เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (3พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศได้ให้การต้อนรับนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่ขอพบเป็นการส่วนตัว เพื่อติดตามสถานการณ์ในไทย โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
ร.อ.นพ.ยงยุทธ์ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการหารือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้อธิบายถึงสถานการณ์ในประเทศช่วงที่ผ่านมาว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการในเรื่องการปฏิรูป การสร้างความปรองดองในประเทศ ซึ่งความขัดแย้งของไทยมีมานานกว่า10 ปี เป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชื่นชมบทบาทการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในประเทศไอแลนด์เหนือ ของนายโทนี แบลร์ ซึ่งมีแนวทางที่สร้างสรรค์ พร้อมทั้งให้ข้อคิดกับประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาช่วงที่ผ่านมาด้วย ซึ่งนายกฯได้ชี้แจงว่า รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมประชาธิปไตยให้มีความยั่งยืน โดยไม่มองข้ามหลักการสำคัญของประชาธิปไตย แต่ขณะนี้เราเข้ามาแก้ไขปัญหาที่ทำให้ประเทศต้องติดขัด ทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ การบริหารราชการแผ่นดิน ความขัดแย้งของประชาชน รวมถึงข้อติดขัดต่างๆ ในด้านกฎ กติกา ทางกฎหมายต่างๆ จึงจำเป็นที่ คสช. และรัฐบาล ต้องเข้ามาดำเนินการแก้ไข ซึ่งตอนนี้ระบบบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปตามปกติ สามารถผลักดันกลไกการทำงานของข้าราชการได้อย่างเต็มที่ หลังจากก่อนหน้านี้ ที่เกิดความขัดแย้งกระทบระบบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินติดขัด รัฐบาลและ คสช.จึงเข้าผลักดันให้สามารถเดินหน้าไปได้ และจัดทำงบประมาณ 2558 ได้อย่างเรียบร้อย ทั้งนี้ ในส่วนของการปฏิรูป11ด้านนั้น รัฐบาลมีเวลาจำกัด และต้องเน้นรักษาความสงบไม่ให้มีการใช้อาวุธสงครามระหว่างมวลชนสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยินดีรับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจาก นายโทนี่ แบลร์ และมิตรประเทศ ซึ่งนายโทนี่ แบลร์ ได้กล่าวขอบคุณฝ่ายไทยที่กรุณาตอบรับการมาเยือนของตนในช่วงเวลาอันสั้นเป็นอย่างดี พร้อมระบุว่า เข้าใจปัญหาที่ไทยเผชิญอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยหยุดชะงักการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจ ที่มีประชาชนออกมาประท้วงบนท้องถนน เกิดปัญหาความไม่มั่นคง และเห็นว่าการเมืองไทยไม่เหมือนที่อื่น ซึ่ง นายโทนี่ แบลร์ เคยศึกษาปัญหาประเทศไทยที่พบว่า มีการแตกแยก โดยเชื่อว่าประชาคมโลกอยากให้ประเทศไทย เดินหน้าเรื่องการเลือกตั้งในปี 2558 และยึดมั่นในสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง ยังฝากให้ประเทศไทยแก้ไขอุปสรรคทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศเดินหน้าและพยายามคืนสู่ประชาธิปไตย ซึ่งนายโทนี่ แบลร์ เข้าใจดีว่า ปัญหาของไทยมีความสลับซับซ้อนมาก และอยากให้รัฐบาลไทยอธิบายกับประเทศอื่นๆให้เข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายโทนี่ แบลร์ ได้มองปัญหาของไทยเป็นสองด้าน คือ ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม กับปัญหาเชิงการเมือง กระบวนการกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ โดยในส่วนปัญหาเศรษฐกิจและสังคมนั้น รัฐบาสลควรผลักดันเดินหน้าเศรษฐกิจ และเห็นว่ารัฐบาลปัจจุบันมีศักยภาพที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจ การศึกษา สาธารณะสุข และการเกษตร
ส่วนปัญหาด้านการเมืองนั้น นายโทนี่ แบลร์ ย้ำว่า อยากให้รัฐบาลไทยชี้แจงนานาประเทศถึงขั้นตอนที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเน้นถึงสถานการณ์ที่มีความสลับซับซ้อน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเวทีสากล และนำไปสู่ขั้นตอนต่อไปในการปฏิรูปประเทศ
ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้มีช่องทางประสานติดต่ออย่างไม่เป็นทางการกับ นายโทนี่ แบลร์ โดยผ่าน รมว.ต่างประเทศ เพื่อรับคำแนะนำต่างๆ ที่อาจจะมีเพิ่มเติมจากประสบการณ์ที่ศึกษามา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโทนี แบลร์ เคยมาเข้าร่วมเวทีปาฐกถาพิเศษ "Uniting for the Future : Learning from each other's experience" ครั้งที่ 1 หรือ "ผนึกกำลังสู่อนาคต : เรียนรู้ร่วมกันจากประสบการณ์" ตามคำเชิญของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 56 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลยิ่ง ลักษณ์ จัดเวทีระดมความเห็น สร้างความปรองดองของคนในชาติ
