ASTVผู้จัดการรายวัน - “อัลไบร์ท” ยังไม่เร่งเปิดโครงการใหม่ แม้มีที่ดินพร้อมรองรับการพัฒนาหลายแปลง เหตุรอตลาด -เศรษกิจฟื้นตัวเต็มที่ หลังการปฏิรูปการเมืองเสร็จสิ้น ห่วงคอนโดตลาดล่างซับพลายยังสูง แม้ยอดขายกระฉูด แต่ไม่สะท้อนภาพตลาดชัดเจน ระบุยอดโอนตัววัดแท้จริง ส่วนตลาดบน30,000-400,000บาทต่อตร.ม.ลูกค้ายังชะลอใช้เงิน ส่งผลให้ตลาดยังน่าห่วง เผยพฤติกรรมลูกค้าพรีเมียมต้องการความมั่นใจ เน้นเลือกซื้อโครงการก่อสร้างเสร็จก่อนขาย แจงยอดขาย ไบร์ท วงเวียนใหญ่ 15% เชื่องานก่อสร้างถึงชั้น10 ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น คาดปลายปี58ยอดขาย90%
นายสมชัย อำนวยพรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลไบร์ท โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “ไบร์ท วงเวียนใหญ่” คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในย่านวงเวียนใหญ่ถือว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะห้องชุดระดับล่าง ซึ่งถือว่ามีซับพลายค่อนข้างหน้าแน่น เพราะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามแม่จะมีซับพลายมากแต่ยอดขายในพื้นที่ถือว่าไปได้ดี สังเกตได้จากยอดขายของโครงการที่มาเปิดในพื้นที่ซึ่งมีนยอดขายค่อนข้างดี
ส่วนภาพรวมตลาดคอนโดในปีนี้ ถือว่าทรงตัวจากปีก่อน แต่กลุ่มตลาดระดับล่างถือว่าเป็นตลาดที่ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีซับพลายอยู่เป็นจำนวนมาก แม้จะมีการระบายออกไปเยอะ จากข่าวที่ออกมาว่าหลายๆค่ายที่เปิดตัวโครงการใหม่ออกมาในระยะเวลาไม่นานก็สามารถปิดขายได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว หรือบางโครงการมียอดจองซื้อเกือบหมดในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่าภาพการขายที่รวดเร็วในขณะนี้ยังสะท้อนภาพตลาดไม่ชัดเจนนัก แต่ความชัดเจนที่สะท้อนตลาดได้เป็นอย่างดีคือตัวเลขในการโอน เนื่องจากยังมีความว่าจะมีปัญหาเรื่องการเก็งกำไรอยู่
“นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดระดับบนที่มีราคาขายตั้งแต่ 300,000-400,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) เป็นอีกกลุ่มที่ยังน่าเป็นห่วง เพราะ หากมองจากยอดขายโครงการต่างๆ เทียบกับการใช้เงินของลูกค้าที่ยังชะลอตัวอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีเงิน และกำลังมีกำลังซื้อสูงจริงๆ ถือว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีการนำเงินออกมาใช้จ่ายไม่มาก หรือไม่กล้าใช้เงินมากนัก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังไม่ดีมาก เพราะการเมืองยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด เพราะการปฏิรูปทางการเมืองยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมด”
จากภาพรวมดังกล่าว ทำให้ขณะนี้บริษัทยังไม่รีบร้อนในการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆ แม้จะมีที่ดินรองรับการพัฒนาอยู่หลายแปลง เช่น ที่ดินในซอยนานาจำนวน6ไร่ซึ่งซื้อมาในราคา700,000 -800,000 บาทต่อตร.ว. ที่ดินในซอยสุขุมวิท36จำนวน 3ไร่ ซึ่งซื้อมาในราคา500,000 บาทต่อตร.ว. ที่ดินเลียบถนนศรีนครินทร์38-40 เยื้องกับห้างซีคอนสแควร์ จำนวน15 ไร่ ซึ่งซื้อมาในราคา800บาทต่อตร.ว. นอกจากนี้ยังมีที่ดินดิบในราชบุริอีกหลายร้อยไร่
“บริษัทยังไม่รีบร้อนในการพัฒนาโครงการใหม่ เพราะมองว่าสถานการณ์การเมือง และตลาดลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ขณะที่บริษัทก็ไม่ได้มีหนี้ หรือมีข้อบังคับให้ต้องอัตราการขยายตัวของรายได้อย่างต่อเนื่องในทุกๆปี”
นายสมชัย กล่าวถึงโครงการไบร์ท วงเวียนใหญ่ ว่า เปิดขายมาตั้งแต่ช่วงต้นปี2557ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มียอดขายแล้ว 15% สาเหตุที่ยอดขายโครงการดังกล่าวยังไม่คืบหน้าไปมากนักเพราะลูกค้าต้องการความเชื่อมั่น ซึ่งโครงการระดับเดียวกับ ไบร์ท วงเวียนใหญ่ ส่วนมากที่สามารถปิดการขาย หรือมียอดขายที่ดี เพราะลูกค้าเชื่อมั่นในตัวบริษัทและเห็นถึงความคืบหน้าในงานก่อสร้าง ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากงานก่อสร้างโครงการ ไบร์ท วงเวียนใหญ่ ก้าวหน้าไปถึงชั้นที่ 8-10 จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาซื้อห้องชุดในโครงการมากขึ้น และคาดว่าจะมียอดขาย90% ในปลายปี2558 โดยโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างแล้วเสร็วในปี 2560
