xs
xsm
sm
md
lg

มทภ.4สั่งงดบินพื้นที่ใต้อุตุฯเตือนสภาพอากาศแย่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มทภ.4 สั่งอากาศยานในพื้นที่ใต้ "ห้ามบิน" 22-24 ธ.ค.หลังเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 206 ประสบอุบัติเหตุตกที่ยะลา ตามคำเตือนกรมอุตุฯ เนื่องจากสภาพอากาศโดยรวมขณะนี้แปรปวน ด้าน "ศภช." เผยรายงานสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ที่สงขลาระดับน้ำทรงตัว ส่วนนราธิวาสและปัตานีน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบเบลล์ 206 หมายเลข 446 พล.ร.2 รอ.ประสบอุบัติเหตุตกที่บริเวณบ้านปอเยาะ หมู่ 4 ต.ใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ภายหลังปฏิบัติภารกิจสำรวจสภาพน้ำที่ท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 รายเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ภายหลังเกิดเหตุทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นพบว่าอาจจะเกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยขณะเกิดเหตุในพื้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้าอยู่ในระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่ ส่วนการเก็บกู้ซากเฮลิคอปเตอร์นั้น ต้องรอเจ้าหน้าที่นิรภัยการบินทหารบกมาตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง และความเสียหายก่อนจึงจะดำเนินการเก็บกู้ได้

สั่งใช้รถเดินทางแทน ฮ.

ด้านอาการทหารที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ประกอบด้วย ร.ท.อภิสิทธิ์ พระหะชา อายุ 32 ปี สังกัด ร้อย.บิน พล.ร.2 รอ.ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก และ จ.ส.อ.กิตติพงษ์ แสนทิช อายุ 37 ปี ตำแหน่ง รอง ผบ.มว.ร้อย.ม. 4 สังกัด ม.พัน.15 ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนขวา แพทย์ต้องให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ส่วน ร.อ.เสกสรร ภูริผล อายุ 33 ปี สังกัด ร้อย.บินพล.ร.2 รอ.ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลัง และ จ.ส.อ.สงวน หมื่นคำเรือง อายุ 55 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ม.2 มว.ม.1 ร้อย.ม.4 สังกัดม.พัน.15 ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้ายแพทย์ได้อนุญาตกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ความคืบหน้าจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กรณีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมาเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่จะต้องออกไปช่วยประชาชน โดยใช้เครื่องมือทุกชนิดที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นการเดินเท้า ทางรถยนต์ ทางเรือ รวมทั้งการลาดตระเวนทางอากาศ ซึ่งเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. เป็นภารกิจของหน่วยที่จะต้องบินสำรวจพื้นที่ทางอากาศ เพื่อเตรียมการที่จะช่วยเหลือประชาชน แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ไม่ดี นักบินจึงต้องนำเครื่องลงฉุกเฉิน ซึ่งโชคดีที่นักบินและช่างเครื่องทั้ง 4 นายได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

"ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบนั้น ทางเจ้าหน้าที่จากนิรภัยการบินของศูนย์การบินทหารบกจะเดินทางลงมาเพื่อสำรวจสาเหตุที่แท้จริง ส่วนการเก็บกู้ซากเครื่องบินจะเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทหารบกที่จะมาดำเนินการต่อไป แต่ในขณะนี้ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 ได้สั่งการตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.เป็นต้นไปถึงวันที่ 24 ธ.ค.57 ตามคำแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาให้งดใช้อากาศยานทุกชนิด ในการเดินทางของคณะผู้บังคับบัญชา และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ให้ใช้รถยนต์เป็นหลัก เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย” พ.อ.ปราโมทย์ ระบุ

ผบ.ทบ.กำชับทหารระมัดระวัง

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารเกิดอุบัติเหตุจากการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ผ่านมาว่า พล.อ.อุดมเดช มีความเป็นห่วงกำลังพลในขณะเข้าปฏิบัติภารกิจต่างๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชน โดยได้กำชับให้กำลังพลทุกคนเพิ่มความระมัดระวังดูแลตนเองให้มีความปลอดภัยให้มากขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ขอลงจอดฉุกเฉินในพื้นที่บ้านปอเยาะ ม.4 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา เนื่องจากสภาพอากาศจนทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

รวมทั้งเรื่องการเสียชีวิตของ จ.ส.อ.ชาญณรงค์ มะลิชื่น ทหารสังกัด ฉก.นราธิวาส 36 ในขณะปฏิบัติหน้าที่นำเรือเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนที่ประสบอุทกภัยริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก จนเกิดอุบัติเหตุเรือชนคอสะพานจนล่มนั้น ผบ.ทบ.รู้สึกเสียใจต่อการสูญเสียดังกล่าว พร้อมสั่งการหน่วยเกี่ยวข้องเข้าดูแลครอบครัว รวมถึงดูแลสิทธิสวัสดิการและบำเหน็จความชอบต่างๆ ให้อย่างเต็มที่ ไม่แตกต่างจากผู้ที่ทุ่มเทเสียสละคนอื่น อย่างไรก็ตามกองทัพบกยังคงต้องมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ ให้ได้อย่างดีที่สุดต่อไป

สถานการณ์น้ำท่วมใต้ยังน่าห่วง

ทางด้านนายชยสาร โทณานนท์ ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติว่า ในวันที่ 22-23 ธ.ค.57 สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ต.ฉลุง และ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำทรงตัว ส่วนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง บริเวณแม่น้ำโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก คลองตันหยงมัส อ.ระแง จ.นราธิวาส และลุ่มน้ำปัตตานี บริเวณ อ.เบตง อ.ธารโต อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง อ.กาบัง อ.ยะหา และ อ.เมือง จ.ยะลา ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยดังกล่าวระมัดระวัง
กำลังโหลดความคิดเห็น