00 จะเรียกว่าแฉรายวันก็ว่าได้ สำหรับอดีตขุนคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และแน่นอนว่าหลักฐานที่นำออกมาเผยแพร่ ทำเอาปตท.สะเทือน ภาพลักษณ์ที่สร้าง "ผ่านสื่อ" ก็ถูกเปิดโปงออกมาให้เห็นภาพอีกด้าน จนได้เห็นตัวตนแท้จริง ในแง่มุมที่หลายคนไม่เคยรู้ และด้วยสถานะที่เคยเป็นขุนคลังดังกล่าวนี่แหละ มันทำให้สังคมได้รับรู้ที่รัฐ "เคยรวมหัวกันปกปิด" ให้ได้รู้ และมีน้ำหนัก เพิ่มขึ้นไปอีก เพราะนี่คืออดีตคน"วงใน" ออกมาแฉเอง
00 เรื่องที่น่าติดตามแบบอย่ากระพริบตาก็คือ ข้อมูลที่อ้างว่า ปตท.หมกเม็ด เล่นตุกติก ยังคืนท่อก๊าซให้รัฐไม่ครบตามคำสั่งศาลปกครอง โดยอ้างอิงหนังสือท้วงติงจาก สตง. ที่ลงนามโดย คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑะกา ผู้ว่าฯสตง.ในสมัยนั้น ถึงสามครั้งส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นั่นคือ ทั้ง ปตท.โดยมีผู้บริหารระดับผู้อำนวยการสำนักงานเป็นผู้เซ็นรับทราบหนังสือ ถัดมาสตง.ก็ยื่นหนังสือไปที่ประธานวุฒิสภา ปลัดกระทรวงการคลัง จนกระทั่งปี 54 สตง. ก็ทำหนังสือไปถึงประธานสภาผู้แทนฯให้ดำเนินการ แต่เรื่องก็เงียบ พร้อมตั้งคำถามว่า ปตท.มีเจตนาปกปิดความจริงกับศาลหรือไม่ เพราะได้แจ้งว่าได้คืนท่อก๊าซตามคำสั่งครบถ้วนแล้ว แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ต้องพิสูจน์ความจริงกันให้ได้ แต่ข้อสังเกตก็คือ ที่ผ่านมาสตง.เป็นหน่วยงานที่ตรวจบัญชีของปตท. มาตลอดตั้งแต่ก่อนแปรรูป จึงรู้ดีถึงเรื่องทรัพย์สินทุกอย่าง ทุกเม็ด !!
00 ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า ปตท.ในยุคของ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นประธานบอร์ด พร้อมคณะรวม 15 คน รุมฟ้อง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อ้างว่าทำให้ปตท.เสียหาย แต่ขณะเดียวกันนี่ก็เป็นการพิสูจน์ความจริงกันอีกทางหนึ่งว่า ใครหมกเม็ด ใครปิดบังความจริงกันแน่ เพราะงานนี้ถือว่าต้องพิสูจน์กันด้วยหลักฐาน
00 สำหรับ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ต้องบอกว่าเป็นตัวละครสำคัญ เพราะการที่เคยอยู่ร่วมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะ"ขุนคลัง" มาก่อน ย่อมมีข้อมูลอยู่ในมือเป็นกะตั๊ก เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่แฉข้อมูลเรื่องจำนำข้าว ทำเอา "เสี่ยโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ในเวลานั้นเสียศูนย์ และล่าสุดเพิ่งงัดหลักฐาน เผยข้อมูลความไม่ชอบมาพากลในการเสนอแก้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เมื่อปี 50 ในสมัย ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นรมว.พลังงาน ในรัฐบาลขิงแก่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ถูกตั้งคำถามว่า ต้องการช่วยเหลือบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งคือ "เพิร์ลออยล์ฯ" ให้พ้นผิด นั่นคือแก้ไขให้ไม่ต้อง กำหนดเพดานพื้นที่สัมปทาน จากไม่เกิน 2 หมื่นตารางกม. เป็นไม่จำกัด และทำให้ยืนยันได้มากยิ่งขึ้นว่า บริษัทเพิร์ลออยล์ ดังกล่าวเชื่อมโยงกับ "คนแดนใกล" แม้จะไม่ระบุชื่อ ก็น่าจะหมายถึง "ทักษิณ ชินวัตร" นั่นแหละ เพราะบริษัทดังกล่าว มีสำนักงานอยู่ที่ "ตึกชินวัตรสาม" และได้รับสัมปทานขุดเจาะปิโตรเลียมในอ่าวไทย "แหล่งนงเยาว์" เริ่มดำเนินการเชิงพานิชย์ในต้นปีหน้า ตามที่เคยมีข่าวฮือฮา อื้อฉาว เมื่อต้นปีนี้นั่นแหละ เพียงแต่ว่านี่คือข้อมูลจาก"วงใน" อีกด้านหนึ่งมายืนยัน ขณะเดียวกัน อีกมุมหนึ่งทำให้ต่อจิ๊กซอร์ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า แท้จริงแล้วทั้ง ปิยสวัสดิ์ ทุนพลังงาน แม้ว คสช. เป็นพวกเดียวกันหรือไม่ เป็นคำถามที่ต้องได้รับคำตอบ !!
00 งานนี้จะเรียกว่า"เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" ก็ว่าได้ สำหรับคำสั่ง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เด้งฟ้าผ่า ผบช.ก. พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ และ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ เข้ากรุสตช. ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.เป็นต้นไป น่าสนใจตรงที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ว่ากันว่ามีแบ็กไม่ธรรมดา ในวงการรับรู้กันมาอย่างนั้น แต่เมื่อผลออกมาอย่างที่เห็น มันก็ย่อม"ไม่ธรรมดากว่า" แน่นอน !!
00 เรื่องที่น่าติดตามแบบอย่ากระพริบตาก็คือ ข้อมูลที่อ้างว่า ปตท.หมกเม็ด เล่นตุกติก ยังคืนท่อก๊าซให้รัฐไม่ครบตามคำสั่งศาลปกครอง โดยอ้างอิงหนังสือท้วงติงจาก สตง. ที่ลงนามโดย คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑะกา ผู้ว่าฯสตง.ในสมัยนั้น ถึงสามครั้งส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นั่นคือ ทั้ง ปตท.โดยมีผู้บริหารระดับผู้อำนวยการสำนักงานเป็นผู้เซ็นรับทราบหนังสือ ถัดมาสตง.ก็ยื่นหนังสือไปที่ประธานวุฒิสภา ปลัดกระทรวงการคลัง จนกระทั่งปี 54 สตง. ก็ทำหนังสือไปถึงประธานสภาผู้แทนฯให้ดำเนินการ แต่เรื่องก็เงียบ พร้อมตั้งคำถามว่า ปตท.มีเจตนาปกปิดความจริงกับศาลหรือไม่ เพราะได้แจ้งว่าได้คืนท่อก๊าซตามคำสั่งครบถ้วนแล้ว แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ต้องพิสูจน์ความจริงกันให้ได้ แต่ข้อสังเกตก็คือ ที่ผ่านมาสตง.เป็นหน่วยงานที่ตรวจบัญชีของปตท. มาตลอดตั้งแต่ก่อนแปรรูป จึงรู้ดีถึงเรื่องทรัพย์สินทุกอย่าง ทุกเม็ด !!
00 ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า ปตท.ในยุคของ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นประธานบอร์ด พร้อมคณะรวม 15 คน รุมฟ้อง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อ้างว่าทำให้ปตท.เสียหาย แต่ขณะเดียวกันนี่ก็เป็นการพิสูจน์ความจริงกันอีกทางหนึ่งว่า ใครหมกเม็ด ใครปิดบังความจริงกันแน่ เพราะงานนี้ถือว่าต้องพิสูจน์กันด้วยหลักฐาน
00 สำหรับ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ต้องบอกว่าเป็นตัวละครสำคัญ เพราะการที่เคยอยู่ร่วมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะ"ขุนคลัง" มาก่อน ย่อมมีข้อมูลอยู่ในมือเป็นกะตั๊ก เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่แฉข้อมูลเรื่องจำนำข้าว ทำเอา "เสี่ยโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ในเวลานั้นเสียศูนย์ และล่าสุดเพิ่งงัดหลักฐาน เผยข้อมูลความไม่ชอบมาพากลในการเสนอแก้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เมื่อปี 50 ในสมัย ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นรมว.พลังงาน ในรัฐบาลขิงแก่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ถูกตั้งคำถามว่า ต้องการช่วยเหลือบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งคือ "เพิร์ลออยล์ฯ" ให้พ้นผิด นั่นคือแก้ไขให้ไม่ต้อง กำหนดเพดานพื้นที่สัมปทาน จากไม่เกิน 2 หมื่นตารางกม. เป็นไม่จำกัด และทำให้ยืนยันได้มากยิ่งขึ้นว่า บริษัทเพิร์ลออยล์ ดังกล่าวเชื่อมโยงกับ "คนแดนใกล" แม้จะไม่ระบุชื่อ ก็น่าจะหมายถึง "ทักษิณ ชินวัตร" นั่นแหละ เพราะบริษัทดังกล่าว มีสำนักงานอยู่ที่ "ตึกชินวัตรสาม" และได้รับสัมปทานขุดเจาะปิโตรเลียมในอ่าวไทย "แหล่งนงเยาว์" เริ่มดำเนินการเชิงพานิชย์ในต้นปีหน้า ตามที่เคยมีข่าวฮือฮา อื้อฉาว เมื่อต้นปีนี้นั่นแหละ เพียงแต่ว่านี่คือข้อมูลจาก"วงใน" อีกด้านหนึ่งมายืนยัน ขณะเดียวกัน อีกมุมหนึ่งทำให้ต่อจิ๊กซอร์ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า แท้จริงแล้วทั้ง ปิยสวัสดิ์ ทุนพลังงาน แม้ว คสช. เป็นพวกเดียวกันหรือไม่ เป็นคำถามที่ต้องได้รับคำตอบ !!
00 งานนี้จะเรียกว่า"เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" ก็ว่าได้ สำหรับคำสั่ง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เด้งฟ้าผ่า ผบช.ก. พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ และ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ เข้ากรุสตช. ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.เป็นต้นไป น่าสนใจตรงที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ว่ากันว่ามีแบ็กไม่ธรรมดา ในวงการรับรู้กันมาอย่างนั้น แต่เมื่อผลออกมาอย่างที่เห็น มันก็ย่อม"ไม่ธรรมดากว่า" แน่นอน !!