ASTVผู้จัดการรายวัน - ครม.มีมตินำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 5 หมื่นตัน อ้างเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลน ขณะที่ชาวสวนปาล์มน้ำมันร้องนายกฯ ระงับนำเข้า หวั่นม็อบโผล่ อ้างขาดทุนมาตลอด ทำไมไม่รู้น้ำมันเหลือแค่ 7 หมื่นตัน ทั้งๆ ที่ ต.ค.มีตั้ง 3.4 แสนตัน ด้านนายกชาวสวนปาล์มตรังขู่เคลื่อนพล “พณ.”วอนปชช.อย่าตื่นตระหนกปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน ยันแม้ตึงตัวบ้าง แต่ยังมีเพียงพอต่อการบริโภค คาดอีกเดือนสถานการณ์ปกติ เหตุผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ขู่ใครกักตุน โก่งราคา เจอดี ขณะที่กรมธุรกิจพลังงานออกประกาศลดสัดส่วนผสมบี 100 ในดีเซลจาก 7% หรือบี 7 ในปัจจุบันเหลือ 3.5-7% แก้น้ำมันปาล์มขาดแคลน ขณะที่กองทุนน้ำมันฯฐานะทะลุ 2.1 หมื่นล้านบาทจ่อปรับขึ้นภาษีฯดีเซล
นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วานนี้ (20 ม.ค.) ได้มีมตินำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 5 หมื่นตัน ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอ เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน ซึ่งหากไม่นำเข้าจะเกิดภาวะขาดแคลนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นจึงต้องนำเข้า เพื่อให้น้ำมันเพียงพอต่อความต้องการ คืออยู่ที่ 2 แสนตัน
ทั้งนี้ องค์การคลังสินค้า หรือ อคส.จะเป็นผู้จัดสรรให้กับภาคเอกชน ส่วนราคาปาล์มน้ำมันในประเทศ รัฐบาลจะประกันราคาที่กิโลกรัมละ 5 บาท
***ชาวสวนปาล์ม จี้ "บิ๊กตู่" เบรกนำเข้าน้ำมันปาล์ม
วานนี้ (20 ม.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน(ชั่วคราว) สำนักงาน ก.พ. เมื่อเวลา 13.40 น. กลุ่มสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย นำโดยนายมนัส พุทธรัตน์ ประธานชมรมปาล์มน้ำมันทุ่งรังสิต และประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กรณีคัดค้านการนำเข้าปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศ โดยมีนายสาทิต สุทธิเสริม เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานมวลชน เป็นตัวแทนรับเรื่อง
สมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทยระบุว่าทางรัฐบาลจะสั่งน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาการชุมนุมเคลื่อนไหวของเกษตรชาวสวนปาล์ม จึงขอวิงวอนนายกฯให้ระงับการนำเข้าไว้ชั่วคราวจนกว่าจะได้ศึกษาข้อมูลอย่างครบถ้วน กรมการค้าภายในเป็นผู้ดูแลและบริหารสต๊อกน้ำมันปาล์ม แต่ไม่ทราบบริหารอย่างไร จึงทำให้สต๊อกน้ำมันปาล์มลดเหลือ 7 หมื่นกว่าตัน เพราะเมื่อเดือนต.ค.2557 สต๊อกน้ำมันปาล์มยังอยู่ที่ 3 แสน 4 หมื่นกว่าตัน มันหายไปเยอะจริงๆ หายไปถึง 2 แสน 7 หมื่นตัน ขอให้ท่านนายกฯลองทบทวน สำหรับน้ำมันปาล์มขวดที่ขายอยู่ในท้องตลาดก็ยังมีขายปกติ ไม่มีการขาดแคลน ทำไมกรมการค้าภายในจึงเสนอให้นำเข้าตั้ง 5 หมื่นตัน เพราะว่าอีกประมาณ 1-2 เดือนปาล์มทลายสุกของเกษตรกรจะเริ่มทยอยออกขายมากขึ้น"
