ASTV ผู้จัดการรายวัน – บอร์ดก.ล.ต.พร้อมอนุมัติ 3 มาตรการสกัดหุ้นร้อนในสัปดาห์หน้า ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของบล. บลจ. ขณะเดียวกันเตรียมแผนยกระดับตลาดทุนไทย 6 ด้านตลอดปี 2558 เร่งส่งเสริมให้ภาคเศรษฐกิจสามารถใช้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมทุนต้นทุน และการลงทุนในภูมิภาค
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กล่าวว่า สำนักงานก.ล.ต.จะนำ 3 มาตรการจัดการกับหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.เสนอมาเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต.เพื่อขอความเห็นชอบในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการทันภายในเดือนธันวาคม 2557 นี้ ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ คาดว่าต้องให้เวลาผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งบริษัทหลักทรัพย์ หรือ บล. และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. เตรียมระบบต่างๆ รองรับ
"เป็นมาตรการที่ได้พูดคุยกันมาตลอดอยู่แล้ว คาดบังคับใช้เร็วๆ นี้ ทั้งหมดเป็นกลไก ที่ตลท.ต้องการเตือนให้นักลงทุนใช้ข้อมูลอย่างถูกต้อง ว่า หากจะลงทุนในหุ้นร้อนควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ทั้ง 3 ระดับเป็นมาตรการที่เหมาะสม เป็นขั้นตอน เมื่อหุ้นใดที่ราคาร้อนแรงติด Trading alert แล้ว ก็จะต้องเข้าเกณฑ์ใช้ Cash balance ซื้อขายด้วยเงินสดทันที และถ้ามีครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ก็ต้องเป็นไปตามเกณฑ์" นายวรพล กล่าว
พร้อมกันนี้ เลขาธิการ ก.ล.ต. ได้กล่าวถึงแผนการดำเนินปี 2558 ว่า ก.ล.ต.จะดำเนินงานต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยการขับเคลื่อนจะเน้นการพัฒนา 6 ด้าน ได้แก่ 1.ยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 2.เพิ่มประสิทธิภาพการป้องปรามและบังคับใช้กฎหมาย ให้รวดเร็ว มีเครื่องมือการลงโทษที่เหมาะสม รองรับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
3.สร้างสินค้าและบริการทางการเงินให้หลากหลาย ดึงดูดผู้ลงทุนทั่วโลก หนุนให้ตลาดทุนไทยเป็นศูนย์เชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค 4.เปิดช่องทางให้กิจการทุกประเภททุกขนาดสามารถเข้าถึงทุนในรูปแบบที่เหมาะสม โดยเฉพาะกิจการ SMEs และกิจการเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ หรือ strategic sectors 5.สร้างผู้ลงทุนคุณภาพ พัฒนาให้ประชาชนมีความรู้ทางการเงิน และ 6.เพิ่มประสิทธิภาพ ก.ล.ต. ให้รองรับความผันผวนของภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย ทิศทางของกฎเกณฑ์และมาตรฐานสากลใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ
“เพื่อให้ตลาดทุนไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์เชื่อมโยงการระดมทุนในภูมิภาค จะมีการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุน โดยผ่อนคลายเกณฑ์การลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่เป็นรายย่อยและไม่ใช่รายย่อย และออกเกณฑ์รองรับการลงทุนและการออกตราสารของกลุ่ม GMS เพื่อให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น สำหรับการเปิดช่องทางให้แก่กิจการต่างๆ ให้มีโอกาสเข้าถึงทุนนั้น จะมีการออกเกณฑ์รองรับช่องทางใหม่อาทิ การระดมทุนในรูปแบบการเสนอขายหุ้นผ่านระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น” นายวรพล กล่าว
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กล่าวว่า สำนักงานก.ล.ต.จะนำ 3 มาตรการจัดการกับหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.เสนอมาเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต.เพื่อขอความเห็นชอบในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการทันภายในเดือนธันวาคม 2557 นี้ ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ คาดว่าต้องให้เวลาผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งบริษัทหลักทรัพย์ หรือ บล. และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. เตรียมระบบต่างๆ รองรับ
"เป็นมาตรการที่ได้พูดคุยกันมาตลอดอยู่แล้ว คาดบังคับใช้เร็วๆ นี้ ทั้งหมดเป็นกลไก ที่ตลท.ต้องการเตือนให้นักลงทุนใช้ข้อมูลอย่างถูกต้อง ว่า หากจะลงทุนในหุ้นร้อนควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ทั้ง 3 ระดับเป็นมาตรการที่เหมาะสม เป็นขั้นตอน เมื่อหุ้นใดที่ราคาร้อนแรงติด Trading alert แล้ว ก็จะต้องเข้าเกณฑ์ใช้ Cash balance ซื้อขายด้วยเงินสดทันที และถ้ามีครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ก็ต้องเป็นไปตามเกณฑ์" นายวรพล กล่าว
พร้อมกันนี้ เลขาธิการ ก.ล.ต. ได้กล่าวถึงแผนการดำเนินปี 2558 ว่า ก.ล.ต.จะดำเนินงานต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยการขับเคลื่อนจะเน้นการพัฒนา 6 ด้าน ได้แก่ 1.ยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 2.เพิ่มประสิทธิภาพการป้องปรามและบังคับใช้กฎหมาย ให้รวดเร็ว มีเครื่องมือการลงโทษที่เหมาะสม รองรับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
3.สร้างสินค้าและบริการทางการเงินให้หลากหลาย ดึงดูดผู้ลงทุนทั่วโลก หนุนให้ตลาดทุนไทยเป็นศูนย์เชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค 4.เปิดช่องทางให้กิจการทุกประเภททุกขนาดสามารถเข้าถึงทุนในรูปแบบที่เหมาะสม โดยเฉพาะกิจการ SMEs และกิจการเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ หรือ strategic sectors 5.สร้างผู้ลงทุนคุณภาพ พัฒนาให้ประชาชนมีความรู้ทางการเงิน และ 6.เพิ่มประสิทธิภาพ ก.ล.ต. ให้รองรับความผันผวนของภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย ทิศทางของกฎเกณฑ์และมาตรฐานสากลใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ
“เพื่อให้ตลาดทุนไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์เชื่อมโยงการระดมทุนในภูมิภาค จะมีการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุน โดยผ่อนคลายเกณฑ์การลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่เป็นรายย่อยและไม่ใช่รายย่อย และออกเกณฑ์รองรับการลงทุนและการออกตราสารของกลุ่ม GMS เพื่อให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น สำหรับการเปิดช่องทางให้แก่กิจการต่างๆ ให้มีโอกาสเข้าถึงทุนนั้น จะมีการออกเกณฑ์รองรับช่องทางใหม่อาทิ การระดมทุนในรูปแบบการเสนอขายหุ้นผ่านระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น” นายวรพล กล่าว