นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ว่า จากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสมหมาย ได้ออกมาให้ความหวังว่าจะนำการจัดตั้ง "กองทุนการออมแห่งชาติ" (กอช.) เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่แล้วก็ไม่สามารถทำตามสัญญา และยังได้ขยายเวลาการสมัครเข้ากองทุนประกันสังคมตาม มาตรา 40 (3) จนมีผู้สูงอายุแห่สมัครเป็นผู้ประกันตน จนเหตุวุ่นวายว่าทั้งหมดนี้สะท้อนสภาพการบริหารจัดการในเรื่องที่มีความสำคัญต่อคนไทยจำนวนมาก ที่จะเข้าสู่วัยชราโดยไม่มีหลักประกันใดๆ ในชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการพิจารณากันอย่างละเอียดแล้ว โดยที่ภาคประชาชนร่วมกับฝ่ายราชการ จากทั้งกระทรวงคลัง และกระทรวงแรงงาน และภาคการเมือง ที่เห็นตรงกันว่าเรื่องการออมและการบริหารเงินบำนาญในส่วนนี้ ควรจะดำเนินการภายใต้กระทรวงการคลัง และควรสร้างความมั่นคงให้ประชาชนด้วยการมีกองทุนที่มีกฎหมายคุ้มครองโดยตรง
นายกรณ์ กล่าวว่าวันนี้ประชาชนที่ออมอยู่ผ่าน ธ.ก.ส. ร่วมล้านคน เขายังไม่เข้าสมัครในกองทุนประกันสังคม เพราะเลือกที่จะรอการจัดตั้ง กอช. สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งเป็นเพราะกังวลว่า เงินออมของตนจะถูกโยกไปกลบภาระส่วนอื่นของกองทุนประกันสังคม เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าเงินในกองทุนหลัก ไม่เพียงพอที่จะรองรับภาระการจ่ายบำนาญของสมาชิก อีกทั้งเครือข่ายกระทรวงการคลัง สามารถเกื้อหนุนการทำงานทางด้านการระดมเงินออมได้มากกว่ากระทรวงแรงงาน และสามารถอาศัยธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. ในการดูแลสมาชิกได้โดยแทบไม่ต้องมีต้นทุนเพิ่มเติม และทั้งสองธนาคาร มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลผู้มีอาชีพอิสระอยู่แล้ว
นอกจากนี้ กอช.ยังมีโครงสร้างฝ่ายการลงทุนที่ทันสมัย และชัดเจน และที่สำคัญ มีการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำให้สมาชิกอีกด้วย ส่วนเงินสมทบนั้น ข้าราชการกระทรวงการคลังก็ได้เสนอแล้วให้มีการปรับให้เท่าหรือมากกว่าตามมาตรา 40 กองทุนประกันสังคม
"กระทรวงการคลังเป็นคนเริ่มต้นเรื่องนี้เอง โดยได้มีการสนับสนุนโดยภาคประชาชน และภาคการเมืองจนคลอดออกมาเป็นกฎหมาย ดังนั้น ท่านรัฐมนตรีอย่าได้ผลักภาระหน้าที่สำคัญนี้ไปให้ผู้อื่น ประชาชนหลายล้านคนต้องการให้ท่านรับผิดชอบเองด้วยความมั่นใจ" อดีตรมว.คลังกล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่าวันนี้ประชาชนที่ออมอยู่ผ่าน ธ.ก.ส. ร่วมล้านคน เขายังไม่เข้าสมัครในกองทุนประกันสังคม เพราะเลือกที่จะรอการจัดตั้ง กอช. สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งเป็นเพราะกังวลว่า เงินออมของตนจะถูกโยกไปกลบภาระส่วนอื่นของกองทุนประกันสังคม เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าเงินในกองทุนหลัก ไม่เพียงพอที่จะรองรับภาระการจ่ายบำนาญของสมาชิก อีกทั้งเครือข่ายกระทรวงการคลัง สามารถเกื้อหนุนการทำงานทางด้านการระดมเงินออมได้มากกว่ากระทรวงแรงงาน และสามารถอาศัยธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. ในการดูแลสมาชิกได้โดยแทบไม่ต้องมีต้นทุนเพิ่มเติม และทั้งสองธนาคาร มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลผู้มีอาชีพอิสระอยู่แล้ว
นอกจากนี้ กอช.ยังมีโครงสร้างฝ่ายการลงทุนที่ทันสมัย และชัดเจน และที่สำคัญ มีการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำให้สมาชิกอีกด้วย ส่วนเงินสมทบนั้น ข้าราชการกระทรวงการคลังก็ได้เสนอแล้วให้มีการปรับให้เท่าหรือมากกว่าตามมาตรา 40 กองทุนประกันสังคม
"กระทรวงการคลังเป็นคนเริ่มต้นเรื่องนี้เอง โดยได้มีการสนับสนุนโดยภาคประชาชน และภาคการเมืองจนคลอดออกมาเป็นกฎหมาย ดังนั้น ท่านรัฐมนตรีอย่าได้ผลักภาระหน้าที่สำคัญนี้ไปให้ผู้อื่น ประชาชนหลายล้านคนต้องการให้ท่านรับผิดชอบเองด้วยความมั่นใจ" อดีตรมว.คลังกล่าว