ASTVผู้จัดการรายวัน-"บิ๊กอ๊อด" ออกวิทยุสั่งการ สน.ทั่วประเทศตรวจสอบตู้ยามสายตรวจ ป้อมสัญญาณไฟทุกแห่ง ที่ตั้งป้ายโฆษณา หากไม่ถูกต้องให้รื้อถอนให้หมด ชี้มีการใช้ไฟฟ้าของทางราชการ แสวงหาประโยชน์ทำให้ สตช. เสียภาพลักษณ์
วานนี้ (19 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ออกวิทยุสั่งการในราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธร 1-9 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ตำรวจทุกสถานี ตรวจสอบตู้ยามสายตรวจ และป้อมสัญญาณไฟจราจร รวมทั้งบริเวณอาคารที่ทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่มีการติดตั้งป้ายโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์ว่ามีการดำเนินการถูกต้องตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ หากมีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือผิดเงื่อนไขสัญญาให้ดำเนินการรื้อถอนโดยด่วน
“เนื่องจากมีการติดตั้งป้ายโฆษนาที่ป้อมสัญญาณไฟจราจรบางแห่ง ดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้ไฟฟ้าของทางราชการ หรือมีการแสวงหาประโยชน์จากการโฆษณา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตามสื่อต่างๆ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ผบ.ตร.ระบุในคำสั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับป้ายโฆษณาดังกล่าว มีปัญหาความไม่ชอบมาพากล พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. จึงได้มีคำสั่งไปยัง ผบก. 1-9 ทั่วเขตนครบาลให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2557 กรณีผู้กำกับการสถานี (ผกก.สน.) คนปัจจุบันและในอดีตมีพฤติการณ์ให้บริษัทเอกชน เข้ามาหาประโยชน์บนที่ราชพัสดุโดยการติดตั้งป้ายโฆษณา แต่กลับไม่มีหลักฐานหนังสือยินยอม และมีหนังสือยินยอม แต่ไม่ถูกต้องตามระเบียบทางราชการ มีนายตำรวจระดับ ผกก.สน.ถูกตั้งกรามการสอบรวม 50 นายและระดับรองผกก. จนถึงสารวัตรจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ป้ายโฆษณาดำเนินการโดยบริษัทเอกชนรายหนึ่ง คือ บริษัทบางกอก ไตรวิชั่น จำกัด หรือ Hello Bangkok มีนายกิตติชัย ศรีจำเริญ เป็นประธานบริหาร มีรูปแบบการโฆษณาลักษณะเป็นสื่อนอกบ้านดำเนินงานมากว่า 20 ปี มีทั้งสื่อรถโฆษณาเคลื่อนที่ติดจอ LED ขนาดใหญ่ดังที่เห็นตามสี่แยกต่างๆ และบนทางเท้า และอีกรูปแบบหนึ่งคือป้าย Hello Mobile LED TV หรือป้ายขนาดใหญ่ที่ติดตั้งตายตัวตามจุดต่างๆ ริมถนน โดยลักษณะพิเศษอีกประการของป้ายโฆษณาลักษณะนี้ ก็คือ สามารถแพร่ภาพเคลื่อนไหวผ่านดาวเทียมได้ไม่ว่าจะติดตั้งในภูมิภาคใดของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีปัญหาเกิดขึ้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ประธานมูลนิธิต้นตระกูลกมลวิศิษฎ์ เข้าร้องทุกข์กรณีตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรตามทางแยกต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 53 ป้อม ที่ทางมูลนิธิบริจาคให้ทางราชการ ถูกนำไปประกอบกิจการหาผลกำไรจากธุรกิจโฆษณา โดยมีการติดตั้งป้ายดิจิทัลเรืองแสงหรือจอแอลอีดี รวมทั้งป้ายโฆษณาอื่นๆ เพื่อหากำไรโดยผิดกฎหมายด้วย ซึ่ง พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้สั่งการให้กองบังคับการอำนวย กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าไปดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว และให้รายงานผลให้ทราบภายใน 5 วัน
วานนี้ (19 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ออกวิทยุสั่งการในราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธร 1-9 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ตำรวจทุกสถานี ตรวจสอบตู้ยามสายตรวจ และป้อมสัญญาณไฟจราจร รวมทั้งบริเวณอาคารที่ทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่มีการติดตั้งป้ายโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์ว่ามีการดำเนินการถูกต้องตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ หากมีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือผิดเงื่อนไขสัญญาให้ดำเนินการรื้อถอนโดยด่วน
“เนื่องจากมีการติดตั้งป้ายโฆษนาที่ป้อมสัญญาณไฟจราจรบางแห่ง ดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้ไฟฟ้าของทางราชการ หรือมีการแสวงหาประโยชน์จากการโฆษณา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตามสื่อต่างๆ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ผบ.ตร.ระบุในคำสั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับป้ายโฆษณาดังกล่าว มีปัญหาความไม่ชอบมาพากล พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. จึงได้มีคำสั่งไปยัง ผบก. 1-9 ทั่วเขตนครบาลให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2557 กรณีผู้กำกับการสถานี (ผกก.สน.) คนปัจจุบันและในอดีตมีพฤติการณ์ให้บริษัทเอกชน เข้ามาหาประโยชน์บนที่ราชพัสดุโดยการติดตั้งป้ายโฆษณา แต่กลับไม่มีหลักฐานหนังสือยินยอม และมีหนังสือยินยอม แต่ไม่ถูกต้องตามระเบียบทางราชการ มีนายตำรวจระดับ ผกก.สน.ถูกตั้งกรามการสอบรวม 50 นายและระดับรองผกก. จนถึงสารวัตรจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ป้ายโฆษณาดำเนินการโดยบริษัทเอกชนรายหนึ่ง คือ บริษัทบางกอก ไตรวิชั่น จำกัด หรือ Hello Bangkok มีนายกิตติชัย ศรีจำเริญ เป็นประธานบริหาร มีรูปแบบการโฆษณาลักษณะเป็นสื่อนอกบ้านดำเนินงานมากว่า 20 ปี มีทั้งสื่อรถโฆษณาเคลื่อนที่ติดจอ LED ขนาดใหญ่ดังที่เห็นตามสี่แยกต่างๆ และบนทางเท้า และอีกรูปแบบหนึ่งคือป้าย Hello Mobile LED TV หรือป้ายขนาดใหญ่ที่ติดตั้งตายตัวตามจุดต่างๆ ริมถนน โดยลักษณะพิเศษอีกประการของป้ายโฆษณาลักษณะนี้ ก็คือ สามารถแพร่ภาพเคลื่อนไหวผ่านดาวเทียมได้ไม่ว่าจะติดตั้งในภูมิภาคใดของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีปัญหาเกิดขึ้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ประธานมูลนิธิต้นตระกูลกมลวิศิษฎ์ เข้าร้องทุกข์กรณีตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรตามทางแยกต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 53 ป้อม ที่ทางมูลนิธิบริจาคให้ทางราชการ ถูกนำไปประกอบกิจการหาผลกำไรจากธุรกิจโฆษณา โดยมีการติดตั้งป้ายดิจิทัลเรืองแสงหรือจอแอลอีดี รวมทั้งป้ายโฆษณาอื่นๆ เพื่อหากำไรโดยผิดกฎหมายด้วย ซึ่ง พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้สั่งการให้กองบังคับการอำนวย กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าไปดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว และให้รายงานผลให้ทราบภายใน 5 วัน