xs
xsm
sm
md
lg

"ไพบูลย์"ล่าแก๊งหมิ่นฯ รู้ใครสนับสนุนเงิน"ไอ้ตั้ง-อีเพ็ญ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณี พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีต ผบ.ทอ. ในฐานะประธานกลุ่มนายทหารนอกประจำการ ที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (นกภป.) พร้อมคณะ จะไปยื่นหนังสือประท้วง กรณีที่ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ให้ที่พำนักแก่ นายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาในคดีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำกรุงเทพฯ ว่า ถือเป็นการแสดงออกของคนไทย หากแสดงออกด้วยความสงบ ก็คงจะไม่เป็นไร
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เน้นย้ำในเรื่องการสร้างความกระจ่าง เนื่องจากวันนี้เราได้มีการร่วมมือกับต่างประเทศ ในหลายมิติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางประเทศนิวซีแลนด์ หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอชซีอาร์ ) จะต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของเขาที่จะตอบ หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ประเทศนิวซีแลนด์ และ ยูเอ็นเอชซีอาร์ ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของคนไทย การที่นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือชี้แจงความเป็นมาของผู้ที่เคลื่อนไหวเหล่านั้นไปยัง 7-8 ประเทศ เพื่อบอกว่า ไม่ใช่เรื่องทางการเมือง แต่เป็นเรื่องกระทำผิดกฎหมายอาญาของไทย ผิดต่อสถาบันเบื้องสูงที่เราเคารพ และหวงแหน ก็เป็นการทำในความรู้สึกของคนไทยเช่นกัน
ทั้งนี้ เราคงไม่สามารถที่จะไปละเมิดเอกสิทธิ์ และเคารพแนวทางของเขาด้วย แต่ทางประเทศนิวซีแลนด์ และ ยูเอ็นเอชซีอาร์ รวมถึงประเทศอื่นๆต้องเข้าใจความรู้สึกของคนไทยด้วย
"เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ผมได้พบกับทูตประเทศอังกฤษ ก็ได้เล่าถึงวัตถุประสงค์ของกฎหมายอาญา มาตรา 112 และการเคลื่อนไหวของผู้ที่กระทำผิดมาตรา 112 ในประเทศต่างๆเพื่อฝากไปสื่อสารกับประเทศอื่นๆ ในฐานะที่อังกฤษ นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศใหญ่และถือเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ ซึ่งทูตอังกฤษก็มีความเข้าใจ ทั้งนี้ที่ผ่านมาการทำความเข้าใจกับนานาชาติในเรื่องมาตรา 112 ไม่ได้มีการทำอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลย” รมว.ยุติธรรม ระบุ
พล.อ.ไพบูลย์ เปิดเผยด้วยว่า เวลานี้ตนกำลังรวบรวมข้อมูล และสั่งให้ฝ่ายกฎหมายที่แบ่งหน้าที่ในการติดตามตัวผู้กระทำผิด นำส่งข้อมูลให้แก่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประกอบการชี้แจงกับประเทศต่างๆ ที่มีกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวอยู่ จะได้ทราบว่า แต่ละคนที่ไปอ้างสิทธิเสรีภาพในการเคลื่อนไหวเหล่านั้น ในความเป็นจริงแล้ว กระทำผิดกฎหมายอย่างไร ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนที่คนเหล่านี้นำมาอ้าง โดยเรื่องนี้ตนได้ประสานกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศก็ตอบรับ และขอให้เร่งส่งข้อมูลเพื่อนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษต่อไป โดยหลังจากที่ทำหนังสือชี้แจงไปแล้ว ก็ต้องมีการประสานพูดคุยกับประเทศต่างๆ เพื่อให้ได้รับทราบว่า ประเทศต้องการอะไรในการพิจารณาส่งตัวผู้กระทำผิดกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
"ทุกความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้กระทำผิด มาตรา 112 หากประเทศนั้นๆ ต้องการข้อมูลในส่วนใด เราก็จะสนับสนุนในส่วนของข้อมูลเต็มที่ เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นเข้าใจความรู้สึกของคนไทย และเมื่อผู้กระทำผิดไปขอลี้ภัย หรือขอพำนัก ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ประเทศนั้นๆ ก็ควรที่จะสอบถามมายังประเทศไทยก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างครบถ้วน หากได้ข้อมูลจากเราจนครบแล้ว เขาจะตัดสินใจอย่างไร ก็ต้องเคารพเอกสิทธิ์ของต่างประเทศ" พล.อ.ไพบูลย์ ระบุ
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลได้แบ่งการดำเนินการต่อผู้ที่กระผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. ติดตาม 2. ปราบปรามระงับ ยับยั้งเกี่ยวกับไอซีที 3. การดำเนินการระหว่างประเทศ และ 4. สร้างทัศนคติเข้าใจให้แก่คนไทย โดยงานทั้ง 4 กลุ่ม ต้องดำเนินการควบคู่กันไป และกระทรวงการต่างประเทศต้องเป็นที่นำข้อมูลทั้งหมดนี้ไปชี้แจงต่อนานาชาติ โดยเฉพาะเรื่องวัตถุประสงค์ของกฎหมาย ที่โดยปกติแล้วสถาบันฯไม่สามารถที่จะมาฟ้องร้องคนที่กล่าวละเมิด ฉะนั้นจึงต้องมีการตรากฎหมาย มาตรา 112 ขึ้นมาเพื่อให้รัฐบาล หรือเจ้าหน้ารัฐเป็นผู้กระทำการแทน แต่ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะรังแกคนเหล่านั้น รัฐบาลเพียงแต่ดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น
เมื่อถามถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ที่กระทำผิด พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า มีการดำเนินการอยู่แล้ว โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ แต่รัฐบาลมีอำนาจที่จะตรวจสอบในส่วนของผู้ที่กระทำผิดทางกฎหมาย
"เรื่องเงินทุนที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของ นายตั้ง อาชีวะ รวมไปถึง นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงนั้น ก็ยังมีเครื่องหมายคำถาม แต่ก็เป็นรู้ๆ กันอยู่ " พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น