ASTVผู้จัดการรายวัน – ธนาคารออมสินใจป้ำ จัดแพ็คเกจครบวงจร สินเชื่อเคหะ 0% สองรูปแบบทั้ง “สร้าง – ซื้อ” ดอกเบี้ย 0% 7 เดือน จากนั้น MLR-2.25% ระยะเวลา 17 เดือน และ MLR-1% ตั้งแต่ปี 3 กับ “สร้าง – ซื้อ – รีไฟแนนซ์-กู้เพิ่ม” ดอกเบี้ย 3% นาน 2 ปี จากนั้น MLR-0.50% ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ก่อน 30 ธันวาคมนี้ หวังลดค่าครองชีพประชาชน
นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออกสินเชื่อเคหะ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้คนไทย เป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย หรือไถ่ถอนจำนองเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้าน ซื้อบ้านหรือคอนโดมีเนียม รวมทั้งรีไฟแนนซ์ และกู้เพิ่มเติมเพื่อตกแต่งหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ณ สาขาของธนาคารออมสินทุกแห่งทั่วประเทศ
“ธนาคารเห็นว่าปัจจุบันคนไทยมีภาระค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดค่าใช้จ่าย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้คนไทยมีรอยยิ้มได้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่อยากสร้างเสริมความสุขให้คนไทยอย่างถ้วนหน้า” นายธัชพลกล่าว
ผู้สนใจสามารถเลือกใช้โปรแกรมอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะกับวัตถุประสงค์การกู้ 2 รูปแบบ คือ โปรแกรมแรก สร้างบ้าน ซื้อบ้านพร้อมที่ดิน หรือซื้อคอนโดมีเนียม ปีที่ 1 เริ่มต้นด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% เป็นเวลา 7 เดือน ต่อจากนั้น เดือนที่ 8-24 อัตราดอกเบี้ย MLR-2.25% (อัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารออมสินปัจจุบันอยู่ที่ 6.875% ต่อปี) หลังจากนั้น ปีที่ 3 จนครบสัญญา คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-1% ต่อปี (เฉลี่ย 3 ปี = 4.14% ต่อปี) โปรแกรมที่ 2 สร้างบ้าน ซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ซื้อคอนโดมีเนียม หรือรีไฟแนนซ์ และกู้เพิ่มเติม ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ปีที่ 3 เป็นต้นไปจนครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย MLR-0.5% ต่อปี (เฉลี่ย 3 ปี = 4.13% ต่อปี) โดยลูกค้าจะต้องจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มกราคม 2558
สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะจากสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ประสงค์จะขอใช้สินเชื่อเคหะกับธนาคารออมสิน จะต้องไม่ผิดนัดชำระกับสถาบันการเงินเดิม 1 ปี ไม่มีหนี้ค้างชำระ และเลือกใช้ได้เฉพาะโปรแกรมที่ 2 เท่านั้น พร้อมทั้งจะได้รับข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม คือ ธนาคารฯ ให้เงินกู้เท่ากับ 100% ของวงเงินสินเชื่อเดิม โดยหากเป็นลูกค้าจากสถาบันการเงินเดิมมาแล้วไม่เกิน 5 ปี ไม่ต้องประเมินราคาหลักทรัพย์ใหม่ ทั้งกรณีที่กู้เท่ากับภาระหนี้คงเหลือ หรือกรณีกู้มากกว่าภาระหนี้คงเหลือ และเรียกเก็บค่าตรวจสอบหลักประกันรายละ 1,000 บาท
กรณีเป็นลูกค้าจากสถาบันการเงินเดิมมาแล้วเกิน 5 ปี ธนาคารฯ จะประเมินราคาหลักทรัพย์ใหม่เฉพาะกรณีที่กู้มากกว่าภาระหนี้คงเหลือ ทั้งนี้ สามารถกู้ได้ 90% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ใหม่ แต่ต้องไม่เกิน 90% ของวงเงินกู้ตามสัญญาเดิม.
นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออกสินเชื่อเคหะ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้คนไทย เป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย หรือไถ่ถอนจำนองเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้าน ซื้อบ้านหรือคอนโดมีเนียม รวมทั้งรีไฟแนนซ์ และกู้เพิ่มเติมเพื่อตกแต่งหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ณ สาขาของธนาคารออมสินทุกแห่งทั่วประเทศ
“ธนาคารเห็นว่าปัจจุบันคนไทยมีภาระค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดค่าใช้จ่าย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้คนไทยมีรอยยิ้มได้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่อยากสร้างเสริมความสุขให้คนไทยอย่างถ้วนหน้า” นายธัชพลกล่าว
ผู้สนใจสามารถเลือกใช้โปรแกรมอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะกับวัตถุประสงค์การกู้ 2 รูปแบบ คือ โปรแกรมแรก สร้างบ้าน ซื้อบ้านพร้อมที่ดิน หรือซื้อคอนโดมีเนียม ปีที่ 1 เริ่มต้นด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% เป็นเวลา 7 เดือน ต่อจากนั้น เดือนที่ 8-24 อัตราดอกเบี้ย MLR-2.25% (อัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารออมสินปัจจุบันอยู่ที่ 6.875% ต่อปี) หลังจากนั้น ปีที่ 3 จนครบสัญญา คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-1% ต่อปี (เฉลี่ย 3 ปี = 4.14% ต่อปี) โปรแกรมที่ 2 สร้างบ้าน ซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ซื้อคอนโดมีเนียม หรือรีไฟแนนซ์ และกู้เพิ่มเติม ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ปีที่ 3 เป็นต้นไปจนครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย MLR-0.5% ต่อปี (เฉลี่ย 3 ปี = 4.13% ต่อปี) โดยลูกค้าจะต้องจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มกราคม 2558
สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะจากสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ประสงค์จะขอใช้สินเชื่อเคหะกับธนาคารออมสิน จะต้องไม่ผิดนัดชำระกับสถาบันการเงินเดิม 1 ปี ไม่มีหนี้ค้างชำระ และเลือกใช้ได้เฉพาะโปรแกรมที่ 2 เท่านั้น พร้อมทั้งจะได้รับข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม คือ ธนาคารฯ ให้เงินกู้เท่ากับ 100% ของวงเงินสินเชื่อเดิม โดยหากเป็นลูกค้าจากสถาบันการเงินเดิมมาแล้วไม่เกิน 5 ปี ไม่ต้องประเมินราคาหลักทรัพย์ใหม่ ทั้งกรณีที่กู้เท่ากับภาระหนี้คงเหลือ หรือกรณีกู้มากกว่าภาระหนี้คงเหลือ และเรียกเก็บค่าตรวจสอบหลักประกันรายละ 1,000 บาท
กรณีเป็นลูกค้าจากสถาบันการเงินเดิมมาแล้วเกิน 5 ปี ธนาคารฯ จะประเมินราคาหลักทรัพย์ใหม่เฉพาะกรณีที่กู้มากกว่าภาระหนี้คงเหลือ ทั้งนี้ สามารถกู้ได้ 90% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ใหม่ แต่ต้องไม่เกิน 90% ของวงเงินกู้ตามสัญญาเดิม.