ผู้สูงอายุแห่สมัครผู้ประกันตน ม.40 คึกคัก สปส. เปิดโอกาสถึง 8 ธ.ค. นี้ “สุรศักดิ์” ชี้เห็นด้วยโอน ม.40 ร่วม กอช. หากให้สิทธิมากกว่าแต่ต้องถามความสมัครใจ ด้านผู้ประกันตน ค้านยุบรวมหวั่นถูกลดสิทธิประโยชน์
วันนี้( 4 ธ.ค.) ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีแนวคิดจะนำประกันสังคมมาตรา 40 เข้าไปรวมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และโอนสมาชิกที่มีอยู่กว่า 1 ล้านราย มาไว้ที่ กอช. ทั้งหมด ว่า ยังไม่ได้ศึกษาในเรื่องนี้ แต่หาก กอช. มีสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่ากองทุนประกันสังคม ก็เห็นควรว่าการนำไปรวมกันเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากทำให้ประชาชนมีสิทธิเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องหารือกันถึงรายละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งสอบถามความสมัครใจจากผู้ประกันตนก่อน
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพยื่นหนังสือถึงกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณารวม 3 กองทุนสุขภาพของภาครัฐ คือ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กองทุนประกันสังคมและสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เข้าเป็นกองทุนเดียวนั้น ตนมองว่าต้องพัฒนาทั้งสามกองทุนให้มีสิทธิประโยชน์ที่ดีขึ้นอย่างเท่าเทียมกัน
ด้านนายโกวิท สัจจวิเศษ ผู้ตรวจราชการกรมสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะโฆษก สปส. กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ข้อมูลล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2557 มีผู้ประกันตนมาสมัครเข้าระบบแล้วเป็นจำนวน 2,041,520 คน แยกเป็นทางเลือกที่ 1 จำนวน 8,087 คน ทางเลือกที่ 2 จำนวน 1,476,707 คน ทางเลือกที่ 3 จำนวน 156,483 คน ทางเลือกที่ 4 จำนวน 505 และทางเลือกที่ 5 จำนวน 399,738 คน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้สมัครเข้าร่วมอีกจำนวนประมาณ 30,000 - 40,000 คน ก่อนหมดเขตรับสมัครผู้ประกันตนที่อายุเกิน 60 ปี ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้
นายนิวัฒน์ เฉลิมสุขศรี อายุ 70 ปี หนึ่งในผู้ที่มาสมัครเข้าระบบประกันสังคมมาตรา 40 กล่าวว่า ตนรู้ข่าวจากเพื่อน โดยเห็นว่าเป็นสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ จ่ายเงินสมทบ 100 บาท และรัฐบาลจ่ายสมทบให้อีก 100 บาท ซึ่งตนตั้งใจจะออมเงินไว้เป็นค่าประกอบพิธีศพของตนเองเพื่อไม่ให้ต้องเดือดร้อนเงินของลูกหลาน ปัจจุบันนี้ตนมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท และเงินจากลูกไว้ใช้จ่าย โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวตกเดือนละประมาณ 3,000 บาท ส่วนกรณีที่มีแนวคิดนำมาตรา 40 ไปรวมกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) นั้นตนไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าสิทธิประโยชน์ที่ได้จะลดลง ตนมองว่าจะได้เงินออมจำนวนน้อยกว่ามาตรา 40
ด้าน นางพุฒทรา ชื่นชอบ อายุ 68 ปี อดีตลูกจ้างประจำสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ตนมาสมัครเพราะเพื่อนชักชวนมา โดยบอกว่าได้สิทธิที่ดีและสามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ นอกจากนี้ ยังมองว่าไม่ต้องออมเงินเป็นเวลานาน อยากจะยกเลิกเมื่อใดก็ได้ ส่วนการยุบรวมกองทุนเข้ากับ กอช. นั้น ไม่เห็นด้วย อยากให้คงไว้ตามเดิมเนื่องจากกลัวว่าสิทธิประโยชน์จะลดลง ทั้งนี้อยากให้ตั้ง กอช. เป็นหน่วยงานใหม่และเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจต่างหาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 3 ชั้น 6 อาคารสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนเดินทางมาสอบถามรายละเอียดและสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และยังไม่เข้าใจเงื่อนไขในการสมัครและสอบถามเป็นจำนวนมากเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีประกาศรายละเอียด ให้รับทราบพร้อมกัน
ทั้งนี้ ผู้ที่อายุเกิน 65 ปี ขึ้นไปจะสามารถสมัครได้แค่ทางเลือกที่ 3 เท่านั้น จาก 5 ทางเลือก ได้แก่ 1. จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน (จ่ายเอง 70 บาท รัฐสมทบ 30 บาท) คุ้มครอง กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ เสียชีวิต 2. จ่ายเงินสมทบ 150 บาท/เดือน (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสมทบ 50 บาท) คุ้มครอง กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ เสียชีวิต กรณีชราภาพ 3. จ่ายเงินสมทบ 200 บาท/เดือน (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสมทบ 100 บาท) คุ้มครองกรณีชราภาพ 4. ทางเลือกที่ 1 และทางเลือก 3 จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน (จ่ายเอง 170 บาท รัฐสนับสนุน 130 บาท) คุ้มครองกรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ เสียชีวิต กรณีชราภาพ และ 5.ทางเลือกที่ 2 และทางเลือก 3 จ่ายเงินสมทบ 350 บาท/เดือน (จ่ายเอง 200 บาท รัฐสนับสนุน 150 บาท ) คุ้มครองกรณี ประสบอันตราย/เจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ เสียชีวิต กรณีชราภาพ ซึ่งกรณีชราภาพจะได้รับเงินบำนาญก็ต่อเมื่อส่งเงินสมทบเกิน 420 เดือน หรือ 35 ปี หากส่งไม่ถึงตามที่กำหนดก็จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ
สำหรับผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และได้รับเงินบำเหน็จแล้ว และผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 และหยุดส่งเงินสมทบสามารถสมัครเข้ามาตรา 40 ได้ แต่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ยังได้รับเงินบำนาญอยู่นั้นจะไม่สามารถสมัครเข้าร่วมมาตรา 40 ได้ นอกจากนี้ หากสมัครภายในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ ยังสามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ถึงเดือนพฤษภาคม 2555 หรือประมาณ 32 เดือน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่