ASTV ผู้จัดการรายวัน - ตลาดหลักทรัพย์เคาะ 3 มาตรการสกัดหุ้นร้อนทั้ง ขึ้น Trading alert, Cash balance และ Net settlement เตรียมเสอนก.ล.ต. คาดสามารถประกาศใช้ได้ในปี 2558 ด้านนักวิเคราะห์มอง ไร้น้ำหนัก เหตุนักลงทุนพร้อมเทรดบัญชิเงินสด Net settlement จึงไม่มีความจำเป็น
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. พร้อมด้วยนางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ในฐานะกรรมการ ตลท.ร่วมกันแถลงผลการหารือมาตรการจัดการกับหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ หรือ “หุ้นร้อน” ว่า คณะกรรมการฯ เตรียมนำมาตรการเสริมทั้ง การขึ้น Trading alert, Cash balance และ Net settlement มาใช้กับมาตรการเดิมที่ ตลท.มีอยู่แล้ว โดยจะนำเสนอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.พิจารณาในเดือนนี้ และคาดว่าจะเริ่มใช้ในปี 2558
มาตรการที่หารือกันเป็นข้อสรุปแล้ว ได้แก่ มาตรการที่ 1หุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวร้อนแรงตัวใดติด Trading alert จะใช้ Cash balance ทันทีเป็นเวลา 3 สัปดาห์ มาตรการที่ 2 หากราคาหุ้นดังกล่าวยังคงเคลื่อนไหวผิดปกติ สามารถติด Trading alert เป็นครั้งที่ 2 ได้ และใช้เกณฑ์ Cash balance ต่ออีก 3 สัปดาห์ และห้ามใช้หุ้นตัวนั้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และมาตรการที่ 3 หากหุ้นตัวใดติด Trading alert เป็นครั้งที่ 3 ก็จะไม่อนุญาตให้ทำ Net settlement
ขณะที่นางภัทธีรา กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ไม่เน้นใช้มาตรการรุนแรง แต่จะพิจารณาใช้มาตรการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปตามความจำเป็นของหุ้นแต่ละตัว ซึ่งจะไม่สร้างความเสียหายต่อบรรยากาศการลงทุน และเป็นการเตือนนักลงทุนให้มีการตัดสินใจให้ดีก่อนที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นตัวนั้นๆ
"เราไม่ได้มีการออกมาตรการใหม่ แต่เราใช้การปรับมาตรการเดิมให้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมาตรการนี้ไม่ใช่ยาแรงแต่เป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไปและไม่สร้างความเสียหายให้กับตลาด ก็คิดว่ามาตรการที่นำมาใช้จะได้ผลเพราะเป็นมาตรการที่ค่อยๆปรับขึ้น และขึ้นไปถึงไม่สามารถ net settlement ใน 1 วัน ซึ่งถือว่าเป็นแรงสุด เชื่อว่าจะมาช่วยให้ตลาดมีเสถียรภาพ และดูแลภาวะตลาดใหมีความเหมาะสมและไม่เกิดภาวะลูกโป่งแตก" นางภัทธีรา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า นักวิเคราะห์ และนักลงทุนต่างไม่ตระหนกหากมีการประกาศใช้ 3 มาตรการดังกล่าว เนื่องจากเป็นแนวทางการควบคุมเดิม ที่นักลงทุนสามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนการเปิดบัญชีเงินสดนั้นนักลงทุนที่พร้อมรับควาเมสี่ยงจากการลงทุนก็เปิดบัญชีดังกล่าวเทรดเป็นปกติ แม้ว่าระหว่างการเทรดช่วงเช้านักลงทุนลดระดับการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ขาดปัจจัยพื้นฐานเพื่อรอดูมาตรการลดการเก็งกำไรหุ้นร้อนหลักทรัพย์ ซึ่งผลหารือล่าสุดไม่มีมาตรการที่รุนแรงและการใช้จริงยังต้องรอเสนอกลต.อีกครั้งปลายเดือนนี้ ส่งผลห้บรรยากาศช่วงบ่ายดีขึ้น
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. พร้อมด้วยนางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ในฐานะกรรมการ ตลท.ร่วมกันแถลงผลการหารือมาตรการจัดการกับหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ หรือ “หุ้นร้อน” ว่า คณะกรรมการฯ เตรียมนำมาตรการเสริมทั้ง การขึ้น Trading alert, Cash balance และ Net settlement มาใช้กับมาตรการเดิมที่ ตลท.มีอยู่แล้ว โดยจะนำเสนอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.พิจารณาในเดือนนี้ และคาดว่าจะเริ่มใช้ในปี 2558
มาตรการที่หารือกันเป็นข้อสรุปแล้ว ได้แก่ มาตรการที่ 1หุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวร้อนแรงตัวใดติด Trading alert จะใช้ Cash balance ทันทีเป็นเวลา 3 สัปดาห์ มาตรการที่ 2 หากราคาหุ้นดังกล่าวยังคงเคลื่อนไหวผิดปกติ สามารถติด Trading alert เป็นครั้งที่ 2 ได้ และใช้เกณฑ์ Cash balance ต่ออีก 3 สัปดาห์ และห้ามใช้หุ้นตัวนั้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และมาตรการที่ 3 หากหุ้นตัวใดติด Trading alert เป็นครั้งที่ 3 ก็จะไม่อนุญาตให้ทำ Net settlement
ขณะที่นางภัทธีรา กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ไม่เน้นใช้มาตรการรุนแรง แต่จะพิจารณาใช้มาตรการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปตามความจำเป็นของหุ้นแต่ละตัว ซึ่งจะไม่สร้างความเสียหายต่อบรรยากาศการลงทุน และเป็นการเตือนนักลงทุนให้มีการตัดสินใจให้ดีก่อนที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นตัวนั้นๆ
"เราไม่ได้มีการออกมาตรการใหม่ แต่เราใช้การปรับมาตรการเดิมให้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมาตรการนี้ไม่ใช่ยาแรงแต่เป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไปและไม่สร้างความเสียหายให้กับตลาด ก็คิดว่ามาตรการที่นำมาใช้จะได้ผลเพราะเป็นมาตรการที่ค่อยๆปรับขึ้น และขึ้นไปถึงไม่สามารถ net settlement ใน 1 วัน ซึ่งถือว่าเป็นแรงสุด เชื่อว่าจะมาช่วยให้ตลาดมีเสถียรภาพ และดูแลภาวะตลาดใหมีความเหมาะสมและไม่เกิดภาวะลูกโป่งแตก" นางภัทธีรา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า นักวิเคราะห์ และนักลงทุนต่างไม่ตระหนกหากมีการประกาศใช้ 3 มาตรการดังกล่าว เนื่องจากเป็นแนวทางการควบคุมเดิม ที่นักลงทุนสามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนการเปิดบัญชีเงินสดนั้นนักลงทุนที่พร้อมรับควาเมสี่ยงจากการลงทุนก็เปิดบัญชีดังกล่าวเทรดเป็นปกติ แม้ว่าระหว่างการเทรดช่วงเช้านักลงทุนลดระดับการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ขาดปัจจัยพื้นฐานเพื่อรอดูมาตรการลดการเก็งกำไรหุ้นร้อนหลักทรัพย์ ซึ่งผลหารือล่าสุดไม่มีมาตรการที่รุนแรงและการใช้จริงยังต้องรอเสนอกลต.อีกครั้งปลายเดือนนี้ ส่งผลห้บรรยากาศช่วงบ่ายดีขึ้น
