พบบุคคลในภาพ "ชื่นจิต-พญ.รังสิมา" รับเสด็จในหลวง เมื่อ 30 พ.ค.15 “ชื่นจิต” เผยเป็นมงคลแก่ชีวิต พร้อมน้อมนำคำสอนในหนังสือพระบรมราโชวาทมงคล 108 มาใช้ในการดำเนินชีวิต ขณะที่ พญ.รังสิมา ระบุ อุทิศตนดูแลพระอาพาต ขอให้พระองค์อายุยืน 120 ปี
วานนี้ (30 พ.ย.) เวลา 10.30 น. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้นำคณะผู้สื่อข่าวไปพบ น.ส.ชื่นจิต หรุ่มประดิษฐ์ เด็กผู้หญิงที่ไหว้ในหลวง และ พญ.รังสิมา แสงหิรัญวัฒนา (ผู้หญิงผมยาวใส่กระโปรงดำ) ที่บ้านซอยจรัลสนิทวงศ์ 45 ถ.จรัลสนิทวงศ์ แขวงอรุณอัมรินทร์ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพฯ เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลในภาพ วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2515
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา ไปทรงประกอบพิธีเปิดตึกอำนวยการ ตึกอุบัติเหตุ และตึกประธานบุญรวม เสนาดิสัย ณ โรงพยาบาลเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
น.ส.ชื่นจิต กล่าวว่า ขณะนั้นเธออายุ 4-5 ขวบ ผู้ปกครองให้ไปรับเสด็จพระองค์ท่าน รู้สึกปลาบปลื้มดีใจมาก ตอนนี้อายุกว่า 40 ปี รู้สึกเป็นเกียรติ มงคลของชีวิต ได้เห็นพระองค์ท่านเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย เห็นรูปพระองค์ท่านที่เหงื่อหยดจากจมูก คิดว่า
พระองค์ท่านยิ่งใหญ่ ทำเพื่อประชาชนมากมาย
"จากการได้เห็นพระองค์ท่านเหน็ดเหนื่อยพระวรกายจากการทำงานเพื่อประชาชน เธอได้นำมาเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต ซึ่งหัวนอนของเธอจะมีหนังสือพระบรมราโชวาท มงคล 108 ที่พระองค์ตรัสไว้ เธอได้นำมาใช้ในการดำเนินชีวิต"
น.ส.ชื่นจิต กล่าวต่อว่า เธอเคารพพระองค์ท่านเหมือนพ่อ และในวันพ่อแห่งชาติ ขอให้พระองค์ท่าน มีพลานามัยแข็งแรง
ด้าน พญ.รังสิมา กล่าวว่า วันที่รับเสด็จ รู้สึกปลาบปลื้ม ขนลุก ที่มีโอกาสได้รับเสด็จพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด และพระองค์ท่าน ยังเป็นแบบอย่างให้ตน น้อง และญาติ ตั้งใจเล่าเรียนให้มากที่สุด เพื่อนำความรู้มาทำประโยชน์ให้แก่ประเทศตามวิชีพของแต่ละคน พร้อมกันนี้ยังได้นำคำสอนของคุณยาย สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้เป็นแบบอย่างบริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาล ตั้งแต่ปี 2538 ปีละ 10 ล้านบาทให้แก่โรงพยาบาลเพชรบุรี อย่างต่อเนื่อง 7 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ยังบริจาคให้โรงเรียนต่างๆ และวัด เมื่อถึงวันเกิดคุณยายจะแจกข้าวสาร น้ำตาล และอื่นๆ ให้แก่ชาวบ้านที่ยากจน
"คุณยายสอนให้ลูกหลาน ดูพระองค์ท่านเป็นตัวอย่าง ที่อุทิศเพื่อประชาชน จึงอยากให้ลูกหลานรู้จักแบ่งปันสิ่งที่มีให้ผู้ที่ด้อยกว่า ซึ่งก่อนท่านเสียชีวิตได้แบ่งมรดกให้ลูกหลานพร้อมย้ำว่าให้นำเงินเฉพาะดอกเบี้ยช่วยเหลือคนอื่น วันนี้ หมอจะทำงานในวิชาชีพของตัวเองให้ดีที่สุด หมออยู่ รพ.สงฆ์ ดูแล รักษาพระสงฆ์ที่อาพาต" พญ.รังสิมากล่าวและว่า อยากให้พระองค์ท่านอายุยืน 120 ปี และยินดีทำงานถวายชีวิตให้พระองค์ท่านนายวีระ กล่าวว่า ขณะนี้ วธ.พบบุคคลทั้ง 9 ภาพแล้ว และในวันที่ 3 ธ.ค.จะพาบุคคลในภาพเหล่านี้ไปลงนามถวายพระพร ที่ รพ.ศิริราช
วันเดียวกัน วธ.มีกำหนดการจะแถลงข่าว มีผู้แทนมาพูดถึงโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ว่าโครงการต่างๆ หาประชาชนได้รับทราบ นับพัน นับหมื่น โครงการ ซึ่งพระองค์ท่านมีคุณูปการอย่างเอนกอนันต์ สำหรับวันนี้ที่มาพบ น.ส.ชื่นจิต และ พญ.รังสิมา ถือเป็นการเปิดตัว พบบุคคลในภาพ ส่วนท่านอื่นๆ ที่ได้เฝ้ารับเสด็จ สนองงานอย่างใกล้ชิด จะรับทราบการทรงงานของในหลวง อย่างมีประชาชนถวายฎีกา พระองค์จะเสด็จไปแม้ว่าจะอยู่ในถิ่นทุรกันดาน หรือมีเหตุการณ์ น้ำท่วม ไฟไหม้ พระองค์ท่านจะเสด็จไปพบประชาชนเสมอ
