวัง ดังนั้นการเห็นท่านผู้นำอยู่ในอารมณ์เครียดต้องไม่แปลกใจ ปัญหาเยอะ การเดินเกมครั้งนี้ถ้าพลาด เอาไม่อยู่ จะลำบาก บ้านเมืองจะหวนคืนสู่ความไม่สงบมีการเคลื่อนไหวเผชิญหน้าบนถนนอีกครั้ง
คนรักชาติส่วนหนึ่งจะไม่ยอมแน่นอน ไม่ให้บ้านเมืองต้องเสียหายจากนโยบายเอาใจรากหญ้าแฝงประโยชน์โกงกินสร้างความเสียหายใกล้ 1 ล้านล้านบาทดังที่เป็นอยู่
ถ้าท่านผู้นำมีจิตสำนึกรักชาติจริง น่าจะคิดใด้ถูกทาง เลือกได้ว่าจะยืนข้างไหน
จู่ๆ ก็มีมือไม่ดีหวังร้ายวางระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูกบนทางเชื่อมห้างสยามพารากอนกับสถานีรถไฟฟ้าสยาม มีคนบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน แต่ผลด้านจิตวิทยามีมากกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยต่างๆ ท่านผู้นำมีข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือพวกป่วนเมือง
ถ้าไม่ใช่พวกเครือข่ายคนแกล้งตายอยากลองของ คนการข่าวของรัฐก็อาจเป็นมือที่สาม ต้องการป้ายสีให้พวกแกล้งตายสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่าทุกอย่างไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุม ตำรวจมีนายใหม่แล้วแต่พวกแต่งเครื่องแบบแอบสีแดงแตงโมยังมีแฝงอยู่
พวกนี้รอวันหวนคืนกลับของยุคนายใหญ่รอบใหม่ จึงพร้อมด้วยพลังจากสารพัดทิศบันดาลด้วยอำนาจเงิน ทั้งฝรั่งมังค่ากระหายหิวทรัพยากรแผ่นดินไทยและพวกจิตใจขายชาติ แถมยังประกาศอย่างอหังการ มั่นใจศักยภาพในกลุ่มพวกเดียวกันให้คึกคัก
ภายใน 1 ปี อำนาจต้องเปลี่ยนมือไปเข้าทางนายใหญ่อีกครั้งแน่นอน ทำอย่างไรยังไม่บอก กลัวแผนลับรั่วไหล ช่วงนี้กลุ่มแกนนำปกติต้องหลีกให้อดีตพวกมีสีจงรักภักดีต่อเงินของนายใหญ่ได้วางแผนเพื่อให้สำเร็จ ระเบิด 2 ลูกเกี่ยวด้วยหรือไม่ต้องรอผล
ไม่ใช่คำคุยโวโอ้อวด เมื่อการเคลื่อนไหวใต้ดินยังเป็นไปอย่างเต็มกำลัง ด้วยการปล่อยพวกขี้ข้าหน้าเดิมผลัดกันมาเล่นจำอวดหน้าม่าน ทำให้ผู้กุมอำนาจรัฐวอกแวก นึกว่าขบวนการเสื้อแดงจะรวมพลังรอวันเลือกตั้งซึ่งถูกบอกหลอกๆ ว่าจะมีต้นปีหน้า
ถ้ามีจริง ขบวนการนายใหญ่หรือตัวแทนแฝงมากับพลังเสริมโดยนายใหญ่อาจสานฝันความทะเยอทะยานเป็นผู้กุมอำนาจรัฐคนใหม่ แต่ต้องเสี่ยงลองของจากกลุ่มเก่าและคนไทยรักชาติที่รู้ทันไม่ยอมเอาด้วยหลังจากทนดูปาหี่ราคาถูกมาหลายเดือน
ขบวนการใต้ดินของกลุ่มสูญเสียอำนาจจึงวางแผนรอบคอบ เดินหน้าพร้อมชาติมหาอำนาจต้องการทรัพยากรแผ่นดินไทย ซึ่งมองว่าตราบใดที่รัฐบาลปัจจุบันยังอยู่ และมีแนวโน้มว่าจะลงรากฝังลึก ตราบนั้นย่อมไม่มีความมั่นใจในการได้ผลประโยชน์
โดยเฉพาะสัมปทานปิโตรเลียมต่อเนื่องจากปัจจุบันและเปิดพื้นที่ใหม่ทั่วประเทศ
การเดินหน้าครั้งนี้พวกกลุ่มใกล้ชิดนายใหญ่ ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ไม่เปิดหน้าเดินเกมอย่างเต็มที่ พวกอดีตเสนาบดีขี้ข้าได้รับคำสั่งให้ออกมาเล่นตลกหน้าม่าน เพื่อหลอกให้สังคมเข้าใจผิดว่ายังเป็นพวกมีราคา มีโอกาสกลับมาเป็นใหญ่อีกรอบ
เป็นไปได้ ถ้ากลุ่มผู้มีอำนาจปัจจุบันตามไม่ทัน หรือเกิดมีปัญหาปีนเกลียว ขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพราะขัดผลประโยชน์ ฟ้องให้ชาวบ้านเห็นว่าความรักชาติที่ประกาศปาวๆ ตลอดมานั้นเป็นข้ออ้างสุดท้ายของคนโกงตามคำพูดของ “มาร์ค ทเวน”
“Patriotism is the Last Refuge of a Scoundrel” และในบ้านเราคนรักชาติที่น่ากลัวคือพวกมีอำนาจ และใช้ทุกวิถีทางเพื่อรักษาและเสริมอำนาจให้อยู่ยาว ถ้ามีปัญหาหนักข้อก็เปลี่ยนสภาพยกระดับเป็นเผด็จการมือใหม่ฝึกหัด ส่วนใหญ่ใจไม่ถึงไปไม่รอด
การเดินทางมาของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีปลายเดือนก่อนจึงเป็น “ความบังเอิญแบบพอดี” ประจวบเหมาะกับเวลาที่แม่นางปูโฉมสคราญจากดินแดนล้านนาถูกไล่ต้อนไปติดกับดักในข้อกล่าวหาว่าประพฤติมิชอบตามด้วยคดีอาญาหนัก
จากนั้นทีมงานเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ออกตระเวนพยายามพบปะแกนนำสอดแนมความเคลื่อนไหวพวกแกล้งตาย ถามไถ่ดูว่าเสื้อสีแดงยังมีอยู่มั้ย ซักเตรียมใส่รอบใหม่อีกหรือยัง พร้อมประเมินศักยภาพและอารมณ์ว่าพร้อมเริ่มงานสู้แล้วรวยอีกมั้ย
น่าเสียดาย ความพยายามขอพบแกนนำเสื้อแดงอุดรฯ เป็นการผิดหวัง เมื่อขาใหญ่รอดตายจากการโดนยิงหวุดหวิดมีธุระต้องไปนอกพื้นที่ บอกไว้แต่เพียงว่า “ขออภัยในความไม่สะดวก” แต่วงในรู้ว่าช่วงนี้ไม่อยากให้การดิ้นรนขอใบอนุญาตวิทยุชุมชนติดขัด
ถ้าไปทำอะไรขัดหูขัดตาไม่สบอารมณ์ทหารในพื้นที่ โอกาสจะได้เปิดสถานีวิทยุชุมชนอีกรอบคงต้องเปลี่ยนไปทำนาแห้วถาวร หรืออาจถูกเรียกไปปรับทัศนคติอีกรอบ
การเคลื่อนไหวเดินเกมของสหรัฐฯ โดยใช้เจ้าหน้าที่ระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีไม่ได้มีเพียงในพื้นที่เอเชียแปซิฟิก หลังจากประธานาธิบดีโอบามาได้ประกาศคืนดีกับคิวบาก็ได้ส่งผู้ช่วยรัฐมนตรีรับผิดชอบในภาคพื้นนั้น นางโรเบอร์ตา เจคอบสัน ยกทีมไปเจรจา
เงื่อนไขระดับต้นๆ ของทีมเจรจาคือข้อเรียกร้องให้รัฐบาลคิวบาไม่จำกัดพื้นที่ในการเดินทางของเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ ในคิวบา เพื่อที่จะได้ไปพบปะพูดคุยกับชาวบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีแนวคิดอยากโค่นล้มรัฐบาลของราอูล คาสโตร น้องชายของฟิเดล
จะเห็นได้ว่ามีความเคลื่อนไหวในลักษณะคล้ายกัน อาจเป็นการหาข่าวปกติเพื่อประเมินสถานการณ์ความเป็นไปในบ้านเมืองเราว่าความสงบมั่นคงจะจีรังยั่งยืนลงรากลึกสถาพรหรือไม่ หรือเป็นเพียงม่านควันพรางตาเพื่อให้พวกแกล้งตายทำเป็นเนียน
ฝ่ายความมั่นคงของกลุ่มอำนาจปัจจุบันจึงต้องระวัง ดังนั้นการเห็นท่านผู้นำอยู่ในอารมณ์เครียดต้องไม่แปลกใจ ปัญหาเยอะ การเดินเกมครั้งนี้ถ้าพลาด เอาไม่อยู่ จะลำบาก บ้านเมืองจะหวนคืนสู่ความไม่สงบมีการเคลื่อนไหวเผชิญหน้าบนถนนอีกครั้ง
คนรักชาติส่วนหนึ่งจะไม่ยอมแน่นอน ไม่ให้บ้านเมืองต้องเสียหายจากนโยบายเอาใจรากหญ้าแฝงประโยชน์โกงกินสร้างความเสียหายใกล้ 1 ล้านล้านบาทดังที่เป็นอยู่
ถ้าท่านผู้นำมีจิตสำนึกรักชาติจริง น่าจะคิดใด้ถูกทาง เลือกได้ว่าจะยืนข้างไหน