เกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของ "รอง มทภ.3" ตกในพื้นที่ตำบลท่าวังทอง เมืองพะเยา เสียชีวิตยกลำทั้งหมด 9 รายในจำนวนนี้มี "พล.ต.ทรงพล ทองจีน” รอง มทภ.3 รวมอยู่ด้วย ขณะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจตรวจหน่วยในสายงานการส่งกำลังบำรุงที่ลำปาง พะเยา และกำลังจะไปเชียงราย "มทภ.3" เตรียมลงพื้นที่เกิดเหตุ ฮ.ตกวันนี้ เผย 1 ในผู้เสียชีวิตโพสต์เฟซบุ๊คเป็นลางก่อนขึ้นบินระบุ “ฮ.เก่า นักบินใหม่ อากาศปิด ประตูนรกเปิด”
เมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ (17 พ.ย.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุจังหวัดพะเยา ได้รับแจ้งอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ (ฮ.) ของเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาค 3 ที่มี พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาค 3 (รอง มทภ.3) ร่วมคณะอยู่ด้วย ได้เกิดเครื่องยนต์ขัดข้องหลังจากนำเครื่องขึ้นได้เพียง 10 นาที ก่อนจะถลาตกลงมากระแทกพื้น ซึ่งเป็นทุ่งนาบริเวณพื้นที่บ้านเจอบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ส่งผลให้เกิดเพลิงลุกไหม้ท่วมทั้งลำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย
ทั้งนี้ ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวจะเกิดอุบัติเหตุ พล.ต.ทรงพล และคณะได้เดินทางด้วย ฮ.ท.212 เพื่อไปปฏิบัติภารกิจตรวจหน่วยในสายงานการส่งกำลังบำรุง ขณะที่ ฮ.ได้ยกตัวบินออกจากค่ายขุนเจืองธรรมิกราช ร.17 จากจังหวัดทหารบก (จทบ.) พะเยาไป จทบ.เชียงราย ได้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นได้ขาดการติดต่อ จนกระทั่งมีรายงานข่าวแจ้งว่า ฮ.ลำดังกล่าวได้เกิดอุบัติเหตุตกในรัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตรบริเวณบ้านดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยทหารในพื้นที่ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และตำรวจจังหวัดพะเยา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปยังที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ ฮ.ลำที่ตกและจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่บอกว่า ได้ยินเสียงดังขึ้นก่อนที่จะเห็นเครื่องบินลำดังกล่าวตกลงมายังพื้นที่ดินและมีเสียงดังระเบิดขึ้นจนเกิดไฟลุกท่วม
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย ประกอบด้วย 1.พล.ต.ทรงพล ทองจีน รอง มทภ.3(2) (ตท.16) 2.พ.อ.กิตติ สุวรรณเจริญ รอง ผอ.กกบ.ทภ.3 (ตท.31) 3.พ.อ.ยุทธพงษ์ เพื่อนฝูง ฝยย.ทภ.3 (ตท.31) 4.พ.ท.วุฒิศักดิ์ สุนทรสุข ผช.นายทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง ทภ.3 (ตท.35) 5. พ.ท.มานิต สุรเสนา นักบิน 1 (นชท.21) 6.ร.อ.วรพงษ์ ช่างสลัก นักบิน 2 (ตท.46) 7.จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ ชรก.ผยย.ทภ.3 8.จ.ส.อ.พิรุณ แสนดอนคู่ ช่างเครื่อง และ 9.จ.ส.อ.สมภพ มาลัยวงษ์ ช่างเครื่อง (นชท.43)
ทั้งนี้ ก่อนที่คณะของ พล.ต.ทรงพล จะเดินทางมาปฏิบัติราชการที่ จทบ.พะเยา ได้นั่ง ฮ.ดังกล่าวลงตรวจราชการที่จังหวัดลำปาง เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันและได้รับประทานอาหารเที่ยงที่ค่ายฝึกรบพิเศษ ประตูผา มทบ.32 อ.เมือง จ.ลำปาง ก่อนที่จะเดินทางมาที่ จ.พะเยา จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นขณะที่กำลังจะเดินทางไป จ.เชียงราย