สำหรับ ไบร์ท วงเวียนใหญ่ เป็นโครงการคอนโดสูง 46 ชั้น 1อาคารจำนวน 472 ยูนิต บนพื้นที่ 3ไร่ 1งาน 76 ตร.ว. ราคาขายเริ่มต้น 4.3ล้านบาท มีห้องให้เลือก3แบบ ตั้งแต่ 1-3ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 34.85-118ตร.ม. มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนสินเชื่อโครงการจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในวงเงิน1,200 ล้านบาท
นายสมชัย อำนวยพรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลไบร์ท โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “ไบร์ท วงเวียนใหญ่” คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในย่านวงเวียนใหญ่ถือว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะห้องชุดระดับล่าง ซึ่งถือว่ามีซับพลายค่อนข้างหน้าแน่น เพราะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามแม่จะมีซับพลายมากแต่ยอดขายในพื้นที่ถือว่าไปได้ดี สังเกตได้จากยอดขายของโครงการที่มาเปิดในพื้นที่ซึ่งมีนยอดขายค่อนข้างดี
ส่วนภาพรวมตลาดคอนโดในปีนี้ ถือว่าทรงตัวจากปีก่อน แต่กลุ่มตลาดระดับล่างถือว่าเป็นตลาดที่ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีซับพลายอยู่เป็นจำนวนมาก แม้จะมีการระบายออกไปเยอะ จากข่าวที่ออกมาว่าหลายๆค่ายที่เปิดตัวโครงการใหม่ออกมาในระยะเวลาไม่นานก็สามารถปิดขายได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว หรือบางโครงการมียอดจองซื้อเกือบหมดในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่าภาพการขายที่รวดเร็วในขณะนี้ยังสะท้อนภาพตลาดไม่ชัดเจนนัก แต่ความชัดเจนที่สะท้อนตลาดได้เป็นอย่างดีคือตัวเลขในการโอน เนื่องจากยังมีความว่าจะมีปัญหาเรื่องการเก็งกำไรอยู่
“นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดระดับบนที่มีราคาขายตั้งแต่ 300,000-400,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) เป็นอีกกลุ่มที่ยังน่าเป็นห่วง เพราะ หากมองจากยอดขายโครงการต่างๆ เทียบกับการใช้เงินของลูกค้าที่ยังชะลอตัวอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีเงิน และกำลังมีกำลังซื้อสูงจริงๆ ถือว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีการนำเงินออกมาใช้จ่ายไม่มาก หรือไม่กล้าใช้เงินมากนัก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังไม่ดีมาก เพราะการเมืองยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด เพราะการปฏิรูปทางการเมืองยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมด”
จากภาพรวมดังกล่าว ทำให้ขณะนี้บริษัทยังไม่รีบร้อนในการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆ แม้จะมีที่ดินรองรับการพัฒนาอยู่หลายแปลง เช่น ที่ดินในซอยนานาจำนวน6ไร่ซึ่งซื้อมาในราคา700,000 -800,000 บาทต่อตร.ว. ที่ดินในซอยสุขุมวิท36จำนวน 3ไร่ ซึ่งซื้อมาในราคา500,000 บาทต่อตร.ว. ที่ดินเลียบถนนศรีนครินทร์38-40 เยื้องกับห้างซีคอนสแควร์ จำนวน15 ไร่ ซึ่งซื้อมาในราคา800บาทต่อตร.ว. นอกจากนี้ยังมีที่ดินดิบในราชบุริอีกหลายร้อยไร่
“บริษัทยังไม่รีบร้อนในการพัฒนาโครงการใหม่ เพราะมองว่าสถานการณ์การเมือง และตลาดลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ขณะที่บริษัทก็ไม่ได้มีหนี้ หรือมีข้อบังคับให้ต้องอัตราการขยายตัวของรายได้อย่างต่อเนื่องในทุกๆปี”
นายสมชัย กล่าวถึงโครงการไบร์ท วงเวียนใหญ่ ว่า เปิดขายมาตั้งแต่ช่วงต้นปี2557ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มียอดขายแล้ว 15% สาเหตุที่ยอดขายโครงการดังกล่าวยังไม่คืบหน้าไปมากนักเพราะลูกค้าต้องการความเชื่อมั่น ซึ่งโครงการระดับเดียวกับ ไบร์ท วงเวียนใหญ่ ส่วนมากที่สามารถปิดการขาย หรือมียอดขายที่ดี เพราะลูกค้าเชื่อมั่นในตัวบริษัทและเห็นถึงความคืบหน้าในงานก่อสร้าง ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากงานก่อสร้างโครงการ ไบร์ท วงเวียนใหญ่ ก้าวหน้าไปถึงชั้นที่ 8-10 จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาซื้อห้องชุดในโครงการมากขึ้น และคาดว่าจะมียอดขาย90% ในปลายปี2558 โดยโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างแล้วเสร็วในปี 2560
สำหรับ ไบร์ท วงเวียนใหญ่ เป็นโครงการคอนโดสูง 46 ชั้น 1อาคารจำนวน 472 ยูนิต บนพื้นที่ 3ไร่ 1งาน 76 ตร.ว. ราคาขายเริ่มต้น 4.3ล้านบาท มีห้องให้เลือก3แบบ ตั้งแต่ 1-3ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 34.85-118ตร.ม. มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนสินเชื่อโครงการจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในวงเงิน1,200 ล้านบาท
