ณ ร้านกาแฟหรูแห่งหนึ่งบนถนน Fifth Avenue แหล่งชอปปิ้งอันลือชื่อใน “City That Never Sleep” หรือ “มหานครที่ไม่เคยหลับใหล” ในนาม “นิวยอร์ก” ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง โดยมี “The Statue of Liberty” หรือ “เทพีแห่งสันติภาพ” ประติมากรรมของ Frederic-Auguste Bartholdi, สร้างในศตวรรษที่ 19 โดยฝรั่งเศสให้เป็นของขวัญแก่อเมริกา ตั้งอยู่บนเกาะ Liberty ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองนิวยอร์ก ยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 39 ล้านคนทุกปี
“เหยี่ยวข่าว” พันธมิตรสาวคนหนึ่ง บังเอิญได้ฟังกลุ่มผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนม นั่งเม้าท์กระจายกันที่โต๊ะกาแฟ โดยผู้ผลิต “หลุยส์ ติงต๊อง” คู่แข่ง Louis Vuitton เปิดปากเม้าท์ก่อนว่า
“เอ้อ...แม้นายกฯ พริตตี้บ้าแบรนด์เนมจะปิ๋วไปแล้ว แต่พวกเธอยังลอยนวลกันทุกคน โอ้...มายก๊อด...ไม่มีประเทศใดในโลก เป็นแดนสวรรค์ของคนชั่วเท่าไทยอีกแล้ว โกงชาติ-ฆ่าทหาร-ล้มรัฐบาล-ใช้เงินซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐ เพื่อโกงชาติกันแล้วไม่ผิดไม่ถูกจับเลย...”
เจ้าของแบรนด์เนม “เหวอตะเข้” พูดเสริมทันทีว่า
“จริง...คนมีอำนาจที่นี่ถือเงินเป็น ‘พระเจ้า’ ถือแบรนด์เนมเป็น ‘พระรอง’ รัฐบาลขนเงินชาติมาผลาญตั้ง 6-7 แสนล้านบาท มีการโกงกันมโหฬาร จนนักการเมืองไทยกับพวกรวยพุงปลิ้น คนพวกนี้ขนเงินสกปรกมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมกันอื้อซ่า ธุรกิจค้าข้าวไทยพังพินาศน่ะ ด้วยฝีมือรัฐบาลไทยทำลายกันเอง แต่ธุรกิจของแบรนด์เนม...มีแต่รวยกับรวย...จริงไหมล่ะ...”
เจ้าของผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ “ลัมโบกูมีหนี้” คู่แข่ง Lamborghini ซดกาแฟเอสเปรสโซ่เข้มข้น ก่อนจะพูดสั้นๆ ขึ้นว่า
“อืม...จำนำข้าวทำให้ยอดขายรถหรูเพิ่มขึ้นจริง ดูสิ...ซูเปอร์คาร์วิ่งกันยั้วเยี้ยทั่ว Thailand เลย”
เจ้าของโรงงานรถ “แอ๊ดตั้ง มากิน” คู่แข่ง Aston Martin ยิ้มเผล่...ก่อนจะพูดว่า…
“แต่ไทยเนี่ย...มีซูเปอร์คาร์หนีภาษีวิ่งเกลื่อนไปหมด ดีนะที่ตำรวจกับศุลกากรไม่จับเอาน่ะ”
ผู้ผลิตรถ “มึงเซเราติ” คู่แข่ง Maserati ใช้ช้อนคนน้ำตาลกรวดในแก้วชา ยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะพูดแทรกขึ้นว่า
“รู้อ๊ะป่าวว่า...บริษัทขายรถทั้งหนีกับเสียภาษีน่ะ เจ้าของเป็นเครือข่ายพวกรัฐบาลไทยทั้งนั้น ใครหน้าไหนจะกล้าไปจับล่ะ?”
“กราฟฟ์ ไดมอนด์ส” ผู้ขายนาฬิกาข้อมือเรือนละ 1.8 พันล้านบาท ในงาน “บาเซิลเวิลด์ ปี 2014” จิบชาพีชร้อนหอมกรุ่น...แล้วพูดว่า
“เหลือเชื่อที่นาฬิกาหรูราคาแพงหลุดโลก...ก็ขายดี ชาติไทยมีเงินสีขาวสีเทาสีดำสะพัดตลอด พวกเราเปิดร้านขายสินค้าหรูๆ ในไทยเนี่ย มีแต่รวยไม่มีซวยเลย ดูสิ...มันบ้าแบรนด์เนม ตั้งแต่นายกฯ ยันรัฐมนตรี พ่อค้าและข้าราชการใหญ่บางส่วน ก็เลยบ้าตามนายกฯ ติ๊งต๊องไปด้วย ยิ่งคนมีอำนาจพวกนี้ไร้ทั้งคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตแบบนี้ เมื่อมันบ้าโกงชาติมากขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ พวกเราก็จะรวยตามขึ้นไปด้วย...ใช่ไหมล่ะ...ฮ่าฮ่าฮ่า!...”
เจ้าของบริษัทนาฬิกา “ป๋าเต็ก ผีดิบ” คู่แข่ง Patek Philippe กล่าวเสียงแหลมว่า
“วันก่อนเดี๊ยนขายนาฬิการาคา 37 ล้านบาทไปสองเรือนนะจะบอกให้...”
เจ้าของบริษัท “ลาน้า มาร์ค” คู่แข่ง Lana Marks ที่ดาราสาว Angelina Jolie ชอบใช้ จ้อเสริมขึ้นว่า
“ใช่...กระเป๋าเดี๊ยนขายดีจริงๆ ส่วน อีอ้ออีโอ๊คเอามานี่-คู่แข่ง-Giorgio Armani บุตรกาลี-คู่แข่ง-Bvlgari ชาแน่-คู่แข่ง-Chanel มีแอร์ ป้าแดง-คู่แข่ง-Pierre Cardin อิ๊ดแซง อารอง-คู่แข่ง-Yves Saint Laurent ก็ขายดีราวเทน้ำเทท่า แถม...สินค้าทุกชนิดของลังกะโคม-คู่แข่ง-Lancome ลาแม่-คู่แข่ง-La Mer กุดซี่-คู่แข่ง-Gucci เหวอตะเข้-คู่แข่ง-Versace ปลานา-คู่แข่ง-Prada ขี่ลาโลด-คู่แข่ง-Guy Laroche ก็ขายดีนะ”
เจ้าของโรงงานผลิตนาฬิกา “โลเล็ก” คู่แข่ง Rolex ก็พูดว่า
“ตราบใดที่การเมืองไทยมีรัฐประหารแต่หน่อมแน้ม เอาแต่จะสืบทอดอำนาจลูกเดียว และมีการเลือกตั้งสกปรกเหมือนเดิม ลงท้าย...พวกโกงชาติก็ได้ครองเมืองกันอยู่ดี พวกเราผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย ก็ยังจะรวยไม่เลิกกันต่อไปอีก...อิอิอิ...”
เจ้าของสินค้าไฮเทค “สามซุง” เป็นคนเดียวที่ทำท่ายังงงไม่เลิก...ก่อนจะพูดว่า...
“พวกเราคาดว่า ‘สามซุง’ จะขายได้มากกว่าสินค้าไฮเทคของ ‘แอปเปิล’ แต่ “สตีฟ จอบส์” เนี่ย...นายกล้ามาก ดูสิ...ตั้งชื่อสินค้าไฮเทคได้ไงว่า ‘กู(คือ)พันธมิตร’ หรือ ‘I PAD’ ขนาดพวก ‘เสื้อแดง’ ไม่กินเส้นกับพวก ‘เสื้อเหลือง’ ยังต้องยอมเป็นทาส I PAD ยิ่งกว่า ‘สามซุง’ เสียอีก...”
เจ้าของบริษัทรถหรู “โลตุส” คู่แข่ง Lotus ที่นั่งซึมผิดปกติมาตลอด ได้พูดขึ้นว่า...
“ซูเปอร์คาร์ Lotus นั้น-ขายดี แต่ยอดขายก็ยังสู้ห้างโลตัสซีพีไม่ได้ พวกโกงชาติไทยเก่งๆ กับเครือข่ายทั้งหลาย ชอบฟอกเงินด้วยการซื้อซูเปอร์คาร์ดังๆ เช่น Porsche, Ferrari, Lotus ฯลฯ แต่โลตุสอั๊ว...ขายไม่ได้เลยสักคันว่ะ...”
สุดท้าย “ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนม” ระดับโลกทั้งหลาย เห็นตรงกันว่า “ไทย” ยังเป็น “แดนสวรรค์ของคนโกงชาติ” เหมือนเดิม!!!
ทุกคนยกแก้วชา-กาแฟขึ้นชน...แล้วร้อง... “เชียร์สสส!” ก่อนจะแยกย้ายกันไปผลิตสินค้ารุ่นใหม่ขายให้พวกโกงชาติไทยต่อ...โอ..” อะเมซิ่งไทยแลนด์ ไอเลิฟยู...!!!
“เหยี่ยวข่าว” พันธมิตรสาวคนหนึ่ง บังเอิญได้ฟังกลุ่มผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนม นั่งเม้าท์กระจายกันที่โต๊ะกาแฟ โดยผู้ผลิต “หลุยส์ ติงต๊อง” คู่แข่ง Louis Vuitton เปิดปากเม้าท์ก่อนว่า
“เอ้อ...แม้นายกฯ พริตตี้บ้าแบรนด์เนมจะปิ๋วไปแล้ว แต่พวกเธอยังลอยนวลกันทุกคน โอ้...มายก๊อด...ไม่มีประเทศใดในโลก เป็นแดนสวรรค์ของคนชั่วเท่าไทยอีกแล้ว โกงชาติ-ฆ่าทหาร-ล้มรัฐบาล-ใช้เงินซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐ เพื่อโกงชาติกันแล้วไม่ผิดไม่ถูกจับเลย...”
เจ้าของแบรนด์เนม “เหวอตะเข้” พูดเสริมทันทีว่า
“จริง...คนมีอำนาจที่นี่ถือเงินเป็น ‘พระเจ้า’ ถือแบรนด์เนมเป็น ‘พระรอง’ รัฐบาลขนเงินชาติมาผลาญตั้ง 6-7 แสนล้านบาท มีการโกงกันมโหฬาร จนนักการเมืองไทยกับพวกรวยพุงปลิ้น คนพวกนี้ขนเงินสกปรกมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมกันอื้อซ่า ธุรกิจค้าข้าวไทยพังพินาศน่ะ ด้วยฝีมือรัฐบาลไทยทำลายกันเอง แต่ธุรกิจของแบรนด์เนม...มีแต่รวยกับรวย...จริงไหมล่ะ...”
เจ้าของผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ “ลัมโบกูมีหนี้” คู่แข่ง Lamborghini ซดกาแฟเอสเปรสโซ่เข้มข้น ก่อนจะพูดสั้นๆ ขึ้นว่า
“อืม...จำนำข้าวทำให้ยอดขายรถหรูเพิ่มขึ้นจริง ดูสิ...ซูเปอร์คาร์วิ่งกันยั้วเยี้ยทั่ว Thailand เลย”
เจ้าของโรงงานรถ “แอ๊ดตั้ง มากิน” คู่แข่ง Aston Martin ยิ้มเผล่...ก่อนจะพูดว่า…
“แต่ไทยเนี่ย...มีซูเปอร์คาร์หนีภาษีวิ่งเกลื่อนไปหมด ดีนะที่ตำรวจกับศุลกากรไม่จับเอาน่ะ”
ผู้ผลิตรถ “มึงเซเราติ” คู่แข่ง Maserati ใช้ช้อนคนน้ำตาลกรวดในแก้วชา ยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะพูดแทรกขึ้นว่า
“รู้อ๊ะป่าวว่า...บริษัทขายรถทั้งหนีกับเสียภาษีน่ะ เจ้าของเป็นเครือข่ายพวกรัฐบาลไทยทั้งนั้น ใครหน้าไหนจะกล้าไปจับล่ะ?”
“กราฟฟ์ ไดมอนด์ส” ผู้ขายนาฬิกาข้อมือเรือนละ 1.8 พันล้านบาท ในงาน “บาเซิลเวิลด์ ปี 2014” จิบชาพีชร้อนหอมกรุ่น...แล้วพูดว่า
“เหลือเชื่อที่นาฬิกาหรูราคาแพงหลุดโลก...ก็ขายดี ชาติไทยมีเงินสีขาวสีเทาสีดำสะพัดตลอด พวกเราเปิดร้านขายสินค้าหรูๆ ในไทยเนี่ย มีแต่รวยไม่มีซวยเลย ดูสิ...มันบ้าแบรนด์เนม ตั้งแต่นายกฯ ยันรัฐมนตรี พ่อค้าและข้าราชการใหญ่บางส่วน ก็เลยบ้าตามนายกฯ ติ๊งต๊องไปด้วย ยิ่งคนมีอำนาจพวกนี้ไร้ทั้งคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตแบบนี้ เมื่อมันบ้าโกงชาติมากขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ พวกเราก็จะรวยตามขึ้นไปด้วย...ใช่ไหมล่ะ...ฮ่าฮ่าฮ่า!...”
