“ในหลวง - พระราชินี” เสด็จฯออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 5 ธ.ค. พร้อม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระบรมวงศานุวงศ์
พระราชกิจ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2557 วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2557 เสด็จฯออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เวลาเช้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี
จากนั้นเวลา 10.30 น. รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่พระทวารเทเวศรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ เข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงยืนเฝ้าฯใกล้มุมเสาด้านซ้ายพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯขึ้นแท่นประทับบนพระที่นั่งพุดจานกาญจนสิงหาสน์ หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร (พร้อมแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด)
เมื่อสิ้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯออกยังหน้าพระแท่นนพปฎล มหาเศวตฉัตร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ (ต่อจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายพรเพรช วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลตามลำดับ)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัส จบ (เจ้าพนักงานรัวกรับ และปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติถวายเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี)
เสด็จฯลงจากพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ออกจากพระที่อมรินทรวินิจฉัย
เสด็จฯ ประทับรถยนตร์พระที่นั่งที่พระทวารเทเวศรักษา พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จพระราชดำเนินกลับ
***ผบ.ส.ส.นำทหารรักษาพระองค์13 กองพันถวายสัตย์ฯ
วานนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 15.00 น. ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ได้มีการจัดพิธีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 ของทหารรักษาพระองค์ ประกอบด้วย บก.กองผสม , 4 บก.กรมสวนสนาม,12 กองพันสวนสนาม และ 1 กองพันทหารม้ารักษาพระองค์ รวม 13 กองพัน (กำลังพลทั้งสิ้น 2,197 นาย และ 90 ม้า) โดยขั้นตอนการปฏิบัติคงจัดกำลังเหมือนเช่นพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เพียงแต่ปีนี้จะเป็นการกล่าวนำสดุดีและถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯแทน โดยมีการการจัดตั้งเวทีขนานกับถนน มีพระบรมมหาราชวังเป็นฉากหลัง
ผบ.สส.ได้กล่าวนำถวายคำสัตย์ปฏิญาณ ว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจักยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจนชีวิตหาไม่
ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศเกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจักปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ” กล่าวจบ ทหารรักษาพระองค์ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ทำการปล่อยลูกโป่ง แพรถวายพระพร และปืนใหญ่ยิงสลุต จำนวน21 นัด
***คณะสงฆ์หนกลางสวดมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ถวายในหลวง
วานนี้ (2 )14.00 น.. ที่วัดพิชยญาติการาม คณะสงฆ์หนกลาง พร้อมด้วยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 โดยมีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายพนม ศรศิลป์ ผอ.พศ. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทั้งนี้มีพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
นายพนม กล่าวว่า คณะสงฆ์หนกลางกว่า 500 รูป จาก 23 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม เป็นต้น พร้อมพุทธศาสนิชน ได้มาร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ เฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตามในวันที่ 3 ธ.ค. คณะสงฆ์หนใต้ ได้กำหนดจัดพิธีดังกล่าว ที่วัดกะพังสุรินทร์ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง สำหรับวันที่ 4 ธ.ค.เวลา 16.00 น. พศ.ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วด้วย
พระราชกิจ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2557 วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2557 เสด็จฯออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เวลาเช้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี
จากนั้นเวลา 10.30 น. รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่พระทวารเทเวศรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ เข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงยืนเฝ้าฯใกล้มุมเสาด้านซ้ายพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯขึ้นแท่นประทับบนพระที่นั่งพุดจานกาญจนสิงหาสน์ หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร (พร้อมแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด)
เมื่อสิ้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯออกยังหน้าพระแท่นนพปฎล มหาเศวตฉัตร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ (ต่อจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายพรเพรช วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลตามลำดับ)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัส จบ (เจ้าพนักงานรัวกรับ และปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติถวายเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี)
เสด็จฯลงจากพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ออกจากพระที่อมรินทรวินิจฉัย
เสด็จฯ ประทับรถยนตร์พระที่นั่งที่พระทวารเทเวศรักษา พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จพระราชดำเนินกลับ
***ผบ.ส.ส.นำทหารรักษาพระองค์13 กองพันถวายสัตย์ฯ
วานนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 15.00 น. ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ได้มีการจัดพิธีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 ของทหารรักษาพระองค์ ประกอบด้วย บก.กองผสม , 4 บก.กรมสวนสนาม,12 กองพันสวนสนาม และ 1 กองพันทหารม้ารักษาพระองค์ รวม 13 กองพัน (กำลังพลทั้งสิ้น 2,197 นาย และ 90 ม้า) โดยขั้นตอนการปฏิบัติคงจัดกำลังเหมือนเช่นพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เพียงแต่ปีนี้จะเป็นการกล่าวนำสดุดีและถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯแทน โดยมีการการจัดตั้งเวทีขนานกับถนน มีพระบรมมหาราชวังเป็นฉากหลัง
ผบ.สส.ได้กล่าวนำถวายคำสัตย์ปฏิญาณ ว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจักยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจนชีวิตหาไม่
ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศเกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจักปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ” กล่าวจบ ทหารรักษาพระองค์ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ทำการปล่อยลูกโป่ง แพรถวายพระพร และปืนใหญ่ยิงสลุต จำนวน21 นัด
***คณะสงฆ์หนกลางสวดมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ถวายในหลวง
วานนี้ (2 )14.00 น.. ที่วัดพิชยญาติการาม คณะสงฆ์หนกลาง พร้อมด้วยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 โดยมีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายพนม ศรศิลป์ ผอ.พศ. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทั้งนี้มีพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
นายพนม กล่าวว่า คณะสงฆ์หนกลางกว่า 500 รูป จาก 23 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม เป็นต้น พร้อมพุทธศาสนิชน ได้มาร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ เฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตามในวันที่ 3 ธ.ค. คณะสงฆ์หนใต้ ได้กำหนดจัดพิธีดังกล่าว ที่วัดกะพังสุรินทร์ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง สำหรับวันที่ 4 ธ.ค.เวลา 16.00 น. พศ.ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วด้วย