ผบ.ทบ.สั่งกองทัพภาคที่ 4 สอบสวนหลังชาวบ้านกรุงชิง อ.นบพิตำ ร้องคนมีสีเอี่ยวฆ่า"พิธาน" แกนนำต้านเหมืองให้เสร็จภายใน 1 เดือน พร้อมสั่งห้ามนายทหารยศพันเอกเข้าพื้นที่เด็ดขาด ขณะชาวบ้านยังหวั่นอิทธิพล ไม่กล้ากรีดยาง-แต่งสวนผลไม้
จากกรณีครอบครัวของนายพิธาน ทองพนัง แกนนำคัดค้านการทำเหมือง ที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและที่ดินทำกินของชาวบ้านในต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกลอบสังหาร ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกร้องให้มีการย้ายนายทหารสังกองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)ออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีพฤติกรรมช่วยเหลือฝ่ายผู้ประกอบการเหมืองแร่
วานนี้(23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เชิญนายสำเร็จ ทองพนัง บิดาของนายพิธาน พร้อมด้วยครอบครัวและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทำเหมือง รวมทั้งตำรวจ และเครือข่ายนักวิชาการ ที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านเข้าหารือ โดยระบุว่าผู้บัญชาการทหารบก กำชับให้มีคำตอบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด และสั่งการนายทหารยศพันเอกห้ามเข้าพื้นที่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทุกประเด็น พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบสวนให้เสร็จภายใน 1 เดือน โดยมีพล.ต.วัฒนชัย ประสานเกษม เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการสอบสวน
อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังหวั่นเกรงความไม่ปลอดภัย จึงยังไม่มีใครกล้าขึ้นไปกรีดยางพาราหรือแต่งสวนผลไม้ที่อยู่ในย่านจุดเกิดเหตุ เพราะอยู่ในเขตอิทธิพลของผู้เกี่ยวข้องบางราย โดยรองแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งให้เพิ่มกำลังทหารสนับสนุนการปฏิบัติของตำรวจอีกสัปดาห์ละ 1 ชุด เพื่อดูแลความปลอดภัย และสร้างความอุ่นใจให้กับชาวบ้าน
จากกรณีครอบครัวของนายพิธาน ทองพนัง แกนนำคัดค้านการทำเหมือง ที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและที่ดินทำกินของชาวบ้านในต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกลอบสังหาร ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกร้องให้มีการย้ายนายทหารสังกองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)ออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีพฤติกรรมช่วยเหลือฝ่ายผู้ประกอบการเหมืองแร่
วานนี้(23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เชิญนายสำเร็จ ทองพนัง บิดาของนายพิธาน พร้อมด้วยครอบครัวและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทำเหมือง รวมทั้งตำรวจ และเครือข่ายนักวิชาการ ที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านเข้าหารือ โดยระบุว่าผู้บัญชาการทหารบก กำชับให้มีคำตอบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด และสั่งการนายทหารยศพันเอกห้ามเข้าพื้นที่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทุกประเด็น พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบสวนให้เสร็จภายใน 1 เดือน โดยมีพล.ต.วัฒนชัย ประสานเกษม เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการสอบสวน
อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังหวั่นเกรงความไม่ปลอดภัย จึงยังไม่มีใครกล้าขึ้นไปกรีดยางพาราหรือแต่งสวนผลไม้ที่อยู่ในย่านจุดเกิดเหตุ เพราะอยู่ในเขตอิทธิพลของผู้เกี่ยวข้องบางราย โดยรองแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งให้เพิ่มกำลังทหารสนับสนุนการปฏิบัติของตำรวจอีกสัปดาห์ละ 1 ชุด เพื่อดูแลความปลอดภัย และสร้างความอุ่นใจให้กับชาวบ้าน
