ASTVผู้จัดการายวัน - สายการบิน"ไทย-เทศ"ผวาโคมลอยงานยี่เป็งเชียงใหม่ 5-7 พ.ย. ยกเลิก 112 เที่ยวบินหลัง 18.00 น. แยกเป็นในประเทศ 96 เที่ยว ระหว่างประเทศ 16 เที่ยว ผู้โดยสารหายเกือบ 2 หมื่นคน ท่าอากาศยานสูญรายได้ 2 ล้าน บาท
วานนี้(28 ต.ค.) นายอภิชาติ ชอบทำเหมือน ผู้อำนวยการส่วนบริการ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่เทศบาลนครเชียงใหม่ จัดงานประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทง ปี 2557 วันที่ 1-7 พฤศจิกายน ทางท่าอากาศยานมีมาตรการป้องกันอันตรายจากโคมลอย ที่อาจจะเข้ามาตกในเขตการบิน โดยขอความร่วมมือสายการบินจัดตารางการบินให้เหมาะสม ทั้งขณะบินผ่านน่านฟ้าหรือขณะขึ้นลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยวันที่ 5-7 พฤศจิกายน ปรากฏว่ามีสายการบินแจ้งยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินที่ทำการบินหลังเวลา 18.00 น. เกือบทั้งหมด
โดยเที่ยวบินในประเทศ เปลี่ยนแปลงเวลาบิน 30 เที่ยว ยกเลิกเที่ยวบิน 96 เที่ยว เที่ยวบินระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงเวลาบิน 20 เที่ยวบิน และยกเลิกเที่ยวบิน 16 เที่ยว ทำให้ผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศลดลงประมาณ 16,200 คน และผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลงประมาณ 2,400 คน ส่งผลทำให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สูญเสียรายได้ประมาณ 2 ล้านบาท แต่ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและเครื่องบิน และเพื่อสืบสานประเพณี
นายอภิชาติ กล่าวว่า ทางท่าอากาศยานจะเพิ่มรอบความถี่จัดเก็บสิ่งแปลกปลอมในเขตการบินจากวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง ซึ่งเทศกาลยี่เป็งปี 2556 ท่าอากาศยานเชียงใหม่เก็บซากโคมที่ลอยเข้