เจ้าของบริษัทนาฬิกา “ป๋าเต็ก ผีดิบ” คู่แข่ง Patek Philippe กล่าวเสียงแหลมว่า
“วันก่อนเดี๊ยนขายนาฬิการาคา 37 ล้านบาทไปสองเรือนนะจะบอกให้...”
เจ้าของบริษัท “ลาน้า มาร์ค” คู่แข่ง Lana Marks ที่ดาราสาว Angelina Jolie ชอบใช้ จ้อเสริมขึ้นว่า
“ใช่...กระเป๋าเดี๊ยนขายดีจริงๆ ส่วน อีอ้ออีโอ๊คเอามานี่-คู่แข่ง-Giorgio Armani บุตรกาลี-คู่แข่ง-Bvlgari ชาแน่-คู่แข่ง-Chanel มีแอร์ ป้าแดง-คู่แข่ง-Pierre Cardin อิ๊ดแซง อารอง-คู่แข่ง-Yves Saint Laurent ก็ขายดีราวเทน้ำเทท่า แถม...สินค้าทุกชนิดของลังกะโคม-คู่แข่ง-Lancome ลาแม่-คู่แข่ง-La Mer กุดซี่-คู่แข่ง-Gucci เหวอตะเข้-คู่แข่ง-Versace ปลานา-คู่แข่ง-Prada ขี่ลาโลด-คู่แข่ง-Guy Laroche ก็ขายดีนะ”
เจ้าของโรงงานผลิตนาฬิกา “โลเล็ก” คู่แข่ง Rolex ก็พูดว่า
“ตราบใดที่การเมืองไทยมีรัฐประหารแต่หน่อมแน้ม เอาแต่จะสืบทอดอำนาจลูกเดียว และมีการเลือกตั้งสกปรกเหมือนเดิม ลงท้าย...พวกโกงชาติก็ได้ครองเมืองกันอยู่ดี พวกเราผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย ก็ยังจะรวยไม่เลิกกันต่อไปอีก...อิอิอิ...”
เจ้าของสินค้าไฮเทค “สามซุง” เป็นคนเดียวที่ทำท่ายังงงไม่เลิก...ก่อนจะพูดว่า...
“พวกเราคาดว่า ‘สามซุง’ จะขายได้มากกว่าสินค้าไฮเทคของ ‘แอปเปิล’ แต่ “สตีฟ จอบส์” เนี่ย...นายกล้ามาก ดูสิ...ตั้งชื่อสินค้าไฮเทคได้ไงว่า ‘กู(คือ)พันธมิตร’ หรือ ‘I PAD’ ขนาดพวก ‘เสื้อแดง’ ไม่กินเส้นกับพวก ‘เสื้อเหลือง’ ยังต้องยอมเป็นทาส I PAD ยิ่งกว่า ‘สามซุง’ เสียอีก...”
เจ้าของบริษัทรถหรู “โลตุส” คู่แข่ง Lotus ที่นั่งซึมผิดปกติมาตลอด ได้พูดขึ้นว่า...
“ซูเปอร์คาร์ Lotus นั้น-ขายดี แต่ยอดขายก็ยังสู้ห้างโลตัสซีพีไม่ได้ พวกโกงชาติไทยเก่งๆ กับเครือข่ายทั้งหลาย ชอบฟอกเงินด้วยการซื้อซูเปอร์คาร์ดังๆ เช่น Porsche, Ferrari, Lotus ฯลฯ แต่โลตุสอั๊ว...ขายไม่ได้เลยสักคันว่ะ...”
สุดท้าย “ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนม” ระดับโลกทั้งหลาย เห็นตรงกันว่า “ไทย” ยังเป็น “แดนสวรรค์ของคนโกงชาติ” เหมือนเดิม!!!
ทุกคนยกแก้วชา-กาแฟขึ้นชน...แล้วร้อง... “เชียร์สสส!” ก่อนจะแยกย้ายกันไปผลิตสินค้ารุ่นใหม่ขายให้พวกโกงชาติไทยต่อ...โอ..” อะเมซิ่งไทยแลนด์ ไอเลิฟยู...!!!