xs
xsm
sm
md
lg

รวบ"พงศ์พัฒน์"พร้อมพวก ยึดทรัพย์หมื่นล้าน ทั้งเงินสด-ทอง-พระเครื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ค้นบ้าน "พงศ์พัฒน์" 4-6 หลัง พบเงินสดซุกซ่อนนับพันล้านบาท พระพุทธรูปบูชาหายาก กว่า 100 องค์ พระเครื่องชื่อดัง หลายพันองค์ โฉนดที่ดินจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไป รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ร่วม 1 หมื่นล้าน ด้าน ผบ.ตร.ลงนามสั่งออกจากราชการไว้ก่อนทั้งก๊วนรวม 6 นาย โดยแยกขังตามสน.ต่างๆในพื้นที่นครบาล ด้านโฆษก ตร.ยันผู้ต้องหาให้การรับสารภาพบางส่วนแล้ว เตรียมนำตัวฝากขังวันนี้ จ่อแถลงโชว์หลักฐานทำผิด เผย “พ.ต.อ.อัครวุฒิ์” ให้ข้อมูลแล้วก็ไปกระโดดตึกฆ่าตัวตาย พยานเผยพยายามฆ่าตัวตายแล้ว 3 ครั้ง

วานนี้ (23 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) รายงานข่าวแจ้งว่าการเข้าจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พร้อมพวก ครั้งนี้ได้มีการควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน โดยแยกควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล 8 แห่ง และมีการควบคุมตัวเหมือนผู้ต้องหาทั่วไปในห้องควบคุมผู้ต้องหา สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.เตาปูน ขณะที่ พล.ต.ต.โกวิทย์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 08.00 น.จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก

เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน สอบปากคำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งโดยแยกกันสอบปากคำ ก่อนที่จะแยกย้ายกันนำตัวไปควบคุมตามสถานีตำรวจต่างๆ

สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ หลังสอบปากคำเสร็จ ได้ถูกตำรวจอรินทราชนำตัวมาที่ สน.เตาปูน เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 23 พ.ย. โดยสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีกากี มีท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด

แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน พบพยานหลักฐานมากมาย โดยเฉพาะในบ้านพักของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่มีอยู่ 4-6 หลัง พบเงินสดซุกซ่อนอยู่นับพันล้านบาท ทรัพย์สินอื่น อาทิ พระพุทธรูปบูชาหายาก กว่า 100 องค์ พระเครื่องชื่อดังจำนวนหลายพันองค์ โฉนดที่ดินจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปของโฉนดที่ดินเหล่านี้ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ร่วม 1 หมื่นล้าน

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตรได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 632/2557 ลงวันที่ 23 พ.ย.2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า อาศัยอำนาจตามมาตรา 95 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผบก.รน.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผกก.4 บก.ปคบ. ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ออกจากราชการไว้ก่อน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ ก.ตร.ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 105 ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งและประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือขอรับผลการวินิจฉัยอุทธรณ์

มีรายงานว่า ในวันที่ 24 พ.ย.2557 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับนายตำรวจทั้ง 6 นายด้วย

****ผู้ต้องหารับสารภาพ ฝากขังวันนี้

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รรท.ผบช.ก) และโฆษก ตร.เปิดเผยว่า มีการขออนุมัติหมายจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พร้อมตำรวจอีก 6 นาย และพลเรือนอีก 3 คน รวมทั้งหมด 10 คนในข้อหาความผิดคดีอาญาจริง โดยขณะนี้ควบคุมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และพวกรวม 8 คนไว้แล้ว มีแจ้งข้อหาและรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมตัวเพื่อทำการสอบสวนและจะนำตัวไปรายงานตัวฝากขังต่อศาลอาญาในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ส่วนพลเรือนอีก 2 คน คือ นางสวงค์ มุ่งเที่ยง และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์ นั้นยังจับกุมไม่ได้ อยู่ระหว่างสืบสวนติดตาม

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานว่า มีการกระทำอันทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ ซึ่งรายละเอียดพฤติการณ์การกระทำผิดจะมีการแถลง เปิดเผยหลักฐานต่อสื่อมวลชนอย่างละเอียดอีกครั้งในเร็วๆ นี้ จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า สำหรับ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีต ผกก.1 บก.ป.นั้น จากการสืบสวนพบว่าอยู่ในขบวนการเดียวกันร่วมกระทำความผิด ก่อนหน้านี้มีการเชิญตัวมาให้ข้อมูลแล้ว ให้ความร่วมมืออย่างดี ให้การเป็นประโยชน์ แต่ขณะนั้นยังไม่มีการขออนุมัติหมายจับด้วยเห็นว่าเป็นนายตำรวจระดับสูงจึงยังไม่ควบคุมตัวไว้ กระทั่งต่อมาทราบว่าหลัง พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ให้ข้อมูลแล้วก็ไปกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ด้วยความเครียดและเกรงกลัวถูกดำเนินคดี ทรายภายหลังว่าก่อนเข้าให้ข้อมูลนั้น พ.ต.อ.อัครวุฒิ์เครียดมากและมีพยานยืนยันว่าพยายามฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง มีการเขียนข้อความลาตายไว้ด้วย

โดยผู้ต้องหาที่ออกหมายจับทั้งหมดประกอบด้วย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก.ข้อหา ป.อาญา ม.112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริบ์ พระราชินี รัชทายาทฯ),ม.148 (เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ),ม.149 (เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ),ม.157(เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ),พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงินฯ

พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ข้อหา ป.อาญา ม.149(เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ),ม.157(เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ/ พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผกก.4 บก.ปคบ. ข้อหา ม.148 (เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ),ม.149(เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์),ม.157(เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา และ ด.ต.ฉัตรินทร์ หรือจักรินทร์ เหล่าทอง ข้อหา ม.148(เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ),ม.149(เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ),ม.157(เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ /

พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล ผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ข้อหาร่วมกันสร้างแผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าฯ หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ พ.ศ.2484 ม.54,55 / ร่วมกันปลูกสร้างอาคารฝายล่วงล้ำในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบ ที่ประชาชนใช้ร่วมกันโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ม.117,183 และพลเรือนอีก 3 ราย ประกอบด้วย นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ข้อหาเดี่ยวกับ พ.ต.อ.โกวิทย์ฯ/ นางสวงค์ มุ่งเที่ยง และ นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช ข้อหา ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ม.19,47.
กำลังโหลดความคิดเห็น