อุดรธานี - ม้าเหล็กชนกระบะจอดขวางรางจุดลักผ่านบ้านน้ำคำ ต.โนนสูง อ.เมือง ดับคาที่ 1 สาหัสอีก 4 เผยเป็นรถโหลดเตี้ยวิ่งข้ามรางแล้วล้อติด โชคร้ายขบวนรถไฟขาล่องกรุงเทพฯ วิ่งผ่านเบรกไม่อยู่ ชนอย่างจัง ซ้ำลากไปไกล 20 เมตร
เมื่อเวลา 20.30 น. คืนที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) พ.ต.ท.ธนาเดช พิทักษ์ชลเดช พงส.สภ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถกระบะ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่จุดลักผ่านบ้านน้ำคำ หมู่ 2 ต.โนนสูง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี มูลนิธิส่งเสริมธรรม
พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตฉ 3560 กรุงเทพมหานคร ถูกชนตกลงไปในพงหญ้าข้างรถไฟ สภาพด้านซ้ายถูกชนพังยับเยิน พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่กับพื้น ทราบชื่อคือ นางอ้วน โพธิ์ชัยย้อย อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 2 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี สภาพร่างกายแหลกเหลว
ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายธราเทพ บุญจันทร์ อายุ 44 ปี คนขับรถ นางจำนงค์ โพธิ์ชัยย้อย อายุ 40 ปี น.ส.พรรณี ยอดแพง อายุ 23 ปี ด.ช.อิทธิศักดิ์ แช่มรัมย์ อายุ 1 ปี 7 เดือน เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบขบวนรถไฟดีเซลรางอุดรธานี-กรุงเทพฯ ขบวนที่ 78 จำนวน 4 โบกี้ จอดอยู่บนราง สภาพกันชนด้านหน้าขวาหลุด สายน้ำมันไฮดรอลิกขาด โบกี้ที่ 1 เสียหาย ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ จึงต้องให้โบกี้ที่ 4 ดันไปจอดที่สถานีหนองตะไก้
นายช่วย โพธิ์ชัยย้อย อายุ 65 ปี สามีผู้ตาย ให้การว่าก่อนเกิดเหตุนายธราเทพ ซึ่งเป็นหลานเขยทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ จ.ชลบุรี ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงปีใหม่พร้อมกับภรรยา เพิ่งจะเดินทางกลับมาถึงบ้านช่วงหัวค่ำ และได้มาชวนตนและครอบครัวไปดูที่นา ซึ่งอยู่อีกฝั่งของทางรถไฟ ตนและผู้ตายพร้อมกับหลานได้นั่งรถมาด้วย
เมื่อถึงทางลัดผ่านรางรถไฟซึ่งชาวบ้านทำขึ้นมาเอง โดยใช้เป็นเส้นทางไปไร่นา ปรากฏว่ารถกระบะเป็นรถโหลดเตี้ย ข้ามไปได้เพียงล้อหน้า แชสซีส์ด้านขวาไปติดกับรางรถไฟ ทำให้ล้อหลังยกขึ้น ไม่สามารถเคลื่อนรถผ่านรางรถไฟไปได้ ตนได้ลงจากรถลงไปดันท้ายแต่รถก็ไม่ขยับ
เป็นจังหวะเดียวกันกับขบวนรถไฟได้วิ่งออกมาจากสถานีหนองขอนกว้างมาถึงจุดเกิดเหตุพอดี ด้วยความตกใจเกรงรถไฟจะชนรถกระบะ ซึ่งภายในมีทั้งภรรยาและหลาน ก็ได้วิ่งไปโบกรถไฟให้หยุด ส่งสัญญาณว่ามีรถจอดติดอยู่รางรถไฟ แต่รถไฟก็ไม่หยุดและได้ชนเข้ากับรถกระบะที่จอดอยู่อย่างจัง ลากรถกระบะไปประมาณ 20 เมตร ตกลงไปอยู่ในพงหญ้าข้างรางรถไฟ
หลังหายจากอาการตกตะลึง ตนได้วิ่งเข้าไปดูก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขับและหลานบาดเจ็บ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟหนองตะไก้ อ.เมือง เปิดเผยว่า จุดผ่านดังกล่าวชาวบ้านทำขึ้นมาเอง และไม่ทราบว่าทำขึ้นมาตอนไหน เพราะทางรถไฟบริเวณนี้เพิ่งเปลี่ยนไม้หมอน เป็นหมอนคอนกรีตอัดแรงเมื่อปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โบกี้ที่ 1 เสียหายไม่สามารถขับเคลื่อนได้ และทำให้ขบวนรถไฟเสียเวลา จึงต้องเอาขบวนรถไฟไปจอดที่สถานีหนองตะไก้เพื่อตรวจสอบ ส่วนผู้โดยสารบนรถไฟขบวนดังกล่าวมีไม่มาก เพราะเป็นขาล่องกรุงเทพฯ หากไม่สามารถซ่อมแซมรถไฟได้จะจัดรถโดยสารให้