***"พณ."ยันเข้าคิวซื้อปาล์มไม่เกิด
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีรมการค้าภายใน กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มดังกล่าว จะช่วยคลี่คลายปัญหาน้ำมันปาล์มตึงตัว และในปลายเดือนหน้า ผลผลิตของเกษตรกรก็จะทยอยออกสู่ตลาด ทำให้ผลผลิตน้ำมันปาล์มมีมากขึ้น และมีเพียงพอแน่นอน ผู้บริโภคจึงไม่ต้องกังวล
ทั้งนี้ น้ำมันปาล์มเป็นสินค้าควบคุมที่กรมฯ ได้กำหนดราคาจำหน่ายไว้สูงสุดในราคาไม่เกินขวดลิตรละ 42 บาท
**นายกชาวสวนปาล์มตรังขู่เคลื่อนพล
นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกสมาคมชาวสวนปาล์มจังหวัดตรัง กล่าวว่า ตัวแทนสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการนำเข้าปาล์มน้ำมัน 50,000 ตันไปแล้ว รัฐบาลควรที่จะยุติ และหันมาตรวจสอบสต็อกว่าขาดแคลนจริงหรือไม่
โดยน้ำมันปาล์มที่นำเข้ามาจากมาเลเซีย กิโลกรัมละ 30 บาท แต่ราคาในประเทศ 34 บาทกว่า ส่วนต่างเท่าไรคิดเอาเอง ขอให้รัฐบาลหยุดคิดว่านำเข้าแล้วใครได้ใครเสีย รัฐบาลน่าจะรู้
"สต๊อกที่มีอยู่จริงเขณะนี้ไม่จำเป็นต้องนำเข้า เพราะส่งผลกระทบต่อราคาในประเทศและชาวสวนปาล์ม ซึ่งสมาพันธ์จะกำหนดท่าทีเพื่อเคลื่อนไหวต่อไป"
**ส.จ.สงขลาจี้"ตู่"นั่งหัวโต๊ะแก้ราคายาง
ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายญาณพง เพชรบูรณ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เขตอ.รัตภูมิ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาชาวสวนยาง ว่าเครือข่ายชาวสวนยางรายย่อยจังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยมีขอเรียกร้อง 5 ข้อ คือ 1.ให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการแก้ปัญหาวิกฤติราคายางด้วยตนเอง 2.ราคาคุ้มทุนสำหรับยางแผ่นดิบชั้น 3 อยู่ที่กิโลกรัมละ 85บาท ราคาน้ำยาง 75 บาท
3.ให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสต็อกยาง โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพารา และโครงการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตราคายางพารา
4.ให้ทบทวนมาตรการต่างๆที่ดำเนินการอยู่ เพราะไม่สามารถทำให้ราคายางพาราขยับขึ้นได้ และ 5.ให้เปลี่ยนผู้รับผิดชอบแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยให้สรรหาคนดี คนเก่งมารับผิดชอบแทนคนปัจจุบัน
ทั้งนี้ หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ทางเครือข่ายจะยกระดับโดยร่วมกับจังหวัดอื่น จัดผู้ร่วมร้องทุกข์เป็นหมู่บ้านละ 1 คน หากยังไม่ได้รับการแก้ไขอีก จะเพิ่มเป็นครัวเรือนละ 1 คนต่อไป