"บุคคลในภาพทั้ง 2 ท่าน วันนี้ถือเป็นบุคคลตัวอย่าง เพราะน้อมนำพระราชดำริ พระบรมราโชวาท ของพระองค์มาใช้ในการดำเนินชีวิต พร้อมทั้งยังได้ทำงานอุทิศตนเพื่อสังคมด้วย" นายวีระกล่าวและว่า วธ.จะรวบรวมประวัติของบุคคลในภาพทั้ง 9 ภาพ ตีพิมพ์กว่า 3 หมื่นเล่ม แจกจ่ายให้แก่โรงเรียนและหน่วยงานราชการต่างๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในบ้านพักของ น.ส.ชื่นจิต เพียงเปิดประตูบ้าน จะพบพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงแทบจะทุกมุมของบ้าน
**สวดมนต์ถวายในหลวง
นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) มีมติให้พระสังฆาธิการ ทุกระดับ ทุกรูป ในเขตกรุงเทพมหานคร ไปเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา เพื่อถวายพระพรชัยมงคล และถวายเป็นพระ
ราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 4 ธ.ค. 2557 เวลา 16.00 น. โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ พระสังฆาธิการ ทุกระดับ ทุกวัด ในเขตปกครองกรุงเทพมหานคร ประมาณ 500 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พร้อมกันนี้มส.ยังมีมติให้ทุกวัดทั่วประเทศ ทั่วโลกจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนาในวันดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ มส. ยังมีมติให้คณะสงฆ์ในแต่ละหนจัดพิธิเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมน์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้ วันที่ 1 ธ.ค. คณะสงฆ์หนเหนือจัดที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เวลา 08.00น. คณะสงฆ์คณะธรรมยุต จัดที่วัดเทพศิรินทราวาส เวลา 16.00น. คณะสงฆ์หนตะวันออก จัดที่วัดไตรมิตรวิทยาราม เวลา 17.00น. วันที่ 2 ธ.ค. คณะสงฆ์หนกลาง จัดที่วัดพิชญยาติการาม เวลา 14.00น. และวันที่ 3 ธ.ค. คณะสงฆ์หนใต้ จัดที่วัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง
ในวันเดียวกัน ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรมการศาสนา(ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ 88 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา โดยมีพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมทั้งมีศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดวธ. นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีศน. และประชาชน ผู้พิการ เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก โดยนายวีระ กล่าวว่า องค์กรศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ เครือข่ายภาคประชาชน จัดงานรวมพลังทางศาสนามหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-6 ธ.ค.2557 ที่ท้องสนามหลวง โดยทุกศาสนาต่างพร้อมใจกันสวดมนต์ถวายพระพรถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในวันที่ 1ธ.ค. จะเป็นการสวดขอพรของศาสนาคริสต์ กับอิสลาม และวันที่3 ธ.ค.เป็นการสวดมนต์ขอพรจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ นอกจากนี้ ตามศาสนสถานพระอารามหลวง 88 วัดทั่วประเทศ และสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ยังได้จัดกิจกรรมทางศาสนา ให้ประชาชนได้ร่วมกันทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศลในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนขอเชิญชวนให้ศาสนิกชนทุกศาสนาร่วมกิจกรรมทางศาสนาโดยพร้อมเพรียงกันด้วย.
วานนี้ (30 พ.ย.) เวลา 10.30 น. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้นำคณะผู้สื่อข่าวไปพบ น.ส.ชื่นจิต หรุ่มประดิษฐ์ เด็กผู้หญิงที่ไหว้ในหลวง และ พญ.รังสิมา แสงหิรัญวัฒนา (ผู้หญิงผมยาวใส่กระโปรงดำ) ที่บ้านซอยจรัลสนิทวงศ์ 45 ถ.จรัลสนิทวงศ์ แขวงอรุณอัมรินทร์ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพฯ เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลในภาพ วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2515
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา ไปทรงประกอบพิธีเปิดตึกอำนวยการ ตึกอุบัติเหตุ และตึกประธานบุญรวม เสนาดิสัย ณ โรงพยาบาลเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
น.ส.ชื่นจิต กล่าวว่า ขณะนั้นเธออายุ 4-5 ขวบ ผู้ปกครองให้ไปรับเสด็จพระองค์ท่าน รู้สึกปลาบปลื้มดีใจมาก ตอนนี้อายุกว่า 40 ปี รู้สึกเป็นเกียรติ มงคลของชีวิต ได้เห็นพระองค์ท่านเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย เห็นรูปพระองค์ท่านที่เหงื่อหยดจากจมูก คิดว่า
พระองค์ท่านยิ่งใหญ่ ทำเพื่อประชาชนมากมาย
"จากการได้เห็นพระองค์ท่านเหน็ดเหนื่อยพระวรกายจากการทำงานเพื่อประชาชน เธอได้นำมาเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต ซึ่งหัวนอนของเธอจะมีหนังสือพระบรมราโชวาท มงคล 108 ที่พระองค์ตรัสไว้ เธอได้นำมาใช้ในการดำเนินชีวิต"
น.ส.ชื่นจิต กล่าวต่อว่า เธอเคารพพระองค์ท่านเหมือนพ่อ และในวันพ่อแห่งชาติ ขอให้พระองค์ท่าน มีพลานามัยแข็งแรง
ด้าน พญ.รังสิมา กล่าวว่า วันที่รับเสด็จ รู้สึกปลาบปลื้ม ขนลุก ที่มีโอกาสได้รับเสด็จพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด และพระองค์ท่าน ยังเป็นแบบอย่างให้ตน น้อง และญาติ ตั้งใจเล่าเรียนให้มากที่สุด เพื่อนำความรู้มาทำประโยชน์ให้แก่ประเทศตามวิชีพของแต่ละคน พร้อมกันนี้ยังได้นำคำสอนของคุณยาย สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้เป็นแบบอย่างบริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาล ตั้งแต่ปี 2538 ปีละ 10 ล้านบาทให้แก่โรงพยาบาลเพชรบุรี อย่างต่อเนื่อง 7 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ยังบริจาคให้โรงเรียนต่างๆ และวัด เมื่อถึงวันเกิดคุณยายจะแจกข้าวสาร น้ำตาล และอื่นๆ ให้แก่ชาวบ้านที่ยากจน
"คุณยายสอนให้ลูกหลาน ดูพระองค์ท่านเป็นตัวอย่าง ที่อุทิศเพื่อประชาชน จึงอยากให้ลูกหลานรู้จักแบ่งปันสิ่งที่มีให้ผู้ที่ด้อยกว่า ซึ่งก่อนท่านเสียชีวิตได้แบ่งมรดกให้ลูกหลานพร้อมย้ำว่าให้นำเงินเฉพาะดอกเบี้ยช่วยเหลือคนอื่น วันนี้ หมอจะทำงานในวิชาชีพของตัวเองให้ดีที่สุด หมออยู่ รพ.สงฆ์ ดูแล รักษาพระสงฆ์ที่อาพาต" พญ.รังสิมากล่าวและว่า อยากให้พระองค์ท่านอายุยืน 120 ปี และยินดีทำงานถวายชีวิตให้พระองค์ท่านนายวีระ กล่าวว่า ขณะนี้ วธ.พบบุคคลทั้ง 9 ภาพแล้ว และในวันที่ 3 ธ.ค.จะพาบุคคลในภาพเหล่านี้ไปลงนามถวายพระพร ที่ รพ.ศิริราช
วันเดียวกัน วธ.มีกำหนดการจะแถลงข่าว มีผู้แทนมาพูดถึงโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ว่าโครงการต่างๆ หาประชาชนได้รับทราบ นับพัน นับหมื่น โครงการ ซึ่งพระองค์ท่านมีคุณูปการอย่างเอนกอนันต์ สำหรับวันนี้ที่มาพบ น.ส.ชื่นจิต และ พญ.รังสิมา ถือเป็นการเปิดตัว พบบุคคลในภาพ ส่วนท่านอื่นๆ ที่ได้เฝ้ารับเสด็จ สนองงานอย่างใกล้ชิด จะรับทราบการทรงงานของในหลวง อย่างมีประชาชนถวายฎีกา พระองค์จะเสด็จไปแม้ว่าจะอยู่ในถิ่นทุรกันดาน หรือมีเหตุการณ์ น้ำท่วม ไฟไหม้ พระองค์ท่านจะเสด็จไปพบประชาชนเสมอ
"บุคคลในภาพทั้ง 2 ท่าน วันนี้ถือเป็นบุคคลตัวอย่าง เพราะน้อมนำพระราชดำริ พระบรมราโชวาท ของพระองค์มาใช้ในการดำเนินชีวิต พร้อมทั้งยังได้ทำงานอุทิศตนเพื่อสังคมด้วย" นายวีระกล่าวและว่า วธ.จะรวบรวมประวัติของบุคคลในภาพทั้ง 9 ภาพ ตีพิมพ์กว่า 3 หมื่นเล่ม แจกจ่ายให้แก่โรงเรียนและหน่วยงานราชการต่างๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในบ้านพักของ น.ส.ชื่นจิต เพียงเปิดประตูบ้าน จะพบพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงแทบจะทุกมุมของบ้าน
**สวดมนต์ถวายในหลวง
นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) มีมติให้พระสังฆาธิการ ทุกระดับ ทุกรูป ในเขตกรุงเทพมหานคร ไปเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา เพื่อถวายพระพรชัยมงคล และถวายเป็นพระ
ราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 4 ธ.ค. 2557 เวลา 16.00 น. โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ พระสังฆาธิการ ทุกระดับ ทุกวัด ในเขตปกครองกรุงเทพมหานคร ประมาณ 500 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พร้อมกันนี้มส.ยังมีมติให้ทุกวัดทั่วประเทศ ทั่วโลกจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนาในวันดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ มส. ยังมีมติให้คณะสงฆ์ในแต่ละหนจัดพิธิเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมน์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้ วันที่ 1 ธ.ค. คณะสงฆ์หนเหนือจัดที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เวลา 08.00น. คณะสงฆ์คณะธรรมยุต จัดที่วัดเทพศิรินทราวาส เวลา 16.00น. คณะสงฆ์หนตะวันออก จัดที่วัดไตรมิตรวิทยาราม เวลา 17.00น. วันที่ 2 ธ.ค. คณะสงฆ์หนกลาง จัดที่วัดพิชญยาติการาม เวลา 14.00น. และวันที่ 3 ธ.ค. คณะสงฆ์หนใต้ จัดที่วัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง
ในวันเดียวกัน ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรมการศาสนา(ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ 88 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา โดยมีพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมทั้งมีศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดวธ. นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีศน. และประชาชน ผู้พิการ เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก โดยนายวีระ กล่าวว่า องค์กรศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ เครือข่ายภาคประชาชน จัดงานรวมพลังทางศาสนามหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-6 ธ.ค.2557 ที่ท้องสนามหลวง โดยทุกศาสนาต่างพร้อมใจกันสวดมนต์ถวายพระพรถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในวันที่ 1ธ.ค. จะเป็นการสวดขอพรของศาสนาคริสต์ กับอิสลาม และวันที่3 ธ.ค.เป็นการสวดมนต์ขอพรจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ นอกจากนี้ ตามศาสนสถานพระอารามหลวง 88 วัดทั่วประเทศ และสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ยังได้จัดกิจกรรมทางศาสนา ให้ประชาชนได้ร่วมกันทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศลในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนขอเชิญชวนให้ศาสนิกชนทุกศาสนาร่วมกิจกรรมทางศาสนาโดยพร้อมเพรียงกันด้วย.