xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เฒ่าจิ๋วสอนน้อง...

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

อืมม์...พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ บุรุษผู้มากฉายาและบทบาทได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในบ้านเมืองมากยากที่จะหาใครทาบได้ ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำรัฐบาลทำให้สูญเงินกองทุนสำรองระหว่างประเทศจาก 3 หมื่นกว่าล้านดอลลาร์เหลือ 800 ล้านเหรียญ

ทอดสายตาไปทั้งแผ่นดิน ยังไม่เคยมีนายทหารหรือคนธรรมดาหน้าไหนได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีมหาดไทย รองนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง มีบทบาทในโครงการใหญ่ๆ หลากหลาย เช่นโครงการอีสานเขียว ฮารับปันบารู แนวคิดสภาเปรซิเดียม นโยบายปรองดอง 66/23

ถูกยกย่องว่าเป็นนายทหารมีมันสมองเฉียบแหลมดุจดังขงเบ้ง แต่ก็ถูกล้อเลียนว่ามีปัญหาเรื่องเอ๋อ พูดจาไม่รู้เรื่องจนถูกสงสัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ พูดจาวกวนซ้ำซากเรื่องคำมั่นว่าจะไปกระโดดแม่น้ำโขงถ้าแก้ไขปัญหาความยากจนในภาคอีสานไม่สำเร็จ

ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม พ่อเฒ่าจิ๋วได้รับการยอมรับว่าเป็น “จิ๋วหวานเจี๊ยบ” นอกจากไม่เคยฟ้องร้องผู้สื่อข่าว โกรธใครไม่เป็นแล้วยังชอบตามใจใครก็ตามที่ไปขอความช่วยเหลือ มีเสียงแซวว่าถ้าจะให้มั่นใจต้องอยู่จนกว่าพ่อเฒ่าลงนามให้เรียบร้อย

พ่อเฒ่าจิ๋วหายเงียบ ลดบทบาทไปนานหลังจากล้มเหลวในการเป็นรองนายกฯ รัฐบาลชายจืด บุรุษผู้ชมชอบม่านพลาสติกและตู้เย็น ถูกกล่าวว่ามือเปื้อนเลือดเมื่อสั่งตำรวจให้ลุยกลุ่มผู้ประท้วงหน้ารัฐสภา ผู้เฒ่ายังได้ลาบวชหวังล้างชำระบาปเคราะห์

มาบัดนี้ผู้เฒ่าจิ๋วรับบท “พี่จิ๋วสอนน้อง” ทั้งยังเตือนว่าให้ระวังรัฐประหารซ้อน!

เมื่อได้อ่านคำให้สัมภาษณ์ของท่านผู้เฒ่าวัย 83 ปีแล้ว ยอมรับว่าเป็นคำพูดมีเรื่องราวสาระ ไร้ข้อสงสัยว่ามีปัญหาโรคเอ๋อหรืออัลไซเมอร์ ผู้เฒ่าจำเหตุการณ์บ้านเมือง ปัญหาต่างๆ ได้แม่นยำแล้ว ยังให้ข้อคิดคำเตือนสำหรับผู้นำรัฐบาลแบบเข้าท่ามาก

ตัวตนแท้จริงของผู้เฒ่าจิ๋วเหมาะสมอย่างยิ่งในการรับบทที่ปรึกษา ทำให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประสบความสำเร็จในนโยบาย 66/23 หยุดการสู้รบกับกองโจรคอมมิวนิสต์เป็นการปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง เมื่อพ่อเฒ่าจิ๋วเป็นนายกฯ เสียเอง ไม่มีบุคคลแบบพ่อเฒ่าจิ๋วเป็นที่ปรึกษา จึงตัดสินใจในเรื่องต่างๆ บนความโลเลทำให้ล้มเหลวน่าอนาถ

ตัวตนพ่อเฒ่าจิ๋วมักมีมธุรสวาจา แต่ออกมาคราวนี้น่าจะพูดตามสัญชาตญาณดั้งเดิม โดยบอกว่าขอเตือนในฐานะ “รุ่นพี่” ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ว่าอาจนำความแตกแยกในสังคมไทยมากกว่าทุกครั้ง และหากนายกรัฐมนตรีอยากให้เกิดระบอบประชาธิปไตย ก็ควรลาออกจากตำแหน่งวันนี้

แถมยังบอกว่าให้พล.อ.ประยุทธ์ต้องใช้เสียงเพราะๆ พูดให้คนจนฟังพยายามให้เห็นใจกองทัพ อยากแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเดินไปได้อย่าไปโวยวาย ด่าว่า แต่ควรยิ้มๆ หน่อย ลดดีกรีลงบ้าง...

พ่อเฒ่าจิ๋ว บอกอีกว่า ขอเตือนตรงๆ ในปีหน้า รัฐบาล คสช.จะต้องเผชิญปัญหาภาระหนักๆ หลายเรื่องทั้งวิฤกตเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกมากระทบภายในประเทศ และปัญหาการเมืองมาซ้ำเติม ส่อเค้าวุ่นวายจากรัฐธรรมนูญใหม่

“...ระวังเกิดปฏิวัติซ้ำ กลายเป็นตอนยึดอำนาจได้ดอกกุหลาบ แต่ตอนไปจะได้ก้อนอิฐ เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานของประเทศ แต่ไปมุ่งอยู่กับการปฏิรูปการร่างรัฐธรรมนูญ ที่มุ่งประโยชน์ให้อยู่กับชนชั้นปกครองมากกว่า”

ท่านผู้เฒ่าจิ๋วยังกล้าเตือนอีกว่า “อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ฟังให้มาก เพราะขณะนี้ก็คงนอนไม่หลับ จากปัญหาทำงานยากขึ้น เพราะนายกฯ เองก็สร้างบรรยากาศตึงเครียดกันทั้งประเทศ ทั้งปัญหาการเมืองที่เริ่มวุ่นวายจากคณะร่างรัฐธรรมนูญ”

คำเตือนของผู้เฒ่าจิ๋วเหมือนนั่งหลับตาเห็นว่าผู้นำรัฐบาลมีปัญหาหนักอกจนนอนไม่หลับ ที่ผ่านมายังไม่มีนายทหารรุ่นพี่คนไหนกล้าออกมาเตือนนายกฯ ประยุทธ์ว่ากันตรงๆ ซึ่งหน้าแบบเผาขนโดนใจเช่นนี้ แสดงว่าปัญหาที่เป็นอยู่หนักหนาสาหัสจริง

เพียงแต่ว่าท่านผู้นำไม่ยอมรับตรงๆ ถูกมองว่าทำตัวเป็นผู้รู้ทุกเรื่อง ในใจตัวเองรู้ดีว่ายังหาทางออกไม่ได้สำหรับปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ยอบรับว่าการรัฐประหารครั้งนี้ได้มุ่งเน้นการปรองดองเป็นหน้าฉากการนิรโทษกรรมแบบหักดิบทั้งๆ ที่ได้เคยก่อวิกฤต

น่าสนใจว่าคำเตือนของผู้เฒ่าจิ๋วจะได้รับปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร ถ้าจะให้คาดเดาคงไม่มีเสียงคำรามสวนกลับ อาจกลืนน้ำลายปนเลือดผ่อนปรนยอมตามใจประสาพี่ๆ น้องๆ ในวงการสีเขียวเป็นธรรมเนียม “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” นั่นแล

ทุกวันนี้ยังมีคำถามถึงท่านผู้นำว่าได้มองและกำหนดบทบาทของตัวเองอย่างไรแน่...เป็นผู้บริหารบ้านเมือง หรือเป็นผู้ปกครอง เพื่อที่ประชาชนจะได้รับรู้สถานภาพและปฏิบัติตัวเองตามนั้น เพราะประชาชนทุกคนมีสิทธิห่วงใยอนาคตบ้านเมืองเช่นกัน

ท่านผู้นำมิได้มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน แต่เป็นผู้ประกาศกฎอัยการศึกและผู้กระทำรัฐประหารล้มซากของรัฐบาลแม่นางปู โดยอ้างว่าต้องการห้ามไม่ให้ประชาชนทะเลาะกันจนลุกลามเป็นการฆ่ากันนองเลือดเป็นสงครามกลางเมือง

อันที่จริง ประชาชนหลายล้านคนรวมตัวชุมนุมยาวนานกว่า 7 เดือนเพื่อขับไล่กลุ่มนักการเมืองบริหารงานผิดพลาด คดโกง กอบโกยผลประโยชน์ ไม่ได้มุ่งทะเลาะกับใคร ท่านผู้นำก็ได้นำกองทัพทำรัฐประหารขับไล่นักการเมืองกลุ่มที่ว่านั้นด้วยเช่นกัน

ทำไมมาบอกประชาชนคนดีว่าอย่าสร้างปัญหา ให้ปรองดองกับนักการเมืองชั่ว
กำลังโหลดความคิดเห็น