****ธพ.สัดส่วนไบโอดีเซลมีผล22ม.ค.
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ล่าสุดกรมฯ ได้ออกประกาศแก้ไข ข้อกำหนดลักษณะและคุณภาพน้ำมันดีเซลให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไบโอดีเซล (บี100) จากเดิมใช้บี100ในดีเซลไม่เกิน 7% ปรับเป็น 3.5-7% มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.เป็นต้นไป โดยขณะนี้ได้แจ้งไปยังผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันเพื่อรับทราบให้ดำเนินการแล้ว
“การลดสัดส่วนบี100 ที่เหลือ 3.5% จะช่วยลดการใช้บี100 ลงเฉลี่ยวันละ 2 ล้านลิตร จากเดิมวันละ 4 ล้านลิตร ซึ่งปัญหาปาล์มน้ำมันตึงตัวคิดว่าน่าจะเกิดในช่วงระยะสั้น เพราะปกติผลผลิตปาล์มฯจะเริ่มกลับเข้ามาในช่วงปลายเดือนมี.ค. ดังนั้นการประกาศฉบับนี้น่าจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา1เดือนเท่านั้น ”
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดขณะนี้สุทธิอยู่ที่ระดับ 21,771 ล้านบาทซึ่งกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการศึกษาว่าอัตราใดที่จะเหมาะสมในการพิจารณาจัดเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซล ที่ปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 3.25 บาทต่อลิตร
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม รักษาการผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์กรมหาชน) หรือ สบพน. กล่าวว่า เงินจำนวน 21,771 ล้านบาทในอนาคตก็จะเป็นเงินที่จะนำไว้ดูแลราคาน้ำมันที่อาจกลับขึ้นไปสูงผิดปกติได้เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน
นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วานนี้ (20 ม.ค.) ได้มีมตินำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 5 หมื่นตัน ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอ เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน ซึ่งหากไม่นำเข้าจะเกิดภาวะขาดแคลนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นจึงต้องนำเข้า เพื่อให้น้ำมันเพียงพอต่อความต้องการ คืออยู่ที่ 2 แสนตัน
ทั้งนี้ องค์การคลังสินค้า หรือ อคส.จะเป็นผู้จัดสรรให้กับภาคเอกชน ส่วนราคาปาล์มน้ำมันในประเทศ รัฐบาลจะประกันราคาที่กิโลกรัมละ 5 บาท
***ชาวสวนปาล์ม จี้ "บิ๊กตู่" เบรกนำเข้าน้ำมันปาล์ม
วานนี้ (20 ม.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน(ชั่วคราว) สำนักงาน ก.พ. เมื่อเวลา 13.40 น. กลุ่มสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย นำโดยนายมนัส พุทธรัตน์ ประธานชมรมปาล์มน้ำมันทุ่งรังสิต และประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กรณีคัดค้านการนำเข้าปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศ โดยมีนายสาทิต สุทธิเสริม เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานมวลชน เป็นตัวแทนรับเรื่อง
สมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทยระบุว่าทางรัฐบาลจะสั่งน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาการชุมนุมเคลื่อนไหวของเกษตรชาวสวนปาล์ม จึงขอวิงวอนนายกฯให้ระงับการนำเข้าไว้ชั่วคราวจนกว่าจะได้ศึกษาข้อมูลอย่างครบถ้วน กรมการค้าภายในเป็นผู้ดูแลและบริหารสต๊อกน้ำมันปาล์ม แต่ไม่ทราบบริหารอย่างไร จึงทำให้สต๊อกน้ำมันปาล์มลดเหลือ 7 หมื่นกว่าตัน เพราะเมื่อเดือนต.ค.2557 สต๊อกน้ำมันปาล์มยังอยู่ที่ 3 แสน 4 หมื่นกว่าตัน มันหายไปเยอะจริงๆ หายไปถึง 2 แสน 7 หมื่นตัน ขอให้ท่านนายกฯลองทบทวน สำหรับน้ำมันปาล์มขวดที่ขายอยู่ในท้องตลาดก็ยังมีขายปกติ ไม่มีการขาดแคลน ทำไมกรมการค้าภายในจึงเสนอให้นำเข้าตั้ง 5 หมื่นตัน เพราะว่าอีกประมาณ 1-2 เดือนปาล์มทลายสุกของเกษตรกรจะเริ่มทยอยออกขายมากขึ้น"
***"พณ."ยันเข้าคิวซื้อปาล์มไม่เกิด
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีรมการค้าภายใน กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มดังกล่าว จะช่วยคลี่คลายปัญหาน้ำมันปาล์มตึงตัว และในปลายเดือนหน้า ผลผลิตของเกษตรกรก็จะทยอยออกสู่ตลาด ทำให้ผลผลิตน้ำมันปาล์มมีมากขึ้น และมีเพียงพอแน่นอน ผู้บริโภคจึงไม่ต้องกังวล