ด้าน นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การค้นหาผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ ซึ่งค่อนข้างลำบากเนื่องจากสภาพอากาศมืด อีกทั้งเศษซาก ฮ.ได้กระจัดกระจายไปทั่ว บางส่วนที่ติดอยู่กับตัวเครื่อง ก็ต้องใช้เครื่องตัดถ่างเข้าดำเนินการเพื่อค้นหา
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกองทัพภาคที่ 3 ยืนยันถึงกรณีที่เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ ฮ.ท.212 ของกองทัพภาคที่ 3 ประสบอุบัติเหตุตกว่า ขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 3 กำลังตรวจสอบรายละเอียดในพื้นที่ เบื้องต้นทราบว่ามีเฮลิคอปเตอร์ตกและไฟลุกไหม้ทั้งลำจริง ภายหลังยกตัวจากกรมทหารราบที่ 17 จ.พะเยา เพื่อไปภารกิจที่ จ.เชียงราย โดยภายในเครื่องมีนักบิน 2 นาย ช่างเครื่อง 2 นาย และผู้โดยสาร 5 นาย ซึ่ง 1 ใน 5 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3
ด้าน พ.อ.บรรณวัฒณ์ พรมจันทร์ ผบ.กรมทหารราบที่ 17 กล่าวว่า คณะของรองแม่ทัพภาคที่ 3 กำลังจะเดินทางไปราชการที่ จ.เชียงรายต่อ โดยจะไปพักค้างที่ จ.เชียงราย เพื่อจะได้ตรวจงานที่ จ.เชียงรายในวันที่ 18 พ.ย. แต่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน โดยทาง พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 จะเดินทางเข้าที่เกิดเหตุในวันนี้ พร้อมคณะพิสูจน์ทราบเพื่อหาสาเหตุการตกของเครื่องบินที่แท้จริง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอให้แม่ทัพภาคเป็นผู้ให้รายละเอียด
ขณะที่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ทางด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ได้รับทราบรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ได้สั่งการให้ กองทัพภาคที่3 และหน่วยในพื้นที่ดูแลและค้นหาคณะนายทหารในอากาศยานให้พบทุกนาย ขณะเดียวกันให้ชุดค้นหาและช่วยเหลือปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมทั้งได้ให้คณะกรรมการนิรภัยการบิน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสาเหตุโดยละเอียดและดำเนินการต่ออากาศยานดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป
“เมื่อเวลา 20.15 น.ได้พบร่างของทุกท่านแล้วทั้ง 9 นายกำลังลำเลียงศพไปยัง รพ.พะเยา เพื่อพิสูจน์ตัวบุคลต่อไป ส่วนในคืนนี้กรมทหารราบที่ 17 จังหวัดทหารบกพะเยา และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 17 จะจัดกำลังเฝ้าพื้นที่เกิดเหตุและอากาศยาน โดยในวันที่ 18 พ.ย. แม่ทัพภาคที่ 3 จะเดินทางมาที่จังหวัดทหารบกพะเยาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์และดูแลการดำเนินการทั้งปวงต่อนายทหารที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยกองทัพบกขอขอบคุณหลายหน่วยงายที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือและค้นหาพร้อมอำนวยความสะดวกจนเหตุการณ์ในครั้งนี้คลี่คลายลง” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.ส.อ.อนันต์ หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่ร่วมเดินทางไปกับคณะของรองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ "อนันต์ ชมเชียงคำ" เมื่อประมาณ 10 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ หรือประมาณช่วงเช้าก่อนออกปฏิบัติภารกิจในวันนี้ว่า “ได้เวลา เย้ยฟ้า ท้าลมหนาว อีกแล้ว.....ฮ.เก่า นักบินใหม่....อากาศปิด ประตูนรกเปิด...” ด้วย
