วานนี้ (10 พ.ย.) เวลา 08.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับ นายปีเตอร์ โอนีล นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 22 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน หลังเสร็จสิ้นการหารือ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือ สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้มีพระพลามัยสมบูรณ์แข็งแรง และยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าพบหารือกับไทยในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนระหว่างกัน
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณที่สนับสนุนไทยด้วยดีมาโดยตลอด ในฐานะปาปัวนิวกินี เป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก และเป็นแหล่งทูน่าที่สำคัญ สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจนั้น ปาปัวนิวกินี อาจส่งคณะผู้แทนระดับสูงพร้อมนำคณะนักธุรกิจเยือนไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจ ด้านการค้า การลงทุน ประมง ไทยยังยินดีในโอกาสที่ปาปัวนิวกินี จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ในปี 2018 ไทยพร้อมให้ความสนับสนุนด้วย สำหรับการท่องเที่ยว ไทยและปาปัวนิวกินี ต่างป็นประเทศที่มีทัศนียภาพสวยงาม ทั้งสองประเทศต่างมีศักยภาพในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน
**"หัวเว่ย"หนุนไทยเป็นIT Hubของภูมิภาค
ต่อมาเวลา 08.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกับ นายหยาง ฉู่ กรรมการผู้จัดการบริษัท Huawei Technologies ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีบุคคลระดับสูง อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ว่า นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ ที่ยึดหลักการค้าการลงทุนเสรี โดยรัฐบาลจะดำเนินมาตรการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุน โดยเน้นแนวทาง ดังนี้ ส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนา ส่งเสริมการจ้างคนไทยตั้งแต่ระดับการปฎิบัติถึงระดับบริหาร สนับสนุนการสร้างห่วงโซ่กับ SMEs ของไทยกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีการปรับสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของไทย
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า อยากเห็นการลงทุนจากต่างประเทศที่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างงาน ให้มีการกระจายรายได้ และส่งเสริมให้มีการใช้สินค้าและวัตถุติบภายในประเทศ โดยอุตสาหกรรที่รัฐบาลให้การสนับสนุน อาทิ พลังงาน โทรคมนาคม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิตอล ในอนาคต หัวเห่ย สนใจในการลงทุนการพัฒนา Broadband อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท มีความยินดีที่จะปรับนโยบายให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริม R & D พัฒนาทักษะด้านบุคคลากร ทั้งนี้ เชื่อว่าภายใต้การบริหารของรัฐบาลไทยสามารถพัฒนาสู่ความเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Hub) ของภูมิภาคได้
** "ประวิตร"ถกรถไฟความเร็วสูงญี่ปุ่น
วานนี้ (10 พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ว่า ตนได้เดินทางไปตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และในฐานะ รมว.กลาโหม โดยได้ไปดำเนินการเรื่องความมั่นคง และได้เข้าพบรมว.กลาโหม ของญี่ปุ่น เพื่อพูดคุยถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความร่วมมือการฝึก ศึกษา และการแลกเปลี่ยนการเยือนผู้นำระดับเหล่าทัพ ตลอดจนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งทางญี่ปุ่นได้ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ทางเราก็ต้องการให้คนของเราไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อร่วมมือกันดำเนินการให้กอง ทัพมีความเข้มแข็ง
นอกจากนี้ ตนยังได้เข้าพบ รมว.หลายกระทรวง รวมถึงนักธุรกิจ โดยได้มีการชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทยให้ได้เข้าใจว่า กำลังดำเนินการอะไรอยู่ และที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ซึ่งเขาเข้าใจเป็นอย่างดี และยืนยันถึงความร่วมมือ
สำหรับเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้น ก็ได้มีการพูดคุยกัน รวมทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทั้งหมด ที่ได้ร่วมมือกันและสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ยังต้องมีรายละเอียดที่จะต้องพูดคุยกันต่อไป
นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้มีพระพลามัยสมบูรณ์แข็งแรง และยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าพบหารือกับไทยในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนระหว่างกัน
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณที่สนับสนุนไทยด้วยดีมาโดยตลอด ในฐานะปาปัวนิวกินี เป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก และเป็นแหล่งทูน่าที่สำคัญ สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจนั้น ปาปัวนิวกินี อาจส่งคณะผู้แทนระดับสูงพร้อมนำคณะนักธุรกิจเยือนไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจ ด้านการค้า การลงทุน ประมง ไทยยังยินดีในโอกาสที่ปาปัวนิวกินี จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ในปี 2018 ไทยพร้อมให้ความสนับสนุนด้วย สำหรับการท่องเที่ยว ไทยและปาปัวนิวกินี ต่างป็นประเทศที่มีทัศนียภาพสวยงาม ทั้งสองประเทศต่างมีศักยภาพในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน
**"หัวเว่ย"หนุนไทยเป็นIT Hubของภูมิภาค
ต่อมาเวลา 08.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกับ นายหยาง ฉู่ กรรมการผู้จัดการบริษัท Huawei Technologies ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีบุคคลระดับสูง อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ว่า นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ ที่ยึดหลักการค้าการลงทุนเสรี โดยรัฐบาลจะดำเนินมาตรการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุน โดยเน้นแนวทาง ดังนี้ ส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนา ส่งเสริมการจ้างคนไทยตั้งแต่ระดับการปฎิบัติถึงระดับบริหาร สนับสนุนการสร้างห่วงโซ่กับ SMEs ของไทยกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีการปรับสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของไทย
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า อยากเห็นการลงทุนจากต่างประเทศที่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างงาน ให้มีการกระจายรายได้ และส่งเสริมให้มีการใช้สินค้าและวัตถุติบภายในประเทศ โดยอุตสาหกรรที่รัฐบาลให้การสนับสนุน อาทิ พลังงาน โทรคมนาคม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิตอล ในอนาคต หัวเห่ย สนใจในการลงทุนการพัฒนา Broadband อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท มีความยินดีที่จะปรับนโยบายให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริม R & D พัฒนาทักษะด้านบุคคลากร ทั้งนี้ เชื่อว่าภายใต้การบริหารของรัฐบาลไทยสามารถพัฒนาสู่ความเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Hub) ของภูมิภาคได้
** "ประวิตร"ถกรถไฟความเร็วสูงญี่ปุ่น
วานนี้ (10 พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ว่า ตนได้เดินทางไปตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และในฐานะ รมว.กลาโหม โดยได้ไปดำเนินการเรื่องความมั่นคง และได้เข้าพบรมว.กลาโหม ของญี่ปุ่น เพื่อพูดคุยถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความร่วมมือการฝึก ศึกษา และการแลกเปลี่ยนการเยือนผู้นำระดับเหล่าทัพ ตลอดจนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งทางญี่ปุ่นได้ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ทางเราก็ต้องการให้คนของเราไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อร่วมมือกันดำเนินการให้กอง ทัพมีความเข้มแข็ง
นอกจากนี้ ตนยังได้เข้าพบ รมว.หลายกระทรวง รวมถึงนักธุรกิจ โดยได้มีการชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทยให้ได้เข้าใจว่า กำลังดำเนินการอะไรอยู่ และที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ซึ่งเขาเข้าใจเป็นอย่างดี และยืนยันถึงความร่วมมือ
สำหรับเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้น ก็ได้มีการพูดคุยกัน รวมทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทั้งหมด ที่ได้ร่วมมือกันและสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ยังต้องมีรายละเอียดที่จะต้องพูดคุยกันต่อไป