พิจิตร - เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ มีบัญชาสั่งปลดเจ้าอาวาส “วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน” แล้ว หลังเกิดปัญหาเรื้อรังมานานปี จนสอบพบนำเงินวัดไปเล่นหุ้นกว่า 40 ล้านบาท แถมมีเรื่องราวฟ้องร้องกับชาวบ้านในพื้นที่จนเรื่องอยู่ในศาลถึง 28 คดี ทำศรัทธาแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่ามานาน
วานนี้(11 พ.ย.) พระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ได้ลงนามในหหนังสือคำสั่งปลดพระครูวิสิฐสีลาภาณ์ เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว
พร้อมส่งเป็นหนังสือที่มีข้อความระบุว่า เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้มีบัญชาให้เจ้าคณะภาค พร้อมคณะกรรมการ ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ถูกร้องเรียนว่า ประพฤติตนไม่เหมาะสมต่อสมณเพศ และการใช้จ่ายเงินของวัด เป็นที่เคลือบแคลง ไม่โปร่งใสหลายด้าน
ในการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เจ้าคณะใหญ่หนเหนือพิจารณาแล้วเห็นชอบตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ โดยให้เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ดำเนินการออกคำสั่งให้พระครูวิสิฐสีลาภาณ์ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ตามความข้อที่ 36 (7)และข้อที่ 11 ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 ( พ.ศ.2541)ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับที่ 2)พ.ส.2535 ดังปรากฏตามคำสั่งที่แนบมาพร้อมกับหนังสือนี้
จึงให้เจ้าคณะอำเภอฯได้นำคำสั่งแจ้งแก่พระครูวิสิฐสีลาภาณ์ และพระภิกษุ สามเณร ทายก ทายิกาแห่งวัดหิรัญญาราม ตลอดจนให้ผู้ที่พ้นหน้าที่เจ้าอาวาสดังกล่าว ส่งมอบงานเอกสารและอื่นๆให้แก่ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญารามต่อไป
สำหรับสาเหตุของการปลดพระครูวิสิฐสีลาภาณ์ เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานนั้น เนื่องจากตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ก็ถูกอดีตไวยาวัจกร ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และชาวบ้านอีกหลายคนร้องเรียนว่า บริหารการเงินของวัดไม่โปร่งใส จากนั้นเจ้าอาวาส ก็มีการฟ้องร้องกลุ่มบุคคลดังกล่าว จนเป็นคดีในชั้นศาลถึง 28 คดี
ต่อมาได้มีการเผชิญสืบ จนพบมูลความจริงว่า เงินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ถูกนำไปเล่นหุ้นถึง 40 ล้านบาท อีกทั้งทำให้ชาวบ้านนับร้อยคนต้องแบ่งเป็นหลายพวกหลายฝ่าย มาขึ้นศาลเบิกความ จึงเป็นเหตุแตกแยกระหว่างวัดกับญาติโยม ซึ่งมีการร้องเรียนกันมาหลายปี ผ่านเจ้าคณะจังหวัด มาแล้วถึง 4 รูป ก็ไม่มีพระชั้นผู้ใหญ่กล้าออกมาชี้ขาดจนเป็นผลให้เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์หลวงพ่อเงิน ที่เป็นพระศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศต้องพลอยด่างพร้อยนานเรื่อยมา จนระยะหลังชาวบ้านเข้าวัดทำบุญที่วัดหลวงพ่อเงินบางคลานน้อยลง แต่คนกลับหันมาบูชาพระเครื่องหลวงพ่อเงินกันมากขึ้นแทน
กระทั่งชาวบ้านที่เคยสนิทชิดเชื้อ และใกล้ชิดกับพระในวัดบางคลาน ออกมาร้องเรียนและแฉข้อมูลให้กลับคณะกรรมการสงฆ์ จากนั้นก็ได้มีการเปิดประชุมพิจารณาโดยเชิญผู้มีความรู้ทางด้านกฎหมายหลายฝ่ายมาประชุมร่วม ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 เดือน ในการอ่านสำนวน จนในที่สุดก็ได้มีคำสั่งปลดเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จ.พิจิตร ดังกล่าว
หลังจากชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ทราบข่าวต่างยกมือสาธุว่า วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จะได้สงบเสียทีและทุกฝ่ายน่าจะได้ช่วยกันกอบกู้ชื่อเสียง และศรัทธาที่ประชาชนมีต่อหลวงพ่อเงิน ให้กลับคืนมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงมีบางกลุ่มออกมาปลุกปั่นกล่าวโจมตีว่า คำตัดสินดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นธรรม เจ้าอาวาสรูปนี้เป็นพระดี แต่ถูกกลั่นแกล้ง จึงทำให้วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน วุ่นวายไม่จบอยู่.
