00 เริ่มนั่งก้นไม่ติดพื้นกันแล้วสำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล่าสุดได้มีการลงนามแบ่งหน้าที่ให้รองนายกฯ แต่ละคน รวมทั้งรมต.ประจำสำนักนายกฯ กระจายกันติดตามตรวจสอบความคืบหน้าตามนโบายของนายกฯ และรัฐบาล โดยแบ่งโซนพื้นที่รับผิดชอบกันไปทั่วประเทศ และนี่คือปฏิกิริยาล่าสุด หลังจากคสช.เข้ามาคุมอำนาจเบ็ดเสร็จนาน 6 เดือนเศษ แต่หลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจยังไม่ค่อยเดินหน้า เรื่องหลักๆ ที่เกี่ยวกับปากท้อง เช่น ราคาสินค้าเกษตรตัวหลัก เช่นข้าว ยางพารา ยังไม่กระเตื้อง กลายเป็นความทับถมเข้ามาหนักอึ้งเรื่อยๆ ถ้ามัวแต่บอกว่าอดทนๆ และขอเวลาต่อไปเรื่อยๆ มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน ยิ่งตอนนี้มีพวก"จ้องผสมโรงป่วน" กำลังโผล่หน้าออกมามั่วสร้างกระแส "ชูสามนิ้ว" เข้ามาอีก หากไปบ้าจี้ซีเรียสจับดะ ก็ยิ่งเข้าเงื่อนไขบานปลาย
00 อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะ "วิสัยทัศน์แบบข้าราชการบวกทหาร" หรือเปล่า มันถึงไม่ค่อยก้าวหน้า หลายเรื่องยังเฉื่อยชา แก้ไม่ตก ที่เห็นก็คือ การเบิกจ่ายงบประมาณทั้งของเก่าของใหม่ในปีงบ 58 ก็ยังล่าข้า ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นล็อตแรก 3.6 แสนล้าน ยังไปไม่ถึงไหน แม้แต่เรื่องมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ก็เพิ่งเบิกจ่ายไปได้ไม่เท่าไหร่ ถึงวันนี้ยังไม่ถึงร้อยละ 50 ด้วยซ้ำ แถมยังมีเรื่องทุจริต ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับออกปากว่า "น่ารังเกียจ" กันเลยทีเดียว หากยังอืดอาดแบบนี้ต่อไป มันก็เข้าทางอีกฝ่ายที่รอจังหวะอยู่แล้ว เพราะเวลายิ่งผ่านไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งกดดันตัวเอง
00 หลายคนเริ่มขวัญผวากับเสียงประกาศออกมาในช่วงที่ตัวเองถูกขับไล่พ้นรัฐบาล โดยคสช. นานครบ 6 เดือนว่า เธอพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 59 ความหมายก็คือ จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบนั่นแหละ โอแม่เจ้า มันช่างไม่อายปาก ไม่รู้สึกรู้สา และดูถูกคนไทยสิ้นดี แต่อีกมุมหนึ่งมันก็เป็นเพราะยังมีอีกไม่น้อยที่หน้ามืดตามัวไปกับวิธีการ "โกงแล้วมาแบ่งกัน" แม้ว่าจะเป็นแค่เศษๆ แต่ก็ถือว่า "มาโปรด"แล้ว ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่มีการคาดหมายว่า หากคสช. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ "พี่ใหญ่" อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คิดที่จะปรองดอง ไม่ยอมเปิดโปงความชั่วช้าของระบอบทักษิณว่าได้สร้างเวรสร้างกรรมอะไรไว้บ้าง แบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้ที่สังคมจะมองว่านี่คือ "ปาหี่"
00 คำพูดของ อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ระหว่างร่วมงาน "สนทนา 30 ปีทีดีอาร์ไอ" เมื่อวันก่อน ได้แง่คิดมาไม่น้อย โดยชี้แนะการทำงานและการบริหารงานให้กับคสช.และรัฐบาลให้ "ตาสว่าง" ได้หลายเรื่อง หากสนใจฟัง และนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องการปรองดอง และการปฏิรูป ที่ต้อง "แยกออกจากกัน" แต่สามารถดำเนินการไปพร้อมกันได้ และต้องมองไปข้างหน้า ซึ่งเวลานี้เขาบอกว่า "ชักเริ่มไม่แน่ใจ" และที่สำคัญก็คือ "การปรองดองไม่ใช่การประสานประโยชน์"
00 อานันท์ ปันยารชุน ยังเตือนไปถึงคสช.และรัฐบาล และแม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยชื่อกันตรงๆ แต่น่าจะสื่อความหมายไปถึงระดับยอดอำนาจที่เวลานี้มีอยู่สองคน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เบอร์ 1 เบอร์ 2 โดยเตือนว่า อย่าใช้วิธีแบบทหารมาบริหาร คือ "อย่าสั่งจากบนลงล่าง" ต้องลืม เบอร์ 1 เบอร์ 2 และ "ต้องฟังทุกระดับ" นอกจากนี้ ยังยืนยันถึง "ข่าวลือเรื่องคอร์รัปชัน" ว่ามันมีหนาหูมาก ซึ่งนายกฯ ต้องรีบเคลียร์โดยเร็ว ว่าจริงหรือไม่จริง และต้องรีบแก้ปัญหาทำความเข้าใจให้ได้ อุเหม่ มันจี๊ดขึ้นมาเลย !!
