เมื่อเวลา 9.30 น. วานนี้ (22ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายอนุสนธิ์ ชินวรรโณ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 ( กองบิน 6) โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศแบบ Airbus A310-300 ไปยังกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามกำหนดการเยือนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 22-23 ธ.ค. 57
การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และทำความรู้จักกับผู้นำจีนให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในภาพรวม พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ของไทยในการเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเร่งการดำเนินโครงการความร่วมมือที่คั่งค้าง ให้เป็นรูปธรรม รวมถึงกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือไทย -จีน ระยะต่อไป โดยเฉพาะการเชื่อมโยงในภูมิภาคด้านเศรษฐกิจในมิติต่างๆเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
ต่อมา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เร็วกว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง) คณะของนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้การต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ มหาศาลาประชาชน ก่อนที่จะมีการหารือทวิภาคี กับนายหลี่ เค่อเฉียง ณ มหาศาลาประชาชน
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง และบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับ ได้แก่ 1. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในไทยระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารประชาชนจีน 2.ความตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท 3.บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการด้านทรัพยากรน้ำและชลประทานระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยกับกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน และ 4. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารแห่งประเทศจีน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและภริยา ณ มหาศาลาประชาชนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (23 ธ.ค.) คณะของนายกรัฐมนตรี จะได้ไปเยี่ยมชมศูนย์ควบคุมรถไฟแห่งประเทศจีน และทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูง จากสถานีรถไฟทางใต้แห่งกรุงปักกิ่งไปยังนครเทียนจิน พบหารือกับผู้บริหารบริษัท Huaweiรวมทั้งเข้าเยี่ยมคารวะ นายจาง เต๋อเจียง ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน และเข้าเยี่ยมคารวะ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ มหาศาลาประชาชน ก่อนเดินทางกลับ โดยจะถึงประเทศไทย เวลา 22.00 น.
การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และทำความรู้จักกับผู้นำจีนให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในภาพรวม พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ของไทยในการเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเร่งการดำเนินโครงการความร่วมมือที่คั่งค้าง ให้เป็นรูปธรรม รวมถึงกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือไทย -จีน ระยะต่อไป โดยเฉพาะการเชื่อมโยงในภูมิภาคด้านเศรษฐกิจในมิติต่างๆเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
ต่อมา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เร็วกว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง) คณะของนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้การต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ มหาศาลาประชาชน ก่อนที่จะมีการหารือทวิภาคี กับนายหลี่ เค่อเฉียง ณ มหาศาลาประชาชน
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง และบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับ ได้แก่ 1. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในไทยระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารประชาชนจีน 2.ความตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท 3.บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการด้านทรัพยากรน้ำและชลประทานระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยกับกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน และ 4. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารแห่งประเทศจีน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและภริยา ณ มหาศาลาประชาชนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (23 ธ.ค.) คณะของนายกรัฐมนตรี จะได้ไปเยี่ยมชมศูนย์ควบคุมรถไฟแห่งประเทศจีน และทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูง จากสถานีรถไฟทางใต้แห่งกรุงปักกิ่งไปยังนครเทียนจิน พบหารือกับผู้บริหารบริษัท Huaweiรวมทั้งเข้าเยี่ยมคารวะ นายจาง เต๋อเจียง ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน และเข้าเยี่ยมคารวะ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ มหาศาลาประชาชน ก่อนเดินทางกลับ โดยจะถึงประเทศไทย เวลา 22.00 น.