วานนี้(11 พ.ย.) พระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ได้ลงนามในหหนังสือคำสั่งปลดพระครูวิสิฐสีลาภาณ์ เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว
พร้อมส่งเป็นหนังสือที่มีข้อความระบุว่า เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้มีบัญชาให้เจ้าคณะภาค พร้อมคณะกรรมการ ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ถูกร้องเรียนว่า ประพฤติตนไม่เหมาะสมต่อสมณเพศ และการใช้จ่ายเงินของวัด เป็นที่เคลือบแคลง ไม่โปร่งใสหลายด้าน
ในการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เจ้าคณะใหญ่หนเหนือพิจารณาแล้วเห็นชอบตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ โดยให้เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ดำเนินการออกคำสั่งให้พระครูวิสิฐสีลาภาณ์ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ตามความข้อที่ 36 (7)และข้อที่ 11 ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 ( พ.ศ.2541)ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับที่ 2)พ.ส.2535 ดังปรากฏตามคำสั่งที่แนบมาพร้อมกับหนังสือนี้
จึงให้เจ้าคณะอำเภอฯได้นำคำสั่งแจ้งแก่พระครูวิสิฐสีลาภาณ์ และพระภิกษุ สามเณร ทายก ทายิกาแห่งวัดหิรัญญาราม ตลอดจนให้ผู้ที่พ้นหน้าที่เจ้าอาวาสดังกล่าว ส่งมอบงานเอกสารและอื่นๆให้แก่ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญารามต่อไป
สำหรับสาเหตุของการปลดพระครูวิสิฐสีลาภาณ์ เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานนั้น เนื่องจากตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ก็ถูกอดีตไวยาวัจกร ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และชาวบ้านอีกหลายคนร้องเรียนว่า บริหารการเงินของวัดไม่โปร่งใส จากนั้นเจ้าอาวาส ก็มีการฟ้องร้องกลุ่มบุคคลดังกล่าว จนเป็นคดีในชั้นศาลถึง 28 คดี
ต่อมาได้มีการเผชิญสืบ จนพบมูลความจริงว่า เงินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ถูกนำไปเล่นหุ้นถึง 40 ล้านบาท อีกทั้งทำให้ชาวบ้านนับร้อยคนต้องแบ่งเป็นหลายพวกหลายฝ่าย มาขึ้นศาลเบิกความ จึงเป็นเหตุแตกแยกระหว่างวัดกับญาติโยม ซึ่งมีการร้องเรียนกันมาหลายปี ผ่านเจ้าคณะจังหวัด มาแล้วถึง 4 รูป ก็ไม่มีพระชั้นผู้ใหญ่กล้าออกมาชี้ขาดจนเป็นผลให้เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์หลวงพ่อเงิน ที่เป็นพระศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศต้องพลอยด่างพร้อยนานเรื่อยมา จนระยะหลังชาวบ้านเข้าวัดทำบุญที่วัดหลวงพ่อเงินบางคลานน้อยลง แต่คนกลับหันมาบูชาพระเครื่องหลวงพ่อเงินกันมากขึ้นแทน
กระทั่งชาวบ้านที่เคยสนิทชิดเชื้อ และใกล้ชิดกับพระในวัดบางคลาน ออกมาร้องเรียนและแฉข้อมูลให้กลับคณะกรรมการสงฆ์ จากนั้นก็ได้มีการเปิดประชุมพิจารณาโดยเชิญผู้มีความรู้ทางด้านกฎหมายหลายฝ่ายมาประชุมร่วม ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 เดือน ในการอ่านสำนวน จนในที่สุดก็ได้มีคำสั่งปลดเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จ.พิจิตร ดังกล่าว
หลังจากชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ทราบข่าวต่างยกมือสาธุว่า วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จะได้สงบเสียทีและทุกฝ่ายน่าจะได้ช่วยกันกอบกู้ชื่อเสียง และศรัทธาที่ประชาชนมีต่อหลวงพ่อเงิน ให้กลับคืนมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงมีบางกลุ่มออกมาปลุกปั่นกล่าวโจมตีว่า คำตัดสินดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นธรรม เจ้าอาวาสรูปนี้เป็นพระดี แต่ถูกกลั่นแกล้ง จึงทำให้วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน วุ่นวายไม่จบอยู่.