ทั้งนี้ น้ำมันปาล์มเป็นสินค้าควบคุมที่กรมฯ ได้กำหนดราคาจำหน่ายไว้สูงสุดในราคาไม่เกินขวดลิตรละ 42 บาท
**นายกชาวสวนปาล์มตรังขู่เคลื่อนพล
นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกสมาคมชาวสวนปาล์มจังหวัดตรัง กล่าวว่า ตัวแทนสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการนำเข้าปาล์มน้ำมัน 50,000 ตันไปแล้ว รัฐบาลควรที่จะยุติ และหันมาตรวจสอบสต็อกว่าขาดแคลนจริงหรือไม่
โดยน้ำมันปาล์มที่นำเข้ามาจากมาเลเซีย กิโลกรัมละ 30 บาท แต่ราคาในประเทศ 34 บาทกว่า ส่วนต่างเท่าไรคิดเอาเอง ขอให้รัฐบาลหยุดคิดว่านำเข้าแล้วใครได้ใครเสีย รัฐบาลน่าจะรู้
"สต๊อกที่มีอยู่จริงเขณะนี้ไม่จำเป็นต้องนำเข้า เพราะส่งผลกระทบต่อราคาในประเทศและชาวสวนปาล์ม ซึ่งสมาพันธ์จะกำหนดท่าทีเพื่อเคลื่อนไหวต่อไป"
**ส.จ.สงขลาจี้"ตู่"นั่งหัวโต๊ะแก้ราคายาง
ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายญาณพง เพชรบูรณ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เขตอ.รัตภูมิ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาชาวสวนยาง ว่าเครือข่ายชาวสวนยางรายย่อยจังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยมีขอเรียกร้อง 5 ข้อ คือ 1.ให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการแก้ปัญหาวิกฤติราคายางด้วยตนเอง 2.ราคาคุ้มทุนสำหรับยางแผ่นดิบชั้น 3 อยู่ที่กิโลกรัมละ 85บาท ราคาน้ำยาง 75 บาท
3.ให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสต็อกยาง โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพารา และโครงการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตราคายางพารา
4.ให้ทบทวนมาตรการต่างๆที่ดำเนินการอยู่ เพราะไม่สามารถทำให้ราคายางพาราขยับขึ้นได้ และ 5.ให้เปลี่ยนผู้รับผิดชอบแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยให้สรรหาคนดี คนเก่งมารับผิดชอบแทนคนปัจจุบัน
ทั้งนี้ หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ทางเครือข่ายจะยกระดับโดยร่วมกับจังหวัดอื่น จัดผู้ร่วมร้องทุกข์เป็นหมู่บ้านละ 1 คน หากยังไม่ได้รับการแก้ไขอีก จะเพิ่มเป็นครัวเรือนละ 1 คนต่อไป
****ธพ.สัดส่วนไบโอดีเซลมีผล22ม.ค.
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ล่าสุดกรมฯ ได้ออกประกาศแก้ไข ข้อกำหนดลักษณะและคุณภาพน้ำมันดีเซลให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไบโอดีเซล (บี100) จากเดิมใช้บี100ในดีเซลไม่เกิน 7% ปรับเป็น 3.5-7% มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.เป็นต้นไป โดยขณะนี้ได้แจ้งไปยังผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันเพื่อรับทราบให้ดำเนินการแล้ว
“การลดสัดส่วนบี100 ที่เหลือ 3.5% จะช่วยลดการใช้บี100 ลงเฉลี่ยวันละ 2 ล้านลิตร จากเดิมวันละ 4 ล้านลิตร ซึ่งปัญหาปาล์มน้ำมันตึงตัวคิดว่าน่าจะเกิดในช่วงระยะสั้น เพราะปกติผลผลิตปาล์มฯจะเริ่มกลับเข้ามาในช่วงปลายเดือนมี.ค. ดังนั้นการประกาศฉบับนี้น่าจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา1เดือนเท่านั้น ”
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดขณะนี้สุทธิอยู่ที่ระดับ 21,771 ล้านบาทซึ่งกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการศึกษาว่าอัตราใดที่จะเหมาะสมในการพิจารณาจัดเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซล ที่ปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 3.25 บาทต่อลิตร
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม รักษาการผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์กรมหาชน) หรือ สบพน. กล่าวว่า เงินจำนวน 21,771 ล้านบาทในอนาคตก็จะเป็นเงินที่จะนำไว้ดูแลราคาน้ำมันที่อาจกลับขึ้นไปสูงผิดปกติได้เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน