ศูนย์ข่าวภูมิภาค - ระทึก! อุบัติเหตุใหญ่ประเดิมวันแรก 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลปีใหม่ บนถนนมิตรภาพโคราช รถกระบะพุ่งข้ามเลนชนวินาศ 6 คันรวดทั้งรถกระบะและรถทัวร์โดยสารสาย กรุงเทพฯ-ราชสีมาไฟลุกไหม้เจ็บระนาว 15 รายสาหัส 5 ราย ส่วน”สุรินทร์-เชียงราย” ตายจังหวัดละ 1 ราย พิษณุโลกสังเวย 2 ส่วนเมืองชลบุรี 4 ราย ขณะที่อุดรธานีรถไฟชนกระบะ 2 ตาหลานดับทั้งคู่ และระนองอีก 1 ราย ส่วนที่ภูเก็ตรถทั่วนักท่องเที่ยวชนเก๋งตกเขาเจ็บ 27 ในสาหัส 4 ด้าน"บิ๊กตู่"ร่วมกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โชว์ลูกคอครวญเพลง"วันพรุ่งนี้" สบายอารมณ์ ชวนคนไทยสวดมนต์ข้ามปี เพื่อเป็นสิริมงคล สธ.สั่ง รพ.เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุ สธ.สั่ง รพ.เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุ
เมื่อเวลา 12.00 น.วานนี้ (30 ธ.ค.) ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 139-140 ถนนมิตรภาพ ขาเข้าเมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา หน้าสำนักงานศูนย์สอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นครราชสีมา เกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งข้ามเลนชนรถยนต์กระบะวิ่งสวนทางมา 3 คัน ขณะที่โดยสารประจำทางปรับอากาศชั้น 1 สายกรุงเทพฯ-ราชสีมาหักหลบพุ่งข้ามเลนชนต้นไม้เกาะกลางถนนก่อนไปชนเสาไฟฟ้าเกิดไฟลุกไหม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ทะเบียน บพ 6483 กำแพงเพชร ไม่ทราบชื่อคนขับสภาพพังยับเยินจอดอยู่กลางถนนมิตรภาพ ใกล้กันพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้สีขาว ทะเบียน ตธ 8368 นครราชสีมา มีนายทองคำ ห้องแซว ชาว อ.ลำลูกกา จ.ยโสธร เป็นคนขับมาพร้อมกับลูกสาว สภาพด้านข้างและด้านท้ายพัง ห่างออกไปพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุนไทรทันสีดำ ทะเบียน 1 ฒจ 5051 นครราชสีมา มีนายสมคิด เที่ยงกลาง ชาว อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เป็นคนขับ
นอกจากนี้ ยังพบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศชั้น 1 สีฟ้าขาวสายกรุงเทพฯ-ราชสีมาของ บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด หมายเลขทะเบียน 10-5185 นครราชสีมา มีนายประสงค์ ประสพทอง อายุ 55ปี ชาว ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา เป็นคนขับเสียหลักพุ่งข้ามเลนถนนมิตรภาพ ชนต้นไม้บนเกาะกลางและไถลออกไปทางคู่ขนาน ก่อนชนเสาไฟฟ้า ริมทางขาด 2 ท่อนและพุ่งชนรถยนต์ รถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ที่จอดอยู่ด้านข้างสำนักงานดีเอสไอ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และเกิดไฟลุกไหม้ที่บริเวณเครื่องยนต์ของรถโดยสาร อาสาสมัครกู้ภัยไปถึงที่เกิดเหตุ ช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทัน
ขณะที่ผู้โดยสารต่างทุบกระจกหน้าต่างรถและเปิดประตูฉุกเฉินวิ่งหนีตายออกมาได้ ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดรวม 15 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารที่มากับรถโดยสารในจำนวนนี้ สาหัส 5 รายถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถยนต์กระบะทะเบียน บพ 6483 กำแพงเพชร ขับมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ แต่เสียหลักพุ่งข้ามเลนมาชนกับรถยนต์กระบะอีก 2 คัน ที่วิ่งสวนทางมา ส่วนรถทัวร์โดยสารวิ่งตามหลังรถกระบะได้หักหลบ ก่อนพุ่งข้ามเกาะกลางถนนออกไปยังคู่ขนานและพุ่งชนรถยนต์และเสาไฟฟ้าเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ยังส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวหลายกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเปิดช่องทางจราจรพิเศษเพื่อเร่งระบายการจราจรที่ติดขัด
ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุใหญ่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางจะทำการสืบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุใหญ่ประเดิมช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2558 ของ จ.นครราชสีมา
**ปิกอักชนรถทัวร์ที่สังเวย7วัน1ศพ
ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อเวลา 05.50 น. ร.ต.ท.เสนีย์ ฉิมงาม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ประสาท ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพชนกับรถโดยสารปรับอากาศมีผู้เสียชีวิตที่ถนนปราสาท-สุรินทร์ บริเวณบ้านเชื้อเพลิง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศของบริษัทขนส่ง จำกัด ชนประสานงากับรถปิกอัพสี่ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน กง 5015 สุรินทร์ ทำให้รถปิกอัพพังยับเยินลักษณะผ่าซีกเป็นสองส่วนไถลออกนอกถนนเกือบเข้าไปชนบ้านของประชาชน ส่งผลให้นายนิรัญ วรรณทอง อายุ 26 ปีคนขับ ชาวบ้านบัลลังก์ ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้เสียชีวิตขับรถมาคนเดียว ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถบัสปลอดภัย
**รถไฟอุดรฯถูกชนกระบะเสียชีวิต2ราย
ที่ จ.อุดรธานี เวลา 10.30 น.นายเฉลิมชัย อินทร์หา ปลัดอาวุโสรักษาการนายอำเภอโนนสะอาด พร้อม ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ ราญดอน พงส.สภ.โนนสะอาด ได้นำชุดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุรถไฟดีเซลรางขบวน 415 นครราชสีมา-หนองคาย ชนรถกระบะ ทะเบียน กพ 8417 อุดรธานี บริเวณทางรถไฟบ้านค้อน้อย ต.ทมนางาม สภาพถูกลากไปไกลกว่า 100 เมตรก่อนที่รถกระบะจะตกลงไปอยู่ในพงหญ้าและมีผู้บาดเจ็บอยู่ในรถ 2 คนเป็นลุงกับหลานคือนายสายันต์ นาสินสร้อย อายุ 51 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลโนนสะอาดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ญ.สุภาทอิพย์ ธรรมจำ อายุ 5 ขวบหลานสาวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 208 ม. 3 ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี
**ชลบุรีซิ่ง จยย.สังเวย 7 วัน 4 ศพ
ที่ จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัย ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุรถ จยย.เสียหลักพุ่งชนเสาป้ายบอกทางที่บริเวณปากซอย 39 บนถนนสุขุมวิทพัทยา ฝั่งขาเข้าสัตหีบ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง พบศพหญิงวัยรุ่นอายุ 15 ปีเสียชีวิต ส่วนคนเจ็บอีก 2 รายเป็นชายอายุ 15 ปีทั้งคู่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรอยครูดกับขอบฟุตบาธเป็นทางยาวจนมาถึงโคนเสาป้ายบอกทาง มีเศษกระจกและชิ้นส่วนอะไหล่รถ จยย.แตกเป็นเสี่ยงๆ ตกอยู่ นอกจากนี้ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร บริเวณหน้าร้านข้าวต้มพบรถ ขยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีชมพู-ขาว ทะเบียน จงม 895 ชลบุรี เสียหลักพลิกคว่ำอยู่
ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกเป็นรถ จยย.ชนท้ายรถยนต์เก๋งบนถนนสุขุมวิทขาเข้าเมืองชลบุรี หน้าร้านทองแดง ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต 1 ราย สาหัส 1 ราย ในที่เกิดเหตุพบร่างของนายสมคิด แก้วพรายงาม อายุ 37 ปีชาว อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุมีเพื่อนสาวที่ซ้อนท้ายมาด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่ง รพ.ชลบุรี
**กระบะชนนักธุรกิจบ้านน็อคดาวน์ดับ2
ที่ จ.พิษณุโลก เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนคนเดินเท้าส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายที่บริเวณถนนพิษณุโลก-หล่มสัก หลัก กม.ที่ 22 หมู่ที่ 7 บ้านบึงพร้าว ต.ชัยนาม อ.วังทอง ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กข-8838 กำแพงเพชร สภาพด้านหน้าห้องเครื่องพังยับเยินกระจกหน้าแตกละเอียด มีนายนภดล แสงภารา อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 1 ต.เถินบุรี อ.เถิน จ.ลำปาง เป็นผู้ขับขับ
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 คนคือนายวิชา รัศมี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 1 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง ถูกรถกระบะพุ่งชนกระเด็นตกไปเสียชีวิตในพงหญ้าริมถนนในสภาพร่างกายแหลกเหลว ห่างออกไปประมาณ 50 เมตรพบศพนายเมษา บูรพาดุสดี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 2 ต.เสมาใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าอยู่บนพื้นถนนในสภาพขาทั้งสองข้างถูกชนจนมีแผลฉีกขาดฉกรรจ์กระดูกตามร่างกายแหลกเหลว
ก่อนเกิดเหตุนายเมษา ผู้ตายเป็นเจ้าของร้านขายไม้เก่าและบ้านน็อกดาวน์ พร้อมนายวิชา ผู้ตายซึ่งเป็นลูกจ้างในร้านได้เตรียมนำบ้านน็อกดาวน์ที่ใส่รถบรรทุกสิบล้อไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.เลย ระหว่างนั้นผู้ตายทั้งสองได้ออกมายืนบริเวณถนนเพื่อจะคอยโบกรถให้กับคนขับรถสิบล้อขับออกมาจากร้านขึ้นสู่บนถนน ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่นายนภดล ขับรถยนต์กระบะมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุทำให้เฉี่ยวชนนายเมษา และนาย วิชา เสียชีวิต ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
**บัสนักท่องเที่ยวชนเก๋งตกเหวเจ็บ27
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต เกิดเหตุรถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 37 คนของบริษัท Anextour หมายเลขทะเบียน 32-7677 วิ่งผ่านถนนสายกมลา-ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งรถทัวร์คันดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารมาจากสนามบินเพื่อเดินทางเข้าพื้นที่ป่าตอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก่อนถึงแนวต่อกับพื้นที่ป่าตองประมาณ 1 กิโลเมตรได้ชนกับรถกับรถเก๋งสีดำ ป้ายทะเบียน กก 5693 บึงกาฬ ทำให้รถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวเสียหลักตกลงไปบนถนนบริเวณเยื้องกับหน้าโรงแรมกมลาฟอลในลักษณะหายท้องล้อชี้ฟ้า สภาพหลังคารถติดกับพื้นพังยับ กระจกแตก เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้นประมาณ 27 คนในจำนวนนี้สาหัส 4 ราย
**เชียงรายสังเวย7วันส่งท้ายปีเก่าศพแรก
ส่วนที่ จงเชียงราย ร.ต.ท.นิรุตน์ อุดใจ ร้อยเวร สภ.เมือง จ.เชียงราย ได้รับแจ้ง มีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนถนนสายระหว่างบ้านป่าไผ่ ม.4 เชื่อมกับบ้านสันกลาง ม.13 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย
**ระนองสังเวย1ศพรับ7วันอันตราย
ที่ จ.ระนอง ร.ต.ท.อคพล โสภาพรหม ร้อยเวร สภ.ปากน้ำระนอง อ.เมืองระนอง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิและหน่วยกู้ชีพตรวจสอบอุบัติเหตุรถกระบะ ทะเบียน บจ 8370 ระนอง ชนรถ จยย.รับจ้าง ทะเบียน กกข 839 ระนอง บนถนนหน้าสถานีประมงทะเลจังหวัดระนอง ม.1 ต.ปากน้ำ โดยรถกระบะพุ่งขึ้นไปอยู่บนทางเท้าชนกับเสาไฟฟ้าหัก มีผู้บาดเจ็บ 3 คน ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตชื่อนายเรืองฤทธิ์ ศิริพงษ์ สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะที่รถกระบะขับผ่านจุดตรวจเฝ้าระวังช่วง 7 วันอันตรายในเทศบาลปีใหม่ ได้เร่งความเร็ววิ่งในเลนขวา และหักหลบรถยนต์อีกคันที่กำลังจะกลับรถอย่างกะทันหันจนไปชนกับรถจักรยานยนต์ที่แล่นอยู่ด้านข้าง
**พิจิตรชน 3 คันรวดบาดเจ็บ 3
ด้าน จ.พิจิตร รถกระบะชนกัน 3 คันบนทางหลวงหมายเลข 115 สายกำแพงเพชร-สากเหล็ก หลักกิโลเมตรที่ 92-93 บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทร ต.ปากทาง อ.เมืองพิจิตร มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เบื้องต้นทราบว่ารถกระบะ สีขาว เลี้ยวรถเข้าไปในหมู่บ้านเอื้ออาทรในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถกระบะ สีเทา ซึ่งลากจูงรถกระบะอีกหนึ่งคันไม่สามารถหยุดรถได้ทัน
***ทำเนียบฯคึกคักกิจกรรมปีใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ ( 30 ธ.ค.) ว่า เป็นไปด้วยสีสัน และความคึกคักของช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ โดยบริเวณถนน และสองข้างบันไดทางขึ้น ตึกบัญชาการ 1 ได้รับตกแต่งด้วยกล้วยไม้หลากหลายพันธุ์ และหลากหลายสีสัน จากสวนกล้วยไม้แอร์ออร์คิดส์ ต.นราภิรมณ์ อ.บางเลน จ.นครปฐม ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ รณรงค์ช่วงเทศกาลปีใหม่ ภายใต้โครงการ “กระทรวงวัฒนธรรมส่งความสุข มอบของขวัญปีใหม่ 2558 แก่ประชาชน”
**นายกฯชวนคนไทยสวดมนต์ข้ามปี
เวลา 08.45 น. วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อร่วมกิจกรรมรณรงค์กับรัฐมนตรี โดยระหว่างทางเดินมายังตึกบัญชาการ 1 คณะหุ่นหลวงไก่แก้ว ได้เชิดหุ่นตัวละครต่างๆ ต้อนรับนายกฯ ขณะที่นายกฯ ได้กล่าวชื่นชม ที่ช่วยกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
จากนั้น นายกฯได้ทักทายเด็กๆ ที่มารณรงค์กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี พร้อมกับกล่าวเชิญชวนว่า "มีความสุขแล้ว ก็ขอให้ตลอดไปด้วยนะ ถ้าใครว่าง ก็ไปสวดมนต์ข้ามปีกัน"
**ร่วมร้องเพลง“วันพรุ่งนี้”
ต่อมา นายกฯได้ร่วมร้องเพลง“วันพรุ่งนี้”กับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในกรุงเทพฯ และยังได้หันมาหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวว่า“จำได้ไหมๆ”จากนั้น ได้เข้าทักทายเยาวชนที่ร่วมกลุ่มขี่จักรยานในโครงการพลัง “บวร”เส้นทางจักรยาน ท่องเที่ยวแสวงบุญ บนนิมิตทางศาสนา พร้อมกับกล่าวว่า ขอชื่นชมที่สามารถร่วมกลุ่มจักรยานกันได้ เมื่อรวมกลุ่มได้ในระดับชุมชนแล้ว ขอให้รวมเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เพื่อแสวงบุญ ทนุบำรุงศาสนาอย่างที่ตั้งใจ เพื่อความสามัคคีปรองดอง และช่วยกันรักษาความปลอดภัยด้วย สำหรับตนก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบขี่จักรยาน ตอนนี้ก็ยังขี่จักรยานอยู่ จากนั้นนายกฯได้หันมาอวยพรผู้สื่อข่าว โดยเอามือตบอก พร้อมพูดว่า “มีความสุขนะๆ โชคดีปีหน้า ช่วยกันๆ” จากนั้น ได้ขึ้นตึกบัญชาการ 1 เพื่อเป็นประธานประชุมครม. ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้อวยพรปีใหม่ให้กับผู้สื่อข่าวด้วยเช่นเดียวกันว่า“ขอให้เขียนข่าวดีๆ สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยทุกคน”
** นายกฯขอขรก.ร่วมแก้ปัญหาชาติ
เวลา 14.00 น.วานนี้ มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูง ทั้งภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ นำกระเช้าดอกไม้ เข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าว ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจเสมอมา ซึ่งส่วนตัวยังคิดว่า เป็นข้าราชการเหมือนกันก็จะทำทุกอย่างให้ข้าราชการมีศักดิ์ศรี ซึ่งเวลาที่ผ่านมามีทั้งดี และไม่ดี ทั้งนี้ในสายตาคนอื่นอาจมองว่าตัวเองทำผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่เมื่อมีโอกาสแก้ไข ก็จะทำงานเพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า และจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่อประเทศเกิดความขัดแย้ง มีความอ่อนแอ ก็จะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด แต่ความขัดแย้งไม่สามารถใช้กำลังทหารแก้ไขปัญหาได้ คนในชาติต้องช่วยกัน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ได้ขอความร่วมมือจากข้าราชการทุกคนช่วยกันร่วมแก้ไขปัญหา ให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
***สธ.สั่ง รพ.เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุ
วานนี้ (30 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามมาตรการลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ว่า สธ.ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เตรียมพร้อมบุคลากร ห้องฉุกเฉิน รถกู้ชีพแพทย์ พร้อมประสานอาสาสมัครในท้องถิ่น ให้พร้อมรับสถานการณ์อุบัติเหตุอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง และให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินสามารถช่วยเหลือผู้ป่วย/ผู้บาดเจ็บได้ภายใน 10 นาที โดยประชาชนที่พบเห็นอุบัติเหตุหรือประสบอุบัติเหตุ สามารถโทรแจ้งเหตุได้ที่หมายเลย 1669 ฟรีทุกระบบตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังสำรองเลือด เวชภัณฑ์ ทีมและห้องผ่าตัดเพิ่มเป็น 2 เท่า และประสานตำรวจ ขนส่งจังหวัด และแขวงการทางจังหวัด เพื่อให้เกิดความสะดวกและคล่องตัวในการปฏิบัติงาน โดยเน้นจุดที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในปีที่ผ่านมา
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ประธานกรรมการและผู้อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้การสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นนโยบายสำคัญและวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่เป็นเป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการฯ ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ช่วงควบคุมเข้มขนระหว่างวันที่30 ธ.ค. 57 - 5 ม.ค. 58 ภายใต้แนวคิด "มอบความสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน" โดยกำชับให้ดำเนินการตามมาตรการเน้นหนัก 3 ด้าน ทั้งมาตรการป้องกัน เน้นบูรณาการดำเนินงานในมิติเชิงพื้นที่ ( Area Approach ) บังคับใช้กฎหมายการจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการใช้มาตรการทางสังคม
เมื่อเวลา 12.00 น.วานนี้ (30 ธ.ค.) ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 139-140 ถนนมิตรภาพ ขาเข้าเมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา หน้าสำนักงานศูนย์สอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นครราชสีมา เกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งข้ามเลนชนรถยนต์กระบะวิ่งสวนทางมา 3 คัน ขณะที่โดยสารประจำทางปรับอากาศชั้น 1 สายกรุงเทพฯ-ราชสีมาหักหลบพุ่งข้ามเลนชนต้นไม้เกาะกลางถนนก่อนไปชนเสาไฟฟ้าเกิดไฟลุกไหม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ทะเบียน บพ 6483 กำแพงเพชร ไม่ทราบชื่อคนขับสภาพพังยับเยินจอดอยู่กลางถนนมิตรภาพ ใกล้กันพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้สีขาว ทะเบียน ตธ 8368 นครราชสีมา มีนายทองคำ ห้องแซว ชาว อ.ลำลูกกา จ.ยโสธร เป็นคนขับมาพร้อมกับลูกสาว สภาพด้านข้างและด้านท้ายพัง ห่างออกไปพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุนไทรทันสีดำ ทะเบียน 1 ฒจ 5051 นครราชสีมา มีนายสมคิด เที่ยงกลาง ชาว อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เป็นคนขับ
นอกจากนี้ ยังพบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศชั้น 1 สีฟ้าขาวสายกรุงเทพฯ-ราชสีมาของ บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด หมายเลขทะเบียน 10-5185 นครราชสีมา มีนายประสงค์ ประสพทอง อายุ 55ปี ชาว ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา เป็นคนขับเสียหลักพุ่งข้ามเลนถนนมิตรภาพ ชนต้นไม้บนเกาะกลางและไถลออกไปทางคู่ขนาน ก่อนชนเสาไฟฟ้า ริมทางขาด 2 ท่อนและพุ่งชนรถยนต์ รถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ที่จอดอยู่ด้านข้างสำนักงานดีเอสไอ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และเกิดไฟลุกไหม้ที่บริเวณเครื่องยนต์ของรถโดยสาร อาสาสมัครกู้ภัยไปถึงที่เกิดเหตุ ช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทัน
ขณะที่ผู้โดยสารต่างทุบกระจกหน้าต่างรถและเปิดประตูฉุกเฉินวิ่งหนีตายออกมาได้ ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดรวม 15 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารที่มากับรถโดยสารในจำนวนนี้ สาหัส 5 รายถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถยนต์กระบะทะเบียน บพ 6483 กำแพงเพชร ขับมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ แต่เสียหลักพุ่งข้ามเลนมาชนกับรถยนต์กระบะอีก 2 คัน ที่วิ่งสวนทางมา ส่วนรถทัวร์โดยสารวิ่งตามหลังรถกระบะได้หักหลบ ก่อนพุ่งข้ามเกาะกลางถนนออกไปยังคู่ขนานและพุ่งชนรถยนต์และเสาไฟฟ้าเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ยังส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวหลายกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเปิดช่องทางจราจรพิเศษเพื่อเร่งระบายการจราจรที่ติดขัด
ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุใหญ่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางจะทำการสืบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุใหญ่ประเดิมช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2558 ของ จ.นครราชสีมา
**ปิกอักชนรถทัวร์ที่สังเวย7วัน1ศพ
ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อเวลา 05.50 น. ร.ต.ท.เสนีย์ ฉิมงาม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ประสาท ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพชนกับรถโดยสารปรับอากาศมีผู้เสียชีวิตที่ถนนปราสาท-สุรินทร์ บริเวณบ้านเชื้อเพลิง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศของบริษัทขนส่ง จำกัด ชนประสานงากับรถปิกอัพสี่ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน กง 5015 สุรินทร์ ทำให้รถปิกอัพพังยับเยินลักษณะผ่าซีกเป็นสองส่วนไถลออกนอกถนนเกือบเข้าไปชนบ้านของประชาชน ส่งผลให้นายนิรัญ วรรณทอง อายุ 26 ปีคนขับ ชาวบ้านบัลลังก์ ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้เสียชีวิตขับรถมาคนเดียว ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถบัสปลอดภัย
**รถไฟอุดรฯถูกชนกระบะเสียชีวิต2ราย
ที่ จ.อุดรธานี เวลา 10.30 น.นายเฉลิมชัย อินทร์หา ปลัดอาวุโสรักษาการนายอำเภอโนนสะอาด พร้อม ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ ราญดอน พงส.สภ.โนนสะอาด ได้นำชุดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุรถไฟดีเซลรางขบวน 415 นครราชสีมา-หนองคาย ชนรถกระบะ ทะเบียน กพ 8417 อุดรธานี บริเวณทางรถไฟบ้านค้อน้อย ต.ทมนางาม สภาพถูกลากไปไกลกว่า 100 เมตรก่อนที่รถกระบะจะตกลงไปอยู่ในพงหญ้าและมีผู้บาดเจ็บอยู่ในรถ 2 คนเป็นลุงกับหลานคือนายสายันต์ นาสินสร้อย อายุ 51 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลโนนสะอาดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ญ.สุภาทอิพย์ ธรรมจำ อายุ 5 ขวบหลานสาวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 208 ม. 3 ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี
**ชลบุรีซิ่ง จยย.สังเวย 7 วัน 4 ศพ
ที่ จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัย ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุรถ จยย.เสียหลักพุ่งชนเสาป้ายบอกทางที่บริเวณปากซอย 39 บนถนนสุขุมวิทพัทยา ฝั่งขาเข้าสัตหีบ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง พบศพหญิงวัยรุ่นอายุ 15 ปีเสียชีวิต ส่วนคนเจ็บอีก 2 รายเป็นชายอายุ 15 ปีทั้งคู่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรอยครูดกับขอบฟุตบาธเป็นทางยาวจนมาถึงโคนเสาป้ายบอกทาง มีเศษกระจกและชิ้นส่วนอะไหล่รถ จยย.แตกเป็นเสี่ยงๆ ตกอยู่ นอกจากนี้ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร บริเวณหน้าร้านข้าวต้มพบรถ ขยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีชมพู-ขาว ทะเบียน จงม 895 ชลบุรี เสียหลักพลิกคว่ำอยู่
ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกเป็นรถ จยย.ชนท้ายรถยนต์เก๋งบนถนนสุขุมวิทขาเข้าเมืองชลบุรี หน้าร้านทองแดง ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต 1 ราย สาหัส 1 ราย ในที่เกิดเหตุพบร่างของนายสมคิด แก้วพรายงาม อายุ 37 ปีชาว อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุมีเพื่อนสาวที่ซ้อนท้ายมาด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่ง รพ.ชลบุรี
**กระบะชนนักธุรกิจบ้านน็อคดาวน์ดับ2
ที่ จ.พิษณุโลก เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนคนเดินเท้าส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายที่บริเวณถนนพิษณุโลก-หล่มสัก หลัก กม.ที่ 22 หมู่ที่ 7 บ้านบึงพร้าว ต.ชัยนาม อ.วังทอง ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กข-8838 กำแพงเพชร สภาพด้านหน้าห้องเครื่องพังยับเยินกระจกหน้าแตกละเอียด มีนายนภดล แสงภารา อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 1 ต.เถินบุรี อ.เถิน จ.ลำปาง เป็นผู้ขับขับ
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 คนคือนายวิชา รัศมี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 1 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง ถูกรถกระบะพุ่งชนกระเด็นตกไปเสียชีวิตในพงหญ้าริมถนนในสภาพร่างกายแหลกเหลว ห่างออกไปประมาณ 50 เมตรพบศพนายเมษา บูรพาดุสดี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 2 ต.เสมาใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าอยู่บนพื้นถนนในสภาพขาทั้งสองข้างถูกชนจนมีแผลฉีกขาดฉกรรจ์กระดูกตามร่างกายแหลกเหลว
ก่อนเกิดเหตุนายเมษา ผู้ตายเป็นเจ้าของร้านขายไม้เก่าและบ้านน็อกดาวน์ พร้อมนายวิชา ผู้ตายซึ่งเป็นลูกจ้างในร้านได้เตรียมนำบ้านน็อกดาวน์ที่ใส่รถบรรทุกสิบล้อไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.เลย ระหว่างนั้นผู้ตายทั้งสองได้ออกมายืนบริเวณถนนเพื่อจะคอยโบกรถให้กับคนขับรถสิบล้อขับออกมาจากร้านขึ้นสู่บนถนน ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่นายนภดล ขับรถยนต์กระบะมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุทำให้เฉี่ยวชนนายเมษา และนาย วิชา เสียชีวิต ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
**บัสนักท่องเที่ยวชนเก๋งตกเหวเจ็บ27
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต เกิดเหตุรถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 37 คนของบริษัท Anextour หมายเลขทะเบียน 32-7677 วิ่งผ่านถนนสายกมลา-ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งรถทัวร์คันดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารมาจากสนามบินเพื่อเดินทางเข้าพื้นที่ป่าตอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก่อนถึงแนวต่อกับพื้นที่ป่าตองประมาณ 1 กิโลเมตรได้ชนกับรถกับรถเก๋งสีดำ ป้ายทะเบียน กก 5693 บึงกาฬ ทำให้รถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวเสียหลักตกลงไปบนถนนบริเวณเยื้องกับหน้าโรงแรมกมลาฟอลในลักษณะหายท้องล้อชี้ฟ้า สภาพหลังคารถติดกับพื้นพังยับ กระจกแตก เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้นประมาณ 27 คนในจำนวนนี้สาหัส 4 ราย
**เชียงรายสังเวย7วันส่งท้ายปีเก่าศพแรก
ส่วนที่ จงเชียงราย ร.ต.ท.นิรุตน์ อุดใจ ร้อยเวร สภ.เมือง จ.เชียงราย ได้รับแจ้ง มีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนถนนสายระหว่างบ้านป่าไผ่ ม.4 เชื่อมกับบ้านสันกลาง ม.13 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย
**ระนองสังเวย1ศพรับ7วันอันตราย
ที่ จ.ระนอง ร.ต.ท.อคพล โสภาพรหม ร้อยเวร สภ.ปากน้ำระนอง อ.เมืองระนอง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิและหน่วยกู้ชีพตรวจสอบอุบัติเหตุรถกระบะ ทะเบียน บจ 8370 ระนอง ชนรถ จยย.รับจ้าง ทะเบียน กกข 839 ระนอง บนถนนหน้าสถานีประมงทะเลจังหวัดระนอง ม.1 ต.ปากน้ำ โดยรถกระบะพุ่งขึ้นไปอยู่บนทางเท้าชนกับเสาไฟฟ้าหัก มีผู้บาดเจ็บ 3 คน ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตชื่อนายเรืองฤทธิ์ ศิริพงษ์ สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะที่รถกระบะขับผ่านจุดตรวจเฝ้าระวังช่วง 7 วันอันตรายในเทศบาลปีใหม่ ได้เร่งความเร็ววิ่งในเลนขวา และหักหลบรถยนต์อีกคันที่กำลังจะกลับรถอย่างกะทันหันจนไปชนกับรถจักรยานยนต์ที่แล่นอยู่ด้านข้าง
**พิจิตรชน 3 คันรวดบาดเจ็บ 3
ด้าน จ.พิจิตร รถกระบะชนกัน 3 คันบนทางหลวงหมายเลข 115 สายกำแพงเพชร-สากเหล็ก หลักกิโลเมตรที่ 92-93 บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทร ต.ปากทาง อ.เมืองพิจิตร มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เบื้องต้นทราบว่ารถกระบะ สีขาว เลี้ยวรถเข้าไปในหมู่บ้านเอื้ออาทรในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถกระบะ สีเทา ซึ่งลากจูงรถกระบะอีกหนึ่งคันไม่สามารถหยุดรถได้ทัน
***ทำเนียบฯคึกคักกิจกรรมปีใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ ( 30 ธ.ค.) ว่า เป็นไปด้วยสีสัน และความคึกคักของช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ โดยบริเวณถนน และสองข้างบันไดทางขึ้น ตึกบัญชาการ 1 ได้รับตกแต่งด้วยกล้วยไม้หลากหลายพันธุ์ และหลากหลายสีสัน จากสวนกล้วยไม้แอร์ออร์คิดส์ ต.นราภิรมณ์ อ.บางเลน จ.นครปฐม ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ รณรงค์ช่วงเทศกาลปีใหม่ ภายใต้โครงการ “กระทรวงวัฒนธรรมส่งความสุข มอบของขวัญปีใหม่ 2558 แก่ประชาชน”
**นายกฯชวนคนไทยสวดมนต์ข้ามปี
เวลา 08.45 น. วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อร่วมกิจกรรมรณรงค์กับรัฐมนตรี โดยระหว่างทางเดินมายังตึกบัญชาการ 1 คณะหุ่นหลวงไก่แก้ว ได้เชิดหุ่นตัวละครต่างๆ ต้อนรับนายกฯ ขณะที่นายกฯ ได้กล่าวชื่นชม ที่ช่วยกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
จากนั้น นายกฯได้ทักทายเด็กๆ ที่มารณรงค์กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี พร้อมกับกล่าวเชิญชวนว่า "มีความสุขแล้ว ก็ขอให้ตลอดไปด้วยนะ ถ้าใครว่าง ก็ไปสวดมนต์ข้ามปีกัน"
