ศาลอาญา รับคำฟ้องจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เป็นโจทย์ยื่นร้องเรียนกรณี วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก(จำกัด) แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฯก่อนยื่นจดทะเบียนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พร้อมนัดเรียกสืบพยานวันที่ 26 มกราคม ปีหน้า
ควันหลงการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย แม้ นายวรวีร์ มะกูดี จะได้นั่งแท่นนายใหญ่ลูกหนังไทย เป็นสมัยที่ 4 พร้อมชนะคดีที่ศาลกีฬาโลก หรือ “ซีเอเอส” เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ล่าสุด ศาลอาญา ได้รับคำฟ้องที่ บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด จำกัด ฯ เป็นโจทก์ยื่นร้องเรียนกรณีที่ บังยี แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฯก่อนยื่นจดทะเบียนกับศาลปกครอง
โดยในคดีหมายเลขดำที่ อ. 4117/2556 บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด จำกัด ฯ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวรวีร์ มะกูดี เป็นจำเลยที่ 1 และ นายองอาจ ก่อสินค้า เป็นจำเลยที่ 2 กรณีที่จำเลยทั้งสองไปยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนสมาคม แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับตามมติที่ประชุมใหญ่ เกี่ยวกับ 1.จำนวนสมาชิกที่จะถือเป็นองค์ประชุม ในที่ประชุมใหญ่จากมติที่แท้จริงมีจำนวน “ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด” โดยเพิ่มเติมเป็นว่า “...หรือไม่น้อยกว่าห้าสิบ(๕๐)คนจึงจะเป็นองค์ประชุม...”
และ 2.เรื่องสิทธิประโยชน์จากมติที่ประชุมใหญ่ที่แท้จริงได้ตกลงให้ทั้งสมาคมและมีสมาชิก คือ เป็นเจ้าของสิทธิทั้งหมดในการจัดการแข่งขัน โดยตัดทอนคำว่าสมาชิกออกไป โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากมติที่ประชุมใหญ่
ล่าสุดศาลได้ พิเคราะห์พยานหลักฐาน ที่โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งเบิกความพยานโจทก์ ประกอบเอกสารหมาย จ.๑-๖ แล้วเห็นว่าคดีมีมูลตาม ปอ.ม.264,265,267,268 ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา หมายเรียกจำเลยทั้งสองมาให้การแก้ข้อกล่าวหาแห่งคดี พร้อมกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยาน 26 มกราคม 2558 เวลา 9.00 นาฬิกา ให้โจทก์นำส่งหมายเรียก การส่งไม่มีผู้รับให้ปิด
อย่างไรก็ตามมีรายงานเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ศาลได้รับคำฟ้องในคดีเดียวกันนี้ของสโมสรพัทยา เอฟซี แล้วเช่นกัน ซึ่ง นายวรวีร์ และ นายองอาจ ได้ขอยื่นประกันตัวด้วยวงเงิน 2 แสนบาท.
ควันหลงการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย แม้ นายวรวีร์ มะกูดี จะได้นั่งแท่นนายใหญ่ลูกหนังไทย เป็นสมัยที่ 4 พร้อมชนะคดีที่ศาลกีฬาโลก หรือ “ซีเอเอส” เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ล่าสุด ศาลอาญา ได้รับคำฟ้องที่ บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด จำกัด ฯ เป็นโจทก์ยื่นร้องเรียนกรณีที่ บังยี แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฯก่อนยื่นจดทะเบียนกับศาลปกครอง
โดยในคดีหมายเลขดำที่ อ. 4117/2556 บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด จำกัด ฯ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวรวีร์ มะกูดี เป็นจำเลยที่ 1 และ นายองอาจ ก่อสินค้า เป็นจำเลยที่ 2 กรณีที่จำเลยทั้งสองไปยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนสมาคม แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับตามมติที่ประชุมใหญ่ เกี่ยวกับ 1.จำนวนสมาชิกที่จะถือเป็นองค์ประชุม ในที่ประชุมใหญ่จากมติที่แท้จริงมีจำนวน “ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด” โดยเพิ่มเติมเป็นว่า “...หรือไม่น้อยกว่าห้าสิบ(๕๐)คนจึงจะเป็นองค์ประชุม...”
และ 2.เรื่องสิทธิประโยชน์จากมติที่ประชุมใหญ่ที่แท้จริงได้ตกลงให้ทั้งสมาคมและมีสมาชิก คือ เป็นเจ้าของสิทธิทั้งหมดในการจัดการแข่งขัน โดยตัดทอนคำว่าสมาชิกออกไป โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากมติที่ประชุมใหญ่
ล่าสุดศาลได้ พิเคราะห์พยานหลักฐาน ที่โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งเบิกความพยานโจทก์ ประกอบเอกสารหมาย จ.๑-๖ แล้วเห็นว่าคดีมีมูลตาม ปอ.ม.264,265,267,268 ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา หมายเรียกจำเลยทั้งสองมาให้การแก้ข้อกล่าวหาแห่งคดี พร้อมกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยาน 26 มกราคม 2558 เวลา 9.00 นาฬิกา ให้โจทก์นำส่งหมายเรียก การส่งไม่มีผู้รับให้ปิด
อย่างไรก็ตามมีรายงานเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ศาลได้รับคำฟ้องในคดีเดียวกันนี้ของสโมสรพัทยา เอฟซี แล้วเช่นกัน ซึ่ง นายวรวีร์ และ นายองอาจ ได้ขอยื่นประกันตัวด้วยวงเงิน 2 แสนบาท.