ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ถือหุ้น NUSA ไฟเขียวเพิ่มทุน 7,972,205,496 บาท เสนอขาย PP 5,000 ล้านหุ้น ราคา 1.30 บาท ระดมทุนขยายโครงการใหม่ ซื้อที่ทำเลทอง และหมุนเวียนในธุรกิจ ส่วนอีก 359,855,731 หุ้น รองรับใช้สิทธิ NUSA-W2 และ NUSA-WA จำนวน 2,500 ล้านหุ้น และ รองรับปรับสิทธิ์ NUSA-W1 จำนวน 112,349,765 หุ้น
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) (NUSA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/57 มีมติอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 7,972,205,496 บาท จากทุนจดทะเบียนหลังลดทุนจำนวน 4,318,268,773 บาท เป็น 12,209,474,296 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 12,209,474,296 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้หุ้นสามัญเพิ่มทุน 7,972,205,496 หุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,000 ล้านหุ้น เสนอขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) ในราคา 1.30 บาท/หุ้น ที่เหลือจัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม NUSA-W2 จำนวน 359,855,731 หุ้น ในอัตราส่วน 12 หุ้นเดิม / 1 หน่วย
โดยกรรมการจะพิจารณากำหนดวันใช้สิทธิ Warrant เร็วๆ นี้ ก่อนที่จะออก PP ส่วน NUSA-WA จำนวน 2,500 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัดที่ได้รับการจัดสรรหุ้นใหม่ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/57 ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม / 1 หน่วย และจัดสรรเพื่อรองรับการปรับสิทธิ NUSA-W1 จำนวน 112,349,765 หุ้น โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้ไปเพื่อใช้รองรับในกรณีที่ต้องการสภาพคล่องเพื่อขยายการลงทุน ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบัน หรือ ลงทุนในโครงการใหม่ โดยเฉพาะการซื้อที่ดินที่มีทำเลดี และเป็นเงินลงทุน หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัทในเครือ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริฯระบุว่า หลังการเพิ่มทุนแล้ว บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหญ่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำแผน ซึ่งมีความคืบหน้าแล้วกว่า 60% หลังจากนั้นมองว่าจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในช่วง 4 ปีข้างหน้า ปัจจุบันณุศาศิริ ยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 4,000 ล้านบาท จาก 8 โครงการ ซึ่งจะทยอยโอนรับรู้รายได้ในปี 57 ต่อเนื่องจนถึงปี58 และช่วงที่เหลือของปีมีแผนเปิดอีก 2 โครงการ
“บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 2,000 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมามีรายได้แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่ารายได้จะเติบโตเป็นเท่าตัว เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ที่ได้เปิดไปและในช่วงที่เหลือของปียังเตรียมเปิดอีก 2 โครงการ ส่วนปีหน้าเปิดอีก 3-4 โครงการ แถมยังโปรเจกต์พิเศษเข้ามาอีกด้วย ซึ่งจะเป็นส่งผลให้รายได้ที่ตั้งไว้เป็นไปตามแผนที่วางไว้” นางศิริญา กล่าว
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) (NUSA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/57 มีมติอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 7,972,205,496 บาท จากทุนจดทะเบียนหลังลดทุนจำนวน 4,318,268,773 บาท เป็น 12,209,474,296 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 12,209,474,296 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้หุ้นสามัญเพิ่มทุน 7,972,205,496 หุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,000 ล้านหุ้น เสนอขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) ในราคา 1.30 บาท/หุ้น ที่เหลือจัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม NUSA-W2 จำนวน 359,855,731 หุ้น ในอัตราส่วน 12 หุ้นเดิม / 1 หน่วย
โดยกรรมการจะพิจารณากำหนดวันใช้สิทธิ Warrant เร็วๆ นี้ ก่อนที่จะออก PP ส่วน NUSA-WA จำนวน 2,500 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัดที่ได้รับการจัดสรรหุ้นใหม่ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/57 ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม / 1 หน่วย และจัดสรรเพื่อรองรับการปรับสิทธิ NUSA-W1 จำนวน 112,349,765 หุ้น โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้ไปเพื่อใช้รองรับในกรณีที่ต้องการสภาพคล่องเพื่อขยายการลงทุน ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบัน หรือ ลงทุนในโครงการใหม่ โดยเฉพาะการซื้อที่ดินที่มีทำเลดี และเป็นเงินลงทุน หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัทในเครือ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริฯระบุว่า หลังการเพิ่มทุนแล้ว บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหญ่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำแผน ซึ่งมีความคืบหน้าแล้วกว่า 60% หลังจากนั้นมองว่าจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในช่วง 4 ปีข้างหน้า ปัจจุบันณุศาศิริ ยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 4,000 ล้านบาท จาก 8 โครงการ ซึ่งจะทยอยโอนรับรู้รายได้ในปี 57 ต่อเนื่องจนถึงปี58 และช่วงที่เหลือของปีมีแผนเปิดอีก 2 โครงการ
“บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 2,000 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมามีรายได้แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่ารายได้จะเติบโตเป็นเท่าตัว เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ที่ได้เปิดไปและในช่วงที่เหลือของปียังเตรียมเปิดอีก 2 โครงการ ส่วนปีหน้าเปิดอีก 3-4 โครงการ แถมยังโปรเจกต์พิเศษเข้ามาอีกด้วย ซึ่งจะเป็นส่งผลให้รายได้ที่ตั้งไว้เป็นไปตามแผนที่วางไว้” นางศิริญา กล่าว
