วานนี้ (29 ธ.ค.) คณะผู้แถลงสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นำโดย นายอลงกรณ์ พลบุตร นายวันชัย สอนศิริ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ร่วมกันแถลงข่าวถึง ภารกิจของสปช. ในปี 2558 โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า สปช.ได้กำหนดภารกิจไว้ใน 2 เรื่อง คือ 1. การจัดทำและเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับถาวร ซึ่งจะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปประเทศ 2 . ภารกิจในการปฏิรูประเทศ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน 4 ด้าน คือ ด้านภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคม และภาคการเมือง
นอกจากนั้น สปช.จะมีการดำเนินการผลักดันขับเคลื่อนใน 3 ส่วน คือ การปฏิรูปเร็ว การปฏิรูปภายใน 1 ปี โดยทั้ง 2 ส่วนนี้ จะมีการประชุมสปช. ทุกวันจันทร์-อังคาร ของสัปดาห์ และ 3. การการปฏิรูปบ้านเมือง และการจัดทำพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นของสปช. เราจะสร้างความฝันให้เป็นจริง ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดอย่างใด อย่างหนึ่งก็ตาม
ทั้งนี้ ในการประชุมสปช. วันที่ 5-6 ม.ค. 58 ที่ประชุมจะได้มีการพิจารณาข้อเสนอให้การปฏิรูปเร็ว และการปฏิรูปที่ต้องทำภายใน 1 ปี คือ ข้อเสนอให้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทดแทน ในระบบโซล่าร์ รู๊ฟ การปฏิรูปกิจการไฟฟ้า ซึ่งเป็นของคณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน การคิดอัตราค่าบริการมือถือให้เป็นวินาที แทนการคิดเป็นนาที ซึ่งถือเป็นการทวงคืนความเป็นธรรมให้กับประเทศ การปฏิรูปเรื่องระบบคุณธรรม จริยธรรม ที่มีข้อเสนอตั้งสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ขึ้นมาในการกำหนดมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรมภาคการเมือง รวมทั้งจะมีการพิจารณาข้อเสนอของกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ให้มีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. จัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ที่ค้างมา 17 ปีด้วย
ด้านนายวันชัย สอนศิริ กล่าวว่า ปีหน้าจะเห็นการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงภาครัฐที่สำคัญ โดยเฉพาะการตำรวจ ซึ่งเชื่อว่า 3 เดือนนับจากนี้ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตำรวจ ซึ่งจากที่ได้รับฟังความเห็นมา ในส่วนของตำรวจที่มียศ ตำแหน่ง ก็จะไม่ค่อยเห็นด้วย อาจเพราะเกรงจะกระทบกับตำแหน่งหน้าที่ และยังหวงอำนาจอยู่ แต่ในส่วนของตำรวจระดับล่าง ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้สิ่งที่ประชาชนจะได้เห็นอย่างแน่นอน คือ 1 . โครงสร้างแบบต่างๆ ทั้งหมดที่ออกมาจะเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง เหมาะสมกับสังคมไทยอย่างแน่นอน 2. รัฐธรรมนูญที่จะออกมาจะมีมาตรการตรวจสอบการทุจริต ประพฤติมิชอบภาครัฐอย่างชัดเจน 3. ผู้ทุจริต ประประพฤติมิชอบ และผู้ทุจริตเลือกตั้ง จะไม่มีสิทธิเล่นการเมืองอีกต่อไป และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยอิสระ ปราศจากการครอบงำจากทุนใดๆ ทั้งสิ้น
4 . ระบบนิติธรรม คุณธรรม ธรรมาภิบาล โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้าย จะต้องมีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ 5 . ด้านเศรษฐกิจ จะต้องสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยจะมีการเขียนป้องกันมิให้มีการนำเงินมาหว่านเพื่อสร้างค่านิยมทางการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับประเทศ การใช้งบประมาณแผ่นดิน ต้องมีระบบตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง ซึ่งทั้งหมดประชาชนจะได้เห็นอย่างแน่นอน ในรัฐธรรมนูญใหม่ของประเทศ
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กล่าวว่า ในประเด็นเศรษฐกิจ การปฏิรูปเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศที่ผ่านมายังไม่ชัดเจน จะต้องทำให้ชัดเจนว่าประเทศจะเดินไปสู่อะไร ขณะเดียวกัน จะต้องยกระดับเอกชนไปสู่ภาคการผลิตที่สำคัญ โดยภาคเกษตร บริการ โครงสร้างการผลิตยังเป็นรูปแบบเก่าอยู่ จึงต้องคิดว่า จะยกระดับในลำดับถัดไปอย่างไร รวมทั้งการแข่งขันในภาคเศรษฐกิจที่ต้องเข้มงวดให้ยึดโยงกฎหมายให้มากขึ้น
นอกจากนั้น สปช.จะมีการดำเนินการผลักดันขับเคลื่อนใน 3 ส่วน คือ การปฏิรูปเร็ว การปฏิรูปภายใน 1 ปี โดยทั้ง 2 ส่วนนี้ จะมีการประชุมสปช. ทุกวันจันทร์-อังคาร ของสัปดาห์ และ 3. การการปฏิรูปบ้านเมือง และการจัดทำพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นของสปช. เราจะสร้างความฝันให้เป็นจริง ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดอย่างใด อย่างหนึ่งก็ตาม
ทั้งนี้ ในการประชุมสปช. วันที่ 5-6 ม.ค. 58 ที่ประชุมจะได้มีการพิจารณาข้อเสนอให้การปฏิรูปเร็ว และการปฏิรูปที่ต้องทำภายใน 1 ปี คือ ข้อเสนอให้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทดแทน ในระบบโซล่าร์ รู๊ฟ การปฏิรูปกิจการไฟฟ้า ซึ่งเป็นของคณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน การคิดอัตราค่าบริการมือถือให้เป็นวินาที แทนการคิดเป็นนาที ซึ่งถือเป็นการทวงคืนความเป็นธรรมให้กับประเทศ การปฏิรูปเรื่องระบบคุณธรรม จริยธรรม ที่มีข้อเสนอตั้งสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ขึ้นมาในการกำหนดมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรมภาคการเมือง รวมทั้งจะมีการพิจารณาข้อเสนอของกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ให้มีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. จัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ที่ค้างมา 17 ปีด้วย
ด้านนายวันชัย สอนศิริ กล่าวว่า ปีหน้าจะเห็นการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงภาครัฐที่สำคัญ โดยเฉพาะการตำรวจ ซึ่งเชื่อว่า 3 เดือนนับจากนี้ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตำรวจ ซึ่งจากที่ได้รับฟังความเห็นมา ในส่วนของตำรวจที่มียศ ตำแหน่ง ก็จะไม่ค่อยเห็นด้วย อาจเพราะเกรงจะกระทบกับตำแหน่งหน้าที่ และยังหวงอำนาจอยู่ แต่ในส่วนของตำรวจระดับล่าง ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้สิ่งที่ประชาชนจะได้เห็นอย่างแน่นอน คือ 1 . โครงสร้างแบบต่างๆ ทั้งหมดที่ออกมาจะเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง เหมาะสมกับสังคมไทยอย่างแน่นอน 2. รัฐธรรมนูญที่จะออกมาจะมีมาตรการตรวจสอบการทุจริต ประพฤติมิชอบภาครัฐอย่างชัดเจน 3. ผู้ทุจริต ประประพฤติมิชอบ และผู้ทุจริตเลือกตั้ง จะไม่มีสิทธิเล่นการเมืองอีกต่อไป และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยอิสระ ปราศจากการครอบงำจากทุนใดๆ ทั้งสิ้น
4 . ระบบนิติธรรม คุณธรรม ธรรมาภิบาล โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้าย จะต้องมีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ 5 . ด้านเศรษฐกิจ จะต้องสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยจะมีการเขียนป้องกันมิให้มีการนำเงินมาหว่านเพื่อสร้างค่านิยมทางการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับประเทศ การใช้งบประมาณแผ่นดิน ต้องมีระบบตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง ซึ่งทั้งหมดประชาชนจะได้เห็นอย่างแน่นอน ในรัฐธรรมนูญใหม่ของประเทศ
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กล่าวว่า ในประเด็นเศรษฐกิจ การปฏิรูปเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศที่ผ่านมายังไม่ชัดเจน จะต้องทำให้ชัดเจนว่าประเทศจะเดินไปสู่อะไร ขณะเดียวกัน จะต้องยกระดับเอกชนไปสู่ภาคการผลิตที่สำคัญ โดยภาคเกษตร บริการ โครงสร้างการผลิตยังเป็นรูปแบบเก่าอยู่ จึงต้องคิดว่า จะยกระดับในลำดับถัดไปอย่างไร รวมทั้งการแข่งขันในภาคเศรษฐกิจที่ต้องเข้มงวดให้ยึดโยงกฎหมายให้มากขึ้น