**ร่วมร้องเพลง“วันพรุ่งนี้”
ต่อมา นายกฯได้ร่วมร้องเพลง“วันพรุ่งนี้”กับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในกรุงเทพฯ และยังได้หันมาหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวว่า“จำได้ไหมๆ”จากนั้น ได้เข้าทักทายเยาวชนที่ร่วมกลุ่มขี่จักรยานในโครงการพลัง “บวร”เส้นทางจักรยาน ท่องเที่ยวแสวงบุญ บนนิมิตทางศาสนา พร้อมกับกล่าวว่า ขอชื่นชมที่สามารถร่วมกลุ่มจักรยานกันได้ เมื่อรวมกลุ่มได้ในระดับชุมชนแล้ว ขอให้รวมเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เพื่อแสวงบุญ ทนุบำรุงศาสนาอย่างที่ตั้งใจ เพื่อความสามัคคีปรองดอง และช่วยกันรักษาความปลอดภัยด้วย สำหรับตนก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบขี่จักรยาน ตอนนี้ก็ยังขี่จักรยานอยู่ จากนั้นนายกฯได้หันมาอวยพรผู้สื่อข่าว โดยเอามือตบอก พร้อมพูดว่า “มีความสุขนะๆ โชคดีปีหน้า ช่วยกันๆ” จากนั้น ได้ขึ้นตึกบัญชาการ 1 เพื่อเป็นประธานประชุมครม. ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้อวยพรปีใหม่ให้กับผู้สื่อข่าวด้วยเช่นเดียวกันว่า“ขอให้เขียนข่าวดีๆ สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยทุกคน”
** นายกฯขอขรก.ร่วมแก้ปัญหาชาติ
เวลา 14.00 น.วานนี้ มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูง ทั้งภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ นำกระเช้าดอกไม้ เข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าว ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจเสมอมา ซึ่งส่วนตัวยังคิดว่า เป็นข้าราชการเหมือนกันก็จะทำทุกอย่างให้ข้าราชการมีศักดิ์ศรี ซึ่งเวลาที่ผ่านมามีทั้งดี และไม่ดี ทั้งนี้ในสายตาคนอื่นอาจมองว่าตัวเองทำผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่เมื่อมีโอกาสแก้ไข ก็จะทำงานเพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า และจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่อประเทศเกิดความขัดแย้ง มีความอ่อนแอ ก็จะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด แต่ความขัดแย้งไม่สามารถใช้กำลังทหารแก้ไขปัญหาได้ คนในชาติต้องช่วยกัน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ได้ขอความร่วมมือจากข้าราชการทุกคนช่วยกันร่วมแก้ไขปัญหา ให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
***สธ.สั่ง รพ.เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุ
วานนี้ (30 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามมาตรการลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ว่า สธ.ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เตรียมพร้อมบุคลากร ห้องฉุกเฉิน รถกู้ชีพแพทย์ พร้อมประสานอาสาสมัครในท้องถิ่น ให้พร้อมรับสถานการณ์อุบัติเหตุอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง และให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินสามารถช่วยเหลือผู้ป่วย/ผู้บาดเจ็บได้ภายใน 10 นาที โดยประชาชนที่พบเห็นอุบัติเหตุหรือประสบอุบัติเหตุ สามารถโทรแจ้งเหตุได้ที่หมายเลย 1669 ฟรีทุกระบบตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังสำรองเลือด เวชภัณฑ์ ทีมและห้องผ่าตัดเพิ่มเป็น 2 เท่า และประสานตำรวจ ขนส่งจังหวัด และแขวงการทางจังหวัด เพื่อให้เกิดความสะดวกและคล่องตัวในการปฏิบัติงาน โดยเน้นจุดที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในปีที่ผ่านมา
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ประธานกรรมการและผู้อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้การสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นนโยบายสำคัญและวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่เป็นเป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการฯ ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ช่วงควบคุมเข้มขนระหว่างวันที่30 ธ.ค. 57 - 5 ม.ค. 58 ภายใต้แนวคิด "มอบความสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน" โดยกำชับให้ดำเนินการตามมาตรการเน้นหนัก 3 ด้าน ทั้งมาตรการป้องกัน เน้นบูรณาการดำเนินงานในมิติเชิงพื้นที่ ( Area Approach ) บังคับใช้กฎหมายการจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการใช้มาตรการทางสังคม