xs
xsm
sm
md
lg

ลดน้ำมันจิ๊บจ๊อยบิดกลไกตลาด !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 มองดูเผินๆ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้าคสช.และประธาน กพช. ออกมาประกาศลดราคาน้ำมันหลังการประชุม กพช.เมื่อวันก่อน โดยลดราคาเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง ลิตรละ 2 บาท ส่วนดีเซล ลดลงลิตรละ 1 บาท ที่เหลือก็เป็นอี 85 ที่ลดแค่ 20 สต.ต่อลิตร ได้ยินแบบนี้อาจซาบซึ้งจนน้ำตาไหล ยิ่งพล.อ.ประยุทธ์ อ้างว่าตั้งแต่คสช.เข้ามายึดอำนาจได้ลดราคาน้ำมันลงไปถึงลิตรละ 10 บาทแล้ว ฟังดูเหมือนกับเป็นบุญคุณกันมหาศาล ทำนองว่า นี่เป็นเพราะพวกเขาเข้ามานะถึงได้ลดราคากันขนาดนี้ เมื่อเทียบกับรัฐบาลอื่น ทำไม่ได้หรอก อะไรประมาณนั้น แต่เดี๋ยวก่อน หากพิจารณาตามความเป็นจริง ตามกลไกตลาดที่ชอบอ้างกันนัก กลายเป็นว่ามันตรงกันข้าม นั่นคือลดราคาน้ำมันน้อยนิด เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงมาเกือบร้อยละ 60 แล้ว และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้าส่งมอบในเดือน ม.ค.58 ได้ปรับลดลงไปเกือบ 2 เหรียญต่อบาร์เรล
00 ดังนั้น เมื่อเป็นแบบนี้มันต้องลดราคาน้ำมันอยู่แล้ว ไม่ลดสิแปลก และไม่ใช่เรื่องบุญคุณอะไรเลย แต่คำถามก็คือ "ทำไมลดแค่นี้(วะ)" เพราะมันถือว่าจิ๊บจ๊อยมาก และจำเป็นต้องลดราคาลงมาหลังจากถูกสังคมรุมด่ากันรอบทิศต่างหาก อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าจับตากันต่อไปก็คือ การฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มต่างหาก โดยอ้างว่าเป็นไปตามกลไกตลาด ทั้งที่ในความเป็นจริง ราคาก๊าซต้องลดตามราคาน้ำมัน กลายเป็นคำถามว่า รัฐบาลปรับขึ้นราคาก๊าซเหมือนกับนำไปชดเชยกำไรที่ลดลงของน้ำมันหรือเปล่า และที่สำคัญก็คือ ตามข่าวจะมีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มขึ้นไปอีก กก.ละ 1.37 บาท เป็นกก.ละ 7.35 บาท ก็ต้องจับตามองว่า จะดีเดย์กันเมื่อไหร่ หลังจากที่ปล่อยให้ดีใจจากการลดราคาน้ำมัน (แบบจิ๊บจ๊อย) กันไปแล้ว
00 ย้ำอีกทีว่า จากข้อมูลของ รสนา โตสิตระกูล ที่ติดตามเรื่องพลังงานมาอย่างใกล้ชิด ยืนยันว่า หากปรับราคาขึ้นมาแบบนี้ จะทำให้พวกธุรกิจขายก๊าซฟันกำไรวันละ 94.8 ล้านบาท หรือปีละ 34,617 ล้านบาท ข้อสังเกตก็คือ นี่คือการอุ้มธุรกิจก๊าซ หลังจากไม่อาจสวนกระแสราคาน้ำมันที่ลดลงตามตลาดโลก การขึ้นราคาก๊าซคราวนี้เป็นไปตามข้อเสนอของพวกนักวิชาการ และข้าราชการในกระทรวงพลังงาน ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในธุรกิจพลังงานทั้งสิ้น ดังนั้นก็ต้องรอดูว่า "ลุงตู่" จะคืนความสุข และทุกข์ให้คนไทย ในช่วงปีใหม่กันแน่ และรอดูว่านี่คือผลงานที่จะนำมาอ้างในเรื่องความ "กล้าหาญ" ในการปรับโครงสร้างพลังงาน หรือเปล่า !!
00 มีการประชุมร่วม คสช. กับรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. เนื้อหาที่มีการแถลงบอกว่า เป็นเรื่องความร่วมมือป้องกันเหตุร้ายในช่วงปีใหม่ แต่น่าสังเกตก็คือ เป็นช่วงที่ครบรอบ 6-7 เดือน คสช. และ 3 เดือนของรัฐบาล ดังนั้นจึงเป็นจังหวะที่จะต้องมีการสรุป และประกาศผลงานให้ชาวบ้านได้รับรู้ แต่ปัญหาก็คือ มันจะมีผลงานอะไรจะประกาศให้ชาวบ้านได้ภูมิใจ เพราะยังมองไม่เห็นว่ามีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักอย่าง !!
00 ตามกำหนดการเดิมอีกไม่กี่วันจะมีการแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือนออกมาแล้ว แต่คำถามก็คือ มันจะมีอะไรให้แถลง ถ้าบอกว่าสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีกว่าเดิม ก็คงไม่มีใครเถียง แต่ภายใต้ "กฎอัยการศึก" ที่กระดิกไม่ได้ มันก็ต้องเรียบร้อยนั่นแหละ แต่ถ้าในเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง เรื่องราคาสินค้าเกษตร การส่งออก บอกได้เลยว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่มีผลงาน จะบอกว่าล้มเหลวก็เดี๋ยวจะหาว่าอคติ แต่ถ้ามองตามความเป็นจริงก็ไม่น่าผิดไปจากความจริงนัก โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ มีอะไรน่าชื่นใจได้บ้าง ยังมีอีกหลายกระทรวงที่ลืมไปแล้วว่ายังมี รมต.พวกนี้อยู่ เอากันแบบให้ฟื้นความจำก็ได้ว่า เรายังมี รมว.กระทรวงพัฒนาสังคม ที่ชื่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อยู่นะ หรือมี รมว.แรงงาน ที่ชื่อ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ แต่บางทีก็ไม่อยากปรามาสว่า ที่มาจากข้าราชการประจำ มีวิสัยทัศน์การทำงานอีกแบบ ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่หลายกระทรวงไร้ผลงาน ล่าช้า ไม่เป็นมวย ..ทุด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น