เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (22ธ.ค.) พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. พล.อ. ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.สส. พร้อมด้วย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวาณิชย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ตรีทศ. สนแจ้ง ผบ.ทอ.และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จะเดินทางไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ระว่างวันที่ 24-25 ธ.ค.นี้ เพื่อเข้าพบสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ "พล.อ.เตียบันห์ รมว.กลาโหม กัมพูชา และประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC เพื่อกระชับสัมพันธ์
นอกจากเป็นการกระขับความสัมพันธ์แล้ว ยังมีการหารือ เรื่องความร่วมมือ พื้นที่เศรษฐกิจชายแดน ตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรี เพราะถือว่า เป็นครั้งสำคัญ ที่ไปกันคณะใหญ่ พร้อมหน้า เพราะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนด้วย โดยทั้งหมดจะเดินทางด้วยเครื่องบิน Airbus ของกองทัพอากาศ เช้า 24 ธ.ค. นึ้
ทั้งนี้ รมว.กลาโหมได้ขอให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ พิจารณาในประเด็นด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมการสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 7 พื้นที่ชายแดน ได้แก่ จ.ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด หนองคาย สงขลา และจังหวัดนราธิวาส รวมถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ อาทิ เรื่องแรงงานต่างด้าว ผู้หลบหนีเข้าเมือง การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้มีการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และเตรียมเครื่องมือ รวมทั้งมาตรการการปฏิบัติต่างๆ และบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด
พ.อ.คงชีพ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร ยังขอให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ให้ความสำคัญ เตรียมการและสนับสนุนผลจากการเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐมาเลเซีย ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ โดยเฉพาะกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดผลที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขแก่พี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
นอกจากเป็นการกระขับความสัมพันธ์แล้ว ยังมีการหารือ เรื่องความร่วมมือ พื้นที่เศรษฐกิจชายแดน ตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรี เพราะถือว่า เป็นครั้งสำคัญ ที่ไปกันคณะใหญ่ พร้อมหน้า เพราะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนด้วย โดยทั้งหมดจะเดินทางด้วยเครื่องบิน Airbus ของกองทัพอากาศ เช้า 24 ธ.ค. นึ้
ทั้งนี้ รมว.กลาโหมได้ขอให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ พิจารณาในประเด็นด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมการสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 7 พื้นที่ชายแดน ได้แก่ จ.ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด หนองคาย สงขลา และจังหวัดนราธิวาส รวมถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ อาทิ เรื่องแรงงานต่างด้าว ผู้หลบหนีเข้าเมือง การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้มีการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และเตรียมเครื่องมือ รวมทั้งมาตรการการปฏิบัติต่างๆ และบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด
พ.อ.คงชีพ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร ยังขอให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ให้ความสำคัญ เตรียมการและสนับสนุนผลจากการเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐมาเลเซีย ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ โดยเฉพาะกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดผลที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขแก่พี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป