ประจวบคีรีขันธ์-ศาลประจวบคีรีขันธ์พิพากษาคดีพ่อ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ร้องขอจัดการมรดก 200 ล้านบาท โดยมีคำสั่งให้ "พ่อเอ็กซ์" กับ "หมอนิ่ม" ร่วมเป็นผู้จัดการมรดก ขณะที่พ่อเอ็กซ์สู้ต่อ มอบอำนาจทนายความยื่นอุทธรณ์
เมื่อเช้าวานนี้ (3 ธ.ค.) นายอนิรุจ ใจเที่ยง ผู้พิพากษารองหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ออกนั่งพิจารณาคดีเลขดำที่ พ 597/56 ที่บัลลังก์ 6 เพื่ออ่านคำพิพากษาคดีร้องขอจัดการมรดกของนายมานพ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 67 ปี บิดาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ บุตรชาย อดีตนักแม่นปืนทีมชาติไทยที่ถูกลอบยิงเสียชีวิต โดยนายมานพ ได้ยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอเป็นผู้จัดการทรัพย์สินมรดกทั้งหมดของเอ็กซ์ ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่ง พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม อดีตภรรยาของเอ็กซ์ มอบอำนาจให้ทนายความเป็นผู้ยื่นคัดค้าน โดยนายมานพ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทนายความ 2 คน แต่ทางฝ่าย พญ.นิธิวดี ไม่ได้เดินทางมา
ผู้พิพากษาใช้เวลาอ่านคำตัดสินประมาณ 20 นาที โดยพิจารณาให้ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน เนื่องจากให้เหตุผลว่าผู้ร้องเป็นบิดาโดยธรรม ส่วน พญ.นิธิวดี เป็นมารดาของบุตร 2 คน ซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของนายจักรกฤษณ์ โดยก่อนเสียชีวิตได้ให้การรับรองบุตร นอกจากนั้น ทรัพย์สินทั้งหมดของทั้ง 2 ฝ่ายหามาได้ร่วมกัน ขณะที่นายจักรกฤษณ์ ยังมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้ ภายหลังฟังคำพิพากษา นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กล่าวว่า ศาลมีคำสั่งให้ตนและ พญ.นิธิวดี เป็นผู้จัดการมรกดร่วมกัน แต่ตนเห็นว่า พญ.นิธิวดี ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งก็คงต้องมอบอำนาจให้ทางทนายความดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อ เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีการแย้งไปแล้วว่า พญ.นิธิวดี มีส่วนจ้างวานฆ่าลูกชายของตน ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิพากษาของศาลจังหวัดมีนบุรี และศาลเห็นว่าคดีดังกล่าวยังไม่มีการชี้มูลความผิด จึงยังถือว่า พญ.นิธิวดี เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
"ก็คงต้องสู้ต่อ โดยจะมอบให้ทนายความไปดำเนินการยื่นอุทธรณ์ ผมเป็นบิดาของเอ็กซ์ ไม่ต้องการทรัพย์สินของบุตรชาย และไม่ได้เอามรดกไปไหน แต่ที่ต้องออกมาต่อสู้ให้ถึงที่สุด ก็เพื่อที่จะมอบทรัพย์สินให้กับหลานทั้ง 2 คน แม้ว่าขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมจะต้องใช้เวลานานอีกหลายปีก็ตาม" บิดาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กล่าว
ด้านทนายความของนายมานพ กล่าวว่า เรื่องการขอจัดการมรดก ก็คงต้องต่อสู่กันต่อไปอีกในชั้นอุทธรณ์และฏีกา ส่วนเรื่องดคีที่หมอนิ่มไปเปิดตู้เซพของนายจักรกษณ์ และเอาทรัพย์สินออกไปนั้น ความคืบหน้าทางดคี ขณะนี้คดียังอยู่ที่ สน.บางชัน ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ซึ่งการทำงานของตำรวจถือว่าล่าช้ามาก
เมื่อเช้าวานนี้ (3 ธ.ค.) นายอนิรุจ ใจเที่ยง ผู้พิพากษารองหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ออกนั่งพิจารณาคดีเลขดำที่ พ 597/56 ที่บัลลังก์ 6 เพื่ออ่านคำพิพากษาคดีร้องขอจัดการมรดกของนายมานพ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 67 ปี บิดาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ บุตรชาย อดีตนักแม่นปืนทีมชาติไทยที่ถูกลอบยิงเสียชีวิต โดยนายมานพ ได้ยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอเป็นผู้จัดการทรัพย์สินมรดกทั้งหมดของเอ็กซ์ ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่ง พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม อดีตภรรยาของเอ็กซ์ มอบอำนาจให้ทนายความเป็นผู้ยื่นคัดค้าน โดยนายมานพ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทนายความ 2 คน แต่ทางฝ่าย พญ.นิธิวดี ไม่ได้เดินทางมา
ผู้พิพากษาใช้เวลาอ่านคำตัดสินประมาณ 20 นาที โดยพิจารณาให้ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน เนื่องจากให้เหตุผลว่าผู้ร้องเป็นบิดาโดยธรรม ส่วน พญ.นิธิวดี เป็นมารดาของบุตร 2 คน ซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของนายจักรกฤษณ์ โดยก่อนเสียชีวิตได้ให้การรับรองบุตร นอกจากนั้น ทรัพย์สินทั้งหมดของทั้ง 2 ฝ่ายหามาได้ร่วมกัน ขณะที่นายจักรกฤษณ์ ยังมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้ ภายหลังฟังคำพิพากษา นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กล่าวว่า ศาลมีคำสั่งให้ตนและ พญ.นิธิวดี เป็นผู้จัดการมรกดร่วมกัน แต่ตนเห็นว่า พญ.นิธิวดี ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งก็คงต้องมอบอำนาจให้ทางทนายความดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อ เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีการแย้งไปแล้วว่า พญ.นิธิวดี มีส่วนจ้างวานฆ่าลูกชายของตน ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิพากษาของศาลจังหวัดมีนบุรี และศาลเห็นว่าคดีดังกล่าวยังไม่มีการชี้มูลความผิด จึงยังถือว่า พญ.นิธิวดี เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
"ก็คงต้องสู้ต่อ โดยจะมอบให้ทนายความไปดำเนินการยื่นอุทธรณ์ ผมเป็นบิดาของเอ็กซ์ ไม่ต้องการทรัพย์สินของบุตรชาย และไม่ได้เอามรดกไปไหน แต่ที่ต้องออกมาต่อสู้ให้ถึงที่สุด ก็เพื่อที่จะมอบทรัพย์สินให้กับหลานทั้ง 2 คน แม้ว่าขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมจะต้องใช้เวลานานอีกหลายปีก็ตาม" บิดาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กล่าว
ด้านทนายความของนายมานพ กล่าวว่า เรื่องการขอจัดการมรดก ก็คงต้องต่อสู่กันต่อไปอีกในชั้นอุทธรณ์และฏีกา ส่วนเรื่องดคีที่หมอนิ่มไปเปิดตู้เซพของนายจักรกษณ์ และเอาทรัพย์สินออกไปนั้น ความคืบหน้าทางดคี ขณะนี้คดียังอยู่ที่ สน.บางชัน ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ซึ่งการทำงานของตำรวจถือว่าล่าช้ามาก