ขณะเดียวกันในโลกสังคมออนไลน์ ก็กำลังมีการแชร์ภาพภารกิจสุดท้ายก่อนเสียชีวิตของคณะรองแม่ทัพภาคที่ 3 ขณะปฏิบัติภารกิจที่ ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช ร.17 โดยมีผู้เข้ามาเขียนข้อความไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ (17 พ.ย.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุจังหวัดพะเยา ได้รับแจ้งอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ (ฮ.) ของเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาค 3 ที่มี พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาค 3 (รอง มทภ.3) ร่วมคณะอยู่ด้วย ได้เกิดเครื่องยนต์ขัดข้องหลังจากนำเครื่องขึ้นได้เพียง 10 นาที ก่อนจะถลาตกลงมากระแทกพื้น ซึ่งเป็นทุ่งนาบริเวณพื้นที่บ้านเจอบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ส่งผลให้เกิดเพลิงลุกไหม้ท่วมทั้งลำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย
ทั้งนี้ ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวจะเกิดอุบัติเหตุ พล.ต.ทรงพล และคณะได้เดินทางด้วย ฮ.ท.212 เพื่อไปปฏิบัติภารกิจตรวจหน่วยในสายงานการส่งกำลังบำรุง ขณะที่ ฮ.ได้ยกตัวบินออกจากค่ายขุนเจืองธรรมิกราช ร.17 จากจังหวัดทหารบก (จทบ.) พะเยาไป จทบ.เชียงราย ได้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นได้ขาดการติดต่อ จนกระทั่งมีรายงานข่าวแจ้งว่า ฮ.ลำดังกล่าวได้เกิดอุบัติเหตุตกในรัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตรบริเวณบ้านดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยทหารในพื้นที่ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และตำรวจจังหวัดพะเยา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปยังที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ ฮ.ลำที่ตกและจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่บอกว่า ได้ยินเสียงดังขึ้นก่อนที่จะเห็นเครื่องบินลำดังกล่าวตกลงมายังพื้นที่ดินและมีเสียงดังระเบิดขึ้นจนเกิดไฟลุกท่วม
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย ประกอบด้วย 1.พล.ต.ทรงพล ทองจีน รอง มทภ.3(2) (ตท.16) 2.พ.อ.กิตติ สุวรรณเจริญ รอง ผอ.กกบ.ทภ.3 (ตท.31) 3.พ.อ.ยุทธพงษ์ เพื่อนฝูง ฝยย.ทภ.3 (ตท.31) 4.พ.ท.วุฒิศักดิ์ สุนทรสุข ผช.นายทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง ทภ.3 (ตท.35) 5. พ.ท.มานิต สุรเสนา นักบิน 1 (นชท.21) 6.ร.อ.วรพงษ์ ช่างสลัก นักบิน 2 (ตท.46) 7.จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ ชรก.ผยย.ทภ.3 8.จ.ส.อ.พิรุณ แสนดอนคู่ ช่างเครื่อง และ 9.จ.ส.อ.สมภพ มาลัยวงษ์ ช่างเครื่อง (นชท.43)
ทั้งนี้ ก่อนที่คณะของ พล.ต.ทรงพล จะเดินทางมาปฏิบัติราชการที่ จทบ.พะเยา ได้นั่ง ฮ.ดังกล่าวลงตรวจราชการที่จังหวัดลำปาง เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันและได้รับประทานอาหารเที่ยงที่ค่ายฝึกรบพิเศษ ประตูผา มทบ.32 อ.เมือง จ.ลำปาง ก่อนที่จะเดินทางมาที่ จ.พะเยา จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นขณะที่กำลังจะเดินทางไป จ.เชียงราย
ด้าน นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การค้นหาผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ ซึ่งค่อนข้างลำบากเนื่องจากสภาพอากาศมืด อีกทั้งเศษซาก ฮ.ได้กระจัดกระจายไปทั่ว บางส่วนที่ติดอยู่กับตัวเครื่อง ก็ต้องใช้เครื่องตัดถ่างเข้าดำเนินการเพื่อค้นหา
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกองทัพภาคที่ 3 ยืนยันถึงกรณีที่เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ ฮ.ท.212 ของกองทัพภาคที่ 3 ประสบอุบัติเหตุตกว่า ขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 3 กำลังตรวจสอบรายละเอียดในพื้นที่ เบื้องต้นทราบว่ามีเฮลิคอปเตอร์ตกและไฟลุกไหม้ทั้งลำจริง ภายหลังยกตัวจากกรมทหารราบที่ 17 จ.พะเยา เพื่อไปภารกิจที่ จ.เชียงราย โดยภายในเครื่องมีนักบิน 2 นาย ช่างเครื่อง 2 นาย และผู้โดยสาร 5 นาย ซึ่ง 1 ใน 5 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3
ด้าน พ.อ.บรรณวัฒณ์ พรมจันทร์ ผบ.กรมทหารราบที่ 17 กล่าวว่า คณะของรองแม่ทัพภาคที่ 3 กำลังจะเดินทางไปราชการที่ จ.เชียงรายต่อ โดยจะไปพักค้างที่ จ.เชียงราย เพื่อจะได้ตรวจงานที่ จ.เชียงรายในวันที่ 18 พ.ย. แต่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน โดยทาง พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 จะเดินทางเข้าที่เกิดเหตุในวันนี้ พร้อมคณะพิสูจน์ทราบเพื่อหาสาเหตุการตกของเครื่องบินที่แท้จริง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอให้แม่ทัพภาคเป็นผู้ให้รายละเอียด
ขณะที่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ทางด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ได้รับทราบรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ได้สั่งการให้ กองทัพภาคที่3 และหน่วยในพื้นที่ดูแลและค้นหาคณะนายทหารในอากาศยานให้พบทุกนาย ขณะเดียวกันให้ชุดค้นหาและช่วยเหลือปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมทั้งได้ให้คณะกรรมการนิรภัยการบิน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสาเหตุโดยละเอียดและดำเนินการต่ออากาศยานดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป
“เมื่อเวลา 20.15 น.ได้พบร่างของทุกท่านแล้วทั้ง 9 นายกำลังลำเลียงศพไปยัง รพ.พะเยา เพื่อพิสูจน์ตัวบุคลต่อไป ส่วนในคืนนี้กรมทหารราบที่ 17 จังหวัดทหารบกพะเยา และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 17 จะจัดกำลังเฝ้าพื้นที่เกิดเหตุและอากาศยาน โดยในวันที่ 18 พ.ย. แม่ทัพภาคที่ 3 จะเดินทางมาที่จังหวัดทหารบกพะเยาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์และดูแลการดำเนินการทั้งปวงต่อนายทหารที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยกองทัพบกขอขอบคุณหลายหน่วยงายที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือและค้นหาพร้อมอำนวยความสะดวกจนเหตุการณ์ในครั้งนี้คลี่คลายลง” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.ส.อ.อนันต์ หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่ร่วมเดินทางไปกับคณะของรองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ "อนันต์ ชมเชียงคำ" เมื่อประมาณ 10 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ หรือประมาณช่วงเช้าก่อนออกปฏิบัติภารกิจในวันนี้ว่า “ได้เวลา เย้ยฟ้า ท้าลมหนาว อีกแล้ว.....ฮ.เก่า นักบินใหม่....อากาศปิด ประตูนรกเปิด...” ด้วย
ขณะเดียวกันในโลกสังคมออนไลน์ ก็กำลังมีการแชร์ภาพภารกิจสุดท้ายก่อนเสียชีวิตของคณะรองแม่ทัพภาคที่ 3 ขณะปฏิบัติภารกิจที่ ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช ร.17 โดยมีผู้เข้ามาเขียนข้อความไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก
