ตม. ยืนยัน"จักทา ซิงค์ ทารา" ผู้ก่อการร้ายชาวอินเดีย ที่หลบหนีออกจากเรือนจำ ยังหลบซ่อนอยู่ในไทยตั้งแต่วันที่ ก.ย. หลังตรวจพบใช้หนังสือเดินทางปลอกปากีสถาน จับกุมผู้ต้องหาชาวเสปน ลักลอบปลอมหนังสือเดินทาง หนีคดีฉ้อโกงมลค่าความเสียหาย 100 ล้าน เข้ามากบดานในไทย
วานนี้ (30 ต.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี รรท.ผบช.สตม กล่าวถึงกรณีของนายจักทา ซิงค์ ทารา ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายชาวอินเดีย ที่เคยก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ได้หลบหนีออกจากเรือนจำในประเทศอินเดีย ก่อนแฝงตัวเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย
พล.ต.ท.ศักดา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้เข้ามาในไทยวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ทางประเทศอินเดียได้มีการประสานเข้ามาเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้หนังสือเดินทางประเทศปากีสถาน ซึ่งขณะนี้ได้ทำการออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังลงพื้นที่หาข่าว เชื่อว่าคนร้ายยังคงกบดานในไทย เนื่องจากได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของ นายจักทา ซิงค์ ทารา แล้ว พบว่ายังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด
ในวันเดียวกัน พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม พ.ต.อ.เชิงรณ ริมดี ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.ท.ศุภชัย พลเดช รองผกก.สส.ท่าอาการศยานกรุงเทพ บก.สตม. 2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายหลุยส์บัทเลย์ วียาเซก้า (Mr.Luis Batlle Vilaseca) อายุ 54 ปี สัญชาติสเปน พร้อมหนังสือเดินทางสัญชาติเม็กซิโกปลอม หลังตรวจพบใช้หนังสือเดินทางปลอกปากีสถาน
พ.ต.อ.เชิงรณ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าทีตำรวจได้รับการประสานมาจากตำรวจประเทศสเปนให้ทำการตรวจสอบการเดินทางของผู้ต้องหารายนี้ หลังพบข้อมูลว่าจะมีการเดินทางเข้ามาในไทย จึงได้ทำการตรวจสอบแต่ไม่พบฐานข้อมูลปรากฏตามชื่อ จึงได้ทำการตรวจสอบชื่อที่มีลักษณะคล้ายกันก็ไปพบว่า มีชื่อต้องสงสัยชื่อนาย หลุยส์ มานูเอล บัทเทิล คอสต้า ( Mr. Luis Manuel Batlle Costa) สัญชาติเม็กซิโก อีกทั้งแนวทางการสืบสวนพบว่าเป็นคนเดียวกัน จึงได้ขยายผลจนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้จะเดินทางจากเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน เอฟดี 619 ในวันที่ 29 ต.ค. จึงได้ทำการเฝ้าสกัด จนกระทั่งจับกุมได้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้มีการปลอมแปลงบัตรประชาชน และหนังสือเดินทางปลอม นอกจากนี้ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นผู้ต้องหาที่ทางการสเปนต้องการตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อเหตุฉ้อโกงประชาชน โดยการโฆษณาจัดหาแรงงานในประเทศแถบอเมริกาใต้ ว่าสามารถที่จะหางาน รวมทั้งเอกสารต่างๆในการไปทำงานที่ประเทศแถบยุโรป แต่มีค่าใช้จ่าย 500 ยูโร หรือ 2 หมื่นบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้หลอกผู้เสียหายไปกว่า 5,_000ราย มูลค่ากว่า 2.5 ล้านยูโร หรือ 100 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินตดีตามกฏหมายต่อไป
วานนี้ (30 ต.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี รรท.ผบช.สตม กล่าวถึงกรณีของนายจักทา ซิงค์ ทารา ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายชาวอินเดีย ที่เคยก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ได้หลบหนีออกจากเรือนจำในประเทศอินเดีย ก่อนแฝงตัวเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย
พล.ต.ท.ศักดา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้เข้ามาในไทยวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ทางประเทศอินเดียได้มีการประสานเข้ามาเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้หนังสือเดินทางประเทศปากีสถาน ซึ่งขณะนี้ได้ทำการออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังลงพื้นที่หาข่าว เชื่อว่าคนร้ายยังคงกบดานในไทย เนื่องจากได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของ นายจักทา ซิงค์ ทารา แล้ว พบว่ายังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด
ในวันเดียวกัน พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม พ.ต.อ.เชิงรณ ริมดี ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.ท.ศุภชัย พลเดช รองผกก.สส.ท่าอาการศยานกรุงเทพ บก.สตม. 2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายหลุยส์บัทเลย์ วียาเซก้า (Mr.Luis Batlle Vilaseca) อายุ 54 ปี สัญชาติสเปน พร้อมหนังสือเดินทางสัญชาติเม็กซิโกปลอม หลังตรวจพบใช้หนังสือเดินทางปลอกปากีสถาน
พ.ต.อ.เชิงรณ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าทีตำรวจได้รับการประสานมาจากตำรวจประเทศสเปนให้ทำการตรวจสอบการเดินทางของผู้ต้องหารายนี้ หลังพบข้อมูลว่าจะมีการเดินทางเข้ามาในไทย จึงได้ทำการตรวจสอบแต่ไม่พบฐานข้อมูลปรากฏตามชื่อ จึงได้ทำการตรวจสอบชื่อที่มีลักษณะคล้ายกันก็ไปพบว่า มีชื่อต้องสงสัยชื่อนาย หลุยส์ มานูเอล บัทเทิล คอสต้า ( Mr. Luis Manuel Batlle Costa) สัญชาติเม็กซิโก อีกทั้งแนวทางการสืบสวนพบว่าเป็นคนเดียวกัน จึงได้ขยายผลจนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้จะเดินทางจากเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน เอฟดี 619 ในวันที่ 29 ต.ค. จึงได้ทำการเฝ้าสกัด จนกระทั่งจับกุมได้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้มีการปลอมแปลงบัตรประชาชน และหนังสือเดินทางปลอม นอกจากนี้ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นผู้ต้องหาที่ทางการสเปนต้องการตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อเหตุฉ้อโกงประชาชน โดยการโฆษณาจัดหาแรงงานในประเทศแถบอเมริกาใต้ ว่าสามารถที่จะหางาน รวมทั้งเอกสารต่างๆในการไปทำงานที่ประเทศแถบยุโรป แต่มีค่าใช้จ่าย 500 ยูโร หรือ 2 หมื่นบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้หลอกผู้เสียหายไปกว่า 5,_000ราย มูลค่ากว่า 2.5 ล้านยูโร หรือ 100 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินตดีตามกฏหมายต่อไป