ASTV ผู้จัดการรายวัน - กรรมการผู้จัดการ TFEX เตรียมคุยคุยแบงก์ชาติ เพิ่มโบรกฯเทรด USD Futures อีก 9 รายในได้ครบ 40 รายในปีหน้า พร้อมขอขยายวงเงินซื้อขายให้เกิน 5 พันเหรียญ/สัญญา รองรับความต้องการของนักลงทุน ขณะเดียวกันวางโรดแมพเตรียมปรับเพิ่มวอลุ่มสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในปีหน้าให้ได้ 1.9 แสนสัญญาต่อวัน
นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) หรือ TFEX เปิดแผนการดำเนินงานปี 2558 ว่า TFEX เตรียมปรับเป้าปริมาณการซื้อขายให้ได้ไม่ต่ำกว่า 190,000 แสนสัญญา/วัน จากในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 130,000 สัญญา/วัน โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ปริมาณการ ซื้อขายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 140,000 สัญญา โดยเป้าหมายดังกล่าวมากกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 7-8 หมื่นสัญญาต่อวัน อีกทั้งยังเตรียมที่จะผลักดันสินค้า เดิมที่มีอยู่ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้า Options ซึ่งมองว่าโอกาสขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก โดย TFEX จะเพิ่มผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือ Market Maker เป็น 5 ราย จากเดิมที่มี Market Maker ให้บริการ 2 รายซึ่งจะทำให้การซื้อขายสม่ำเสมอมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในไตรมาสที่ 1 ปีหน้า
"ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมาจากภาวะตลาดที่ผันผวน โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาจาก Single Stock Futures ส่วนสินค้า Gold Futures ปีนี้ยอมรับว่าปริมาณการซื้อขายลดลงเฉลี่ย 6,000 สัญญาต่อวัน จากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยปีก่อนอยู่ที่ 9,000 สัญญาต่อวัน ซึ่งลดลงตามภาพรวมของราคาทองคำขาลง" นางสาวรินใจ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ TFEX กล่าวว่า ทาง TFEX เตรียมยื่นเรื่องต่อธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เพื่อขออนุมัติให้โบรกเกอร์จากปัจจุบันที่มีโบรกเกอร์เพียง 31 เพิ่มอีก 9 ราย ให้เป็น 40 รายภายในปีหน้านี้ โดยโบรกเกอร์ 9 แห่งจะเป็นทองคำและเป็นโบรกเกอร์รายใหม่ เน้นเปิดใช้บริการสินค้า USD Futures เพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้จะเจรจาขอให้ ธปท.อนุญาตขยายวงเงินในการซื้อขายสินค้า USD Futures ให้มากกว่า5,000 เหรียญ/สัญญา เพื่อรองรับตลาดเงินที่เติบโตในอนาคต พร้อมกันนี้ TFEX อยู่ในช่วงระหว่างศึกษาการความเป็นไปได้ในการในเงินสกุลดอลลาร์เพื่อซื้อขายสินค้าในตลาด TFEX โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งแรกปี 2558
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 22 ธันวาคม 2557 ไปที่ 1,536.83 จุด เพิ่มขึ้น 22.48 จุด เปลี่ยนแปลง +1.48% มูลค่าการซื้อขาย 37,251.75 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,536.83 จุด และต่ำสุดที่ 1,519.73 จุด โดยสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 3,334.84 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,014.71 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,306.19 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 3,043.36 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีวานนี้เคลื่อนไหวในแดนบสกได้อย่างต่อเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Energy ทำให้จิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นเป็นบวก และสนับสนุนให้หุ้นในกลุ่ม domestic play ปรับขึ้นตาม ทั้ง กลุ่มProperty และ ICT ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ มองว่าหุ้นทั้ง 2 กลุ่ม รวมถึง ธนาคารและอาหาร มีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อจากการทำ window dressing ของกองทุนในประเทศ
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าวันนี้ดัชนีมีโอกาสผันผวน จากแรงขาบบริเวณแนวต้าน 1,540 จุด โดยอาจแกว่งตัวในกรอบ 1,520 – 1,540 จุด อย่างไรก็ตามดัชนีฯ ยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาพลังงาน ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะรีบาวด์ไปที่ระดับ 63 – 65 เหรียญต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ WTI 60 – 63 เหรียญต่อบาร์เรล ประกอบกับหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่อย่าง INTUCH ADVANC ที่ได้รับผลดีจากการประมูล 4G ในปีหน้า เป็นกลุ่มหุ้นที่ Outperform ตลาดต่อเนื่อง และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่องในระยะสัปดาห์ ดังนั้นจึงแนะนำ เก็งกำไรแบบมี stop loss ในกรอบ 1,490-1,530 จุด โดยควรแบ่งขายหากดัชนีสามารถปรับขึ้นทดสอบ 1,530-1,550 จุด
นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) หรือ TFEX เปิดแผนการดำเนินงานปี 2558 ว่า TFEX เตรียมปรับเป้าปริมาณการซื้อขายให้ได้ไม่ต่ำกว่า 190,000 แสนสัญญา/วัน จากในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 130,000 สัญญา/วัน โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ปริมาณการ ซื้อขายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 140,000 สัญญา โดยเป้าหมายดังกล่าวมากกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 7-8 หมื่นสัญญาต่อวัน อีกทั้งยังเตรียมที่จะผลักดันสินค้า เดิมที่มีอยู่ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้า Options ซึ่งมองว่าโอกาสขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก โดย TFEX จะเพิ่มผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือ Market Maker เป็น 5 ราย จากเดิมที่มี Market Maker ให้บริการ 2 รายซึ่งจะทำให้การซื้อขายสม่ำเสมอมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในไตรมาสที่ 1 ปีหน้า
"ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมาจากภาวะตลาดที่ผันผวน โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาจาก Single Stock Futures ส่วนสินค้า Gold Futures ปีนี้ยอมรับว่าปริมาณการซื้อขายลดลงเฉลี่ย 6,000 สัญญาต่อวัน จากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยปีก่อนอยู่ที่ 9,000 สัญญาต่อวัน ซึ่งลดลงตามภาพรวมของราคาทองคำขาลง" นางสาวรินใจ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ TFEX กล่าวว่า ทาง TFEX เตรียมยื่นเรื่องต่อธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เพื่อขออนุมัติให้โบรกเกอร์จากปัจจุบันที่มีโบรกเกอร์เพียง 31 เพิ่มอีก 9 ราย ให้เป็น 40 รายภายในปีหน้านี้ โดยโบรกเกอร์ 9 แห่งจะเป็นทองคำและเป็นโบรกเกอร์รายใหม่ เน้นเปิดใช้บริการสินค้า USD Futures เพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้จะเจรจาขอให้ ธปท.อนุญาตขยายวงเงินในการซื้อขายสินค้า USD Futures ให้มากกว่า5,000 เหรียญ/สัญญา เพื่อรองรับตลาดเงินที่เติบโตในอนาคต พร้อมกันนี้ TFEX อยู่ในช่วงระหว่างศึกษาการความเป็นไปได้ในการในเงินสกุลดอลลาร์เพื่อซื้อขายสินค้าในตลาด TFEX โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งแรกปี 2558
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 22 ธันวาคม 2557 ไปที่ 1,536.83 จุด เพิ่มขึ้น 22.48 จุด เปลี่ยนแปลง +1.48% มูลค่าการซื้อขาย 37,251.75 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,536.83 จุด และต่ำสุดที่ 1,519.73 จุด โดยสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 3,334.84 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,014.71 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,306.19 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 3,043.36 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีวานนี้เคลื่อนไหวในแดนบสกได้อย่างต่อเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Energy ทำให้จิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นเป็นบวก และสนับสนุนให้หุ้นในกลุ่ม domestic play ปรับขึ้นตาม ทั้ง กลุ่มProperty และ ICT ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ มองว่าหุ้นทั้ง 2 กลุ่ม รวมถึง ธนาคารและอาหาร มีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อจากการทำ window dressing ของกองทุนในประเทศ
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าวันนี้ดัชนีมีโอกาสผันผวน จากแรงขาบบริเวณแนวต้าน 1,540 จุด โดยอาจแกว่งตัวในกรอบ 1,520 – 1,540 จุด อย่างไรก็ตามดัชนีฯ ยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาพลังงาน ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะรีบาวด์ไปที่ระดับ 63 – 65 เหรียญต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ WTI 60 – 63 เหรียญต่อบาร์เรล ประกอบกับหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่อย่าง INTUCH ADVANC ที่ได้รับผลดีจากการประมูล 4G ในปีหน้า เป็นกลุ่มหุ้นที่ Outperform ตลาดต่อเนื่อง และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่องในระยะสัปดาห์ ดังนั้นจึงแนะนำ เก็งกำไรแบบมี stop loss ในกรอบ 1,490-1,530 จุด โดยควรแบ่งขายหากดัชนีสามารถปรับขึ้นทดสอบ 1,530-1,550 จุด