**ต้องยอมรับว่ากังวลใจอย่างมาก กลัวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเกิดความโมโหจนเสียบุคลิกผู้นำ หลังจากที่มีความรู้สึกว่ามี "สื่อบางฉบับ" ด่าทุกวัน ด่าทุกหน้า ซึ่งเมื่อขยายความจากคำพูดของเขาต่อเนื่องจนเข้าใจว่า สื่อบางฉบับดังกล่าวน่าจะเป็น "ASTVผู้จัดการ" ที่เป็นต้นเหตุ
ในเมื่อไม่อยากให้ด่า หรือที่จริงต้องมีความหมายว่า "วิจารณ์" มากกว่า ก็ต้องหาทาง "อวย" หาทางชื่นชมส่งเสริมกำลังใจให้สมกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันว่าได้อุตส่าห์เสียสละ เสี่ยงชีวิตลงมาทำงานเพื่อบ้านเมือง ทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า ขจัดความขัดแย้งสร้างความปรองดองเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสร่วมกัน แต่ก็ยังดันมี "สื่อบางฉบับ" จ้องด่าเสียอีก ด่าจนโมโห จนไม่อยากจะอ่านอีกแล้ว
อย่างไรก็ดี ระหว่างการแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามเน้นย้ำถึงภารกิจที่หนักหนาสาหัส ที่ตัวเองกำลังแก้ปัญหาอยู่ และต้องขับเคลื่อนให้สำเร็จในวันข้างหน้า ทั้งเรื่องความมั่นคง การปฏิรูปที่กำลังเดินไป รวมทั้งเป้าหมายความมั่งคั่ง ยั่งยืน ในวันข้างหน้า ที่ตัวเองและทีมงานพี่ๆ น้องๆ ต้องร่วมกันผลักดัน เหนื่อยสายตัวแทบขาด จนเวลานี้แทบจะหาเวลาเป็นส่วนตัวไม่ได้ ทำให้ครอบครัวลูกเมียต้องเดือดร้อน ต้องน้ำตาตกกับความเสียสละ เสี่ยงภัยของเขา ถึงขนาดที่ว่าลูกสาวไม่ได้ออกจากบ้านเลย หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา
**ลองคิดดูว่ามันบีบคั้นหัวใจกันแค่ไหน !!
แม้ว่าจะพยายามอธิบายถึงความยากลำบาก และความเสียสละของตัวเองเพื่อบ้านเมือง หรืออารมณ์เสียกับสื่อบางฉบับแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องชื่นชม ยกย่อง ถึงความเป็นคนใจกว้าง ยอมรับความจริง ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าถึงอย่างไรตัวเองก็ยัง "ไม่ค่อยพอใจ" กับผลงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน และกำชับให้เร่งมือสร้างผลงานพิสูจน์กันใหม่ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งถึงตอนนั้นก็คงจะมีการประเมินกันอีกที ส่วนจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ก็ถือว่าน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
ที่บอกว่าไม่น่าพอใจนั้น อาจจะเป็นเรื่องการแก้ปัญหา "ปากท้อง" เรื่องราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำแทบทุกรายการ ทั้งข้าว ยางพารา เป็นต้น ยังมีปัญหาเรื่องการส่งออก ตัวเลขการท่องเที่ยวที่ติดลบ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่เข้าเป้า จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายเอาไว้ในตอนแรกว่าจะโตได้ถึงร้อยละ 2 จนต้องลดลงมาเรื่อยๆ เหลือร้อยละ 1.5 ร้อยละ 1 จนล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศตัวเลขออกมาแล้วว่า อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้จะโตแค่ร้อยละ 0.8 เท่านั้น
ขณะเดียวกัน แม้ว่าเขาจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแค่ไหนก็ตาม แต่กลายเป็นว่ายังมีปัญหาในเรื่องของความล่าช้า อืดอาด ยืดยาด ตัวอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกมาให้เห็นด้วยตัวเองก็คือ เรื่องการเบิกจ่ายช่วยเหลือชาวนา และชาวสวนยางพารา ที่ยังจ่ายเงินได้ไม่ครบถ้วน ติดปัญหาจุกจิกมากมาย รวมไปถึงกรณีก่อนหน้านี้เกิดขึ้นกับการเบิกจ่ายงบประมาณ ทั้งที่คาดหวังจะเป็นมาตรการสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่ก็ยังติดขัดไปไม่ถึงไหน จนทำให้ นายกรัฐมนตรีออกมาขีดเส้น เร่งรัดจัดการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
แม้ว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เน้นย้ำ ยอมรับว่ายังไม่ถึงใจในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องราคาสินค้าการเกษตร ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องผลการปราบปรามการทุจริต เช่น โครงการรับจำนำข้าวที่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม เรื่องการล่วงละเมิดจ้วงจาบสถาบันเบื้องสูง ที่ยังมีหลายคนยังลอยนวล แม้ว่าจะมีการประกาศรวมๆว่า ภายใน 3 เดือนข้างหน้า จะมีการเคร่งครัดในเรื่องการดำเนินคดีก็ตาม แต่ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ปัญหาดังกล่าวคือส่วนสำคัญของต้นตอปัญหาบ้านเมือง
**แต่เมื่อตื่นตัว และยืนยันว่าจะเร่งรัดเดินหน้าจัดการกับปัญหาหมักหมมเหล่านี้โดยเร็ว ก็ต้องจับตามอง และเป็นกำลังใจให้กันต่อไป !!
ในเมื่อไม่อยากให้ด่า หรือที่จริงต้องมีความหมายว่า "วิจารณ์" มากกว่า ก็ต้องหาทาง "อวย" หาทางชื่นชมส่งเสริมกำลังใจให้สมกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันว่าได้อุตส่าห์เสียสละ เสี่ยงชีวิตลงมาทำงานเพื่อบ้านเมือง ทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า ขจัดความขัดแย้งสร้างความปรองดองเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสร่วมกัน แต่ก็ยังดันมี "สื่อบางฉบับ" จ้องด่าเสียอีก ด่าจนโมโห จนไม่อยากจะอ่านอีกแล้ว
อย่างไรก็ดี ระหว่างการแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามเน้นย้ำถึงภารกิจที่หนักหนาสาหัส ที่ตัวเองกำลังแก้ปัญหาอยู่ และต้องขับเคลื่อนให้สำเร็จในวันข้างหน้า ทั้งเรื่องความมั่นคง การปฏิรูปที่กำลังเดินไป รวมทั้งเป้าหมายความมั่งคั่ง ยั่งยืน ในวันข้างหน้า ที่ตัวเองและทีมงานพี่ๆ น้องๆ ต้องร่วมกันผลักดัน เหนื่อยสายตัวแทบขาด จนเวลานี้แทบจะหาเวลาเป็นส่วนตัวไม่ได้ ทำให้ครอบครัวลูกเมียต้องเดือดร้อน ต้องน้ำตาตกกับความเสียสละ เสี่ยงภัยของเขา ถึงขนาดที่ว่าลูกสาวไม่ได้ออกจากบ้านเลย หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา
**ลองคิดดูว่ามันบีบคั้นหัวใจกันแค่ไหน !!
แม้ว่าจะพยายามอธิบายถึงความยากลำบาก และความเสียสละของตัวเองเพื่อบ้านเมือง หรืออารมณ์เสียกับสื่อบางฉบับแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องชื่นชม ยกย่อง ถึงความเป็นคนใจกว้าง ยอมรับความจริง ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าถึงอย่างไรตัวเองก็ยัง "ไม่ค่อยพอใจ" กับผลงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน และกำชับให้เร่งมือสร้างผลงานพิสูจน์กันใหม่ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งถึงตอนนั้นก็คงจะมีการประเมินกันอีกที ส่วนจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ก็ถือว่าน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
ที่บอกว่าไม่น่าพอใจนั้น อาจจะเป็นเรื่องการแก้ปัญหา "ปากท้อง" เรื่องราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำแทบทุกรายการ ทั้งข้าว ยางพารา เป็นต้น ยังมีปัญหาเรื่องการส่งออก ตัวเลขการท่องเที่ยวที่ติดลบ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่เข้าเป้า จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายเอาไว้ในตอนแรกว่าจะโตได้ถึงร้อยละ 2 จนต้องลดลงมาเรื่อยๆ เหลือร้อยละ 1.5 ร้อยละ 1 จนล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศตัวเลขออกมาแล้วว่า อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้จะโตแค่ร้อยละ 0.8 เท่านั้น
ขณะเดียวกัน แม้ว่าเขาจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแค่ไหนก็ตาม แต่กลายเป็นว่ายังมีปัญหาในเรื่องของความล่าช้า อืดอาด ยืดยาด ตัวอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกมาให้เห็นด้วยตัวเองก็คือ เรื่องการเบิกจ่ายช่วยเหลือชาวนา และชาวสวนยางพารา ที่ยังจ่ายเงินได้ไม่ครบถ้วน ติดปัญหาจุกจิกมากมาย รวมไปถึงกรณีก่อนหน้านี้เกิดขึ้นกับการเบิกจ่ายงบประมาณ ทั้งที่คาดหวังจะเป็นมาตรการสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่ก็ยังติดขัดไปไม่ถึงไหน จนทำให้ นายกรัฐมนตรีออกมาขีดเส้น เร่งรัดจัดการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
แม้ว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เน้นย้ำ ยอมรับว่ายังไม่ถึงใจในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องราคาสินค้าการเกษตร ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องผลการปราบปรามการทุจริต เช่น โครงการรับจำนำข้าวที่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม เรื่องการล่วงละเมิดจ้วงจาบสถาบันเบื้องสูง ที่ยังมีหลายคนยังลอยนวล แม้ว่าจะมีการประกาศรวมๆว่า ภายใน 3 เดือนข้างหน้า จะมีการเคร่งครัดในเรื่องการดำเนินคดีก็ตาม แต่ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ปัญหาดังกล่าวคือส่วนสำคัญของต้นตอปัญหาบ้านเมือง
**แต่เมื่อตื่นตัว และยืนยันว่าจะเร่งรัดเดินหน้าจัดการกับปัญหาหมักหมมเหล่านี้โดยเร็ว ก็ต้องจับตามอง และเป็นกำลังใจให้กันต่อไป !!