ปัจจัยลบภายนอกทั้งความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน รวมถึงความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดกดดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าไปที่ 1,525.56 จุด ลดลง 3.42 จุด เปลี่ยนแปลง -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 24,579.10 ล้านบาท ระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,530.53 จุด และต่ำสุดที่ 1,521.92 จุด
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต ระบุสาเหตุที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลง ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับทิศตลาดหุ้นในภูมิภาค จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมา 2 วันติดต่อกัน หรือราว 30 จุด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงราว 1% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน หลังจากทางการโปแลนด์ได้ออกมาเตือนว่า การที่รัสเซียเพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดนนั้น อาจจะมีแผนโจมตียูเครน ประกอบกับ ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.7 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 56 ในเดือน มิ.ย. ถือว่าสูงสุดในรอบแปดปีครึ่ง และดีกว่านักวิเคราะห์คาดกาณ์ไว้ที่ 56.5 ตัวเลขที่ดีมากส่งผลนักลงทุนกลับมากังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น
สำหรับปัจจัยภายในประเทศยังมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องพร้อมคาดการณ์ความเคลื่อนไหวช่วงบ่ายวันนี้ว่า ดัชนีน่าจะทรงตัวในกรอบแคบแนวรับ 1,516-1,520 จุด แนวต้าน 1,545-1,550 จุด รอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย แม้ตลาดจะคาดการณ์ไว้แล้วก็ตาม