ร.อ.นพ.ยงยุทธ์ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการหารือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้อธิบายถึงสถานการณ์ในประเทศช่วงที่ผ่านมาว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการในเรื่องการปฏิรูป การสร้างความปรองดองในประเทศ ซึ่งความขัดแย้งของไทยมีมานานกว่า10 ปี เป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชื่นชมบทบาทการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในประเทศไอแลนด์เหนือ ของนายโทนี แบลร์ ซึ่งมีแนวทางที่สร้างสรรค์ พร้อมทั้งให้ข้อคิดกับประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาช่วงที่ผ่านมาด้วย ซึ่งนายกฯได้ชี้แจงว่า รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมประชาธิปไตยให้มีความยั่งยืน โดยไม่มองข้ามหลักการสำคัญของประชาธิปไตย แต่ขณะนี้เราเข้ามาแก้ไขปัญหาที่ทำให้ประเทศต้องติดขัด ทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ การบริหารราชการแผ่นดิน ความขัดแย้งของประชาชน รวมถึงข้อติดขัดต่างๆ ในด้านกฎ กติกา ทางกฎหมายต่างๆ จึงจำเป็นที่ คสช. และรัฐบาล ต้องเข้ามาดำเนินการแก้ไข ซึ่งตอนนี้ระบบบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปตามปกติ สามารถผลักดันกลไกการทำงานของข้าราชการได้อย่างเต็มที่ หลังจากก่อนหน้านี้ ที่เกิดความขัดแย้งกระทบระบบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินติดขัด รัฐบาลและ คสช.จึงเข้าผลักดันให้สามารถเดินหน้าไปได้ และจัดทำงบประมาณ 2558 ได้อย่างเรียบร้อย ทั้งนี้ ในส่วนของการปฏิรูป11ด้านนั้น รัฐบาลมีเวลาจำกัด และต้องเน้นรักษาความสงบไม่ให้มีการใช้อาวุธสงครามระหว่างมวลชนสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยินดีรับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจาก นายโทนี่ แบลร์ และมิตรประเทศ ซึ่งนายโทนี่ แบลร์ ได้กล่าวขอบคุณฝ่ายไทยที่กรุณาตอบรับการมาเยือนของตนในช่วงเวลาอันสั้นเป็นอย่างดี พร้อมระบุว่า เข้าใจปัญหาที่ไทยเผชิญอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยหยุดชะงักการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจ ที่มีประชาชนออกมาประท้วงบนท้องถนน เกิดปัญหาความไม่มั่นคง และเห็นว่าการเมืองไทยไม่เหมือนที่อื่น ซึ่ง นายโทนี่ แบลร์ เคยศึกษาปัญหาประเทศไทยที่พบว่า มีการแตกแยก โดยเชื่อว่าประชาคมโลกอยากให้ประเทศไทย เดินหน้าเรื่องการเลือกตั้งในปี 2558 และยึดมั่นในสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง ยังฝากให้ประเทศไทยแก้ไขอุปสรรคทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศเดินหน้าและพยายามคืนสู่ประชาธิปไตย ซึ่งนายโทนี่ แบลร์ เข้าใจดีว่า ปัญหาของไทยมีความสลับซับซ้อนมาก และอยากให้รัฐบาลไทยอธิบายกับประเทศอื่นๆให้เข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายโทนี่ แบลร์ ได้มองปัญหาของไทยเป็นสองด้าน คือ ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม กับปัญหาเชิงการเมือง กระบวนการกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ โดยในส่วนปัญหาเศรษฐกิจและสังคมนั้น รัฐบาสลควรผลักดันเดินหน้าเศรษฐกิจ และเห็นว่ารัฐบาลปัจจุบันมีศักยภาพที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจ การศึกษา สาธารณะสุข และการเกษตร
ส่วนปัญหาด้านการเมืองนั้น นายโทนี่ แบลร์ ย้ำว่า อยากให้รัฐบาลไทยชี้แจงนานาประเทศถึงขั้นตอนที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเน้นถึงสถานการณ์ที่มีความสลับซับซ้อน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเวทีสากล และนำไปสู่ขั้นตอนต่อไปในการปฏิรูปประเทศ
ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้มีช่องทางประสานติดต่ออย่างไม่เป็นทางการกับ นายโทนี่ แบลร์ โดยผ่าน รมว.ต่างประเทศ เพื่อรับคำแนะนำต่างๆ ที่อาจจะมีเพิ่มเติมจากประสบการณ์ที่ศึกษามา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโทนี แบลร์ เคยมาเข้าร่วมเวทีปาฐกถาพิเศษ "Uniting for the Future : Learning from each other's experience" ครั้งที่ 1 หรือ "ผนึกกำลังสู่อนาคต : เรียนรู้ร่วมกันจากประสบการณ์" ตามคำเชิญของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 56 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลยิ่ง ลักษณ์ จัดเวทีระดมความเห็น สร้างความปรองดองของคนในชาติ
