xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.สส.นำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ สวนสนามเฉลิมพระเกียรติฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทหารรักษาพระองค์ 13 กองพัน ถวายสัตย์ฯ ต่อพระบรมฉายาลักษณ์ “ในหลวง” พร้อมยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์ “ผบ.สส.” กล่าวสดุดี 6 ทศวรรษแห่งการขึ้นครองราชย์เพื่อพสกนิกร

วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ได้มีการจัดพิธีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา ของทหารรักษาพระองค์ ประกอบด้วย บก.กองผสม, 4 บก.กรมสวนสนาม, 12 กองพันสวนสนาม และ 1 กองพันทหารม้ารักษาพระองค์ รวม 13 กองพัน (กำลังพลทั้งสิ้น 2,197 นาย และ 90 ม้า) โดยขั้นตอนการปฏิบัติคงจัดกำลังเหมือนเช่นพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เพียงแต่ปีนี้จะเป็นการกล่าวนำสดุดี และถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แทน โดยมีการจัดตั้งเวทีขนานกับถนน มีพระบรมมหาราชวังเป็นฉากหลัง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกำลังทหารทั้งหมดรวมพลขั้นต้นจากบริเวณแยกหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เพื่อเดินสวนสนามเข้าประจำที่บริเวณท้องสนามหลวง โดยในระหว่างการเดินสวนสนาม ได้ปฏิบัติท่าเคารพ “แลซ้าย” ขณะผ่านพระที่นั่งไชยชุมพล ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จฯประทับเพื่อใช้ทอดพระเนตรตรวจตราการฝึกทหาร จากนั้นเป็นการกระทำพิธีเชิญธงชัยเฉลิมพล จำนวน 12 หมู่ธง (เว้นกองพันทหารม้ารักษาพระองค์) เข้าประจำแท่นบนเวที พร้อมเข้าสู่พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน ของผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ผู้บังคับหน่วยทหารรักษาพระองค์ นำโดย พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดตั้งแถวหันหน้าเข้าหาพระบรมมหาราชวัง

จากนั้น ผบ.สส. ขึ้นบนเวทีถวายพานพุ่มต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกราบบังคมทูลพระกรุณากล่าวถวายราชสดุดี ว่า ตลอดระยะเวลากว่า 6 ทศวรรษ นับตั้งแต่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงอุทิศเวลากำลังพระวรกายกำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความผาสุกร่มเย็นของอาณาประชาราษฎร์ และเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติตลอดมา ได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการ ที่ได้นำพสกนิการไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและยังความผาสุกมาสู่พสกนิการทุกหมู่เหล่า ทรงครองสิริราชสมบัติด้วยทศพิธราชธรรมเปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถพระอัจฉริยภาพและพระวิสัยทัศน์ส่งผลให้ชาติบ้านเมือเจริญรุ่งเรือง และพสกนิกรมีความผาสุกร่มเย็นภายใต้ร่มพระบารมี แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง

“ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียน และพระราชทานความช่วยเหลือแก่พสกนิกรชาวไทยจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะในท้องถิ่นห่างไกลและทุรกันดาร ทรงตรากตรำพระวรกายมาตลอดโดยมิทรงแสดงให้เห็นว่าเหนื่อยแต่ประการใด ทั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทย ให้ดีขึ้นภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะบำบัดทุกข์บำรุงสุขอาณาประชาราษฎร์ด้วยพระปรีชาสามารถ และพระราชจริยวัตรที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาสุดที่จะพรรณนาดุจดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจนับเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้ง และแซ่ซ้องสรรเสริญในหมู่ชาวไทย และนานาประเทศอย่างกว้างขวาง เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระบรมวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ตลอดจนพระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์โปรดอภิบาลรักษา ให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน พระบารมีแผ่ไพศาลทั่วทิศานุทิศสถิตเป็นฉัตรแก้วร่มเกล้า แก่เหล่าปวงข้าพระพุทธเจ้าและพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนาน”

จากนั้น ผบ.สส. ได้กล่าวนำถวายคำสัตย์ปฏิญาณ ว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจักยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจนชีวิตหาไม่

ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศเกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจักปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ” กล่าวจบ ทหารรักษาพระองค์ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ทำการปล่อยลูกโป่ง แพรถวายพระพร และปืนใหญ่ยิงสลุต จำนวน 21 นัด










































กำลังโหลดความคิดเห็น