00 อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะ "วิสัยทัศน์แบบข้าราชการบวกทหาร" หรือเปล่า มันถึงไม่ค่อยก้าวหน้า หลายเรื่องยังเฉื่อยชา แก้ไม่ตก ที่เห็นก็คือ การเบิกจ่ายงบประมาณทั้งของเก่าของใหม่ในปีงบ 58 ก็ยังล่าข้า ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นล็อตแรก 3.6 แสนล้าน ยังไปไม่ถึงไหน แม้แต่เรื่องมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ก็เพิ่งเบิกจ่ายไปได้ไม่เท่าไหร่ ถึงวันนี้ยังไม่ถึงร้อยละ 50 ด้วยซ้ำ แถมยังมีเรื่องทุจริต ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับออกปากว่า "น่ารังเกียจ" กันเลยทีเดียว หากยังอืดอาดแบบนี้ต่อไป มันก็เข้าทางอีกฝ่ายที่รอจังหวะอยู่แล้ว เพราะเวลายิ่งผ่านไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งกดดันตัวเอง
00 หลายคนเริ่มขวัญผวากับเสียงประกาศออกมาในช่วงที่ตัวเองถูกขับไล่พ้นรัฐบาล โดยคสช. นานครบ 6 เดือนว่า เธอพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 59 ความหมายก็คือ จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบนั่นแหละ โอแม่เจ้า มันช่างไม่อายปาก ไม่รู้สึกรู้สา และดูถูกคนไทยสิ้นดี แต่อีกมุมหนึ่งมันก็เป็นเพราะยังมีอีกไม่น้อยที่หน้ามืดตามัวไปกับวิธีการ "โกงแล้วมาแบ่งกัน" แม้ว่าจะเป็นแค่เศษๆ แต่ก็ถือว่า "มาโปรด"แล้ว ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่มีการคาดหมายว่า หากคสช. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ "พี่ใหญ่" อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คิดที่จะปรองดอง ไม่ยอมเปิดโปงความชั่วช้าของระบอบทักษิณว่าได้สร้างเวรสร้างกรรมอะไรไว้บ้าง แบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้ที่สังคมจะมองว่านี่คือ "ปาหี่"
00 คำพูดของ อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ระหว่างร่วมงาน "สนทนา 30 ปีทีดีอาร์ไอ" เมื่อวันก่อน ได้แง่คิดมาไม่น้อย โดยชี้แนะการทำงานและการบริหารงานให้กับคสช.และรัฐบาลให้ "ตาสว่าง" ได้หลายเรื่อง หากสนใจฟัง และนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องการปรองดอง และการปฏิรูป ที่ต้อง "แยกออกจากกัน" แต่สามารถดำเนินการไปพร้อมกันได้ และต้องมองไปข้างหน้า ซึ่งเวลานี้เขาบอกว่า "ชักเริ่มไม่แน่ใจ" และที่สำคัญก็คือ "การปรองดองไม่ใช่การประสานประโยชน์"
00 อานันท์ ปันยารชุน ยังเตือนไปถึงคสช.และรัฐบาล และแม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยชื่อกันตรงๆ แต่น่าจะสื่อความหมายไปถึงระดับยอดอำนาจที่เวลานี้มีอยู่สองคน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เบอร์ 1 เบอร์ 2 โดยเตือนว่า อย่าใช้วิธีแบบทหารมาบริหาร คือ "อย่าสั่งจากบนลงล่าง" ต้องลืม เบอร์ 1 เบอร์ 2 และ "ต้องฟังทุกระดับ" นอกจากนี้ ยังยืนยันถึง "ข่าวลือเรื่องคอร์รัปชัน" ว่ามันมีหนาหูมาก ซึ่งนายกฯ ต้องรีบเคลียร์โดยเร็ว ว่าจริงหรือไม่จริง และต้องรีบแก้ปัญหาทำความเข้าใจให้ได้ อุเหม่ มันจี๊ดขึ้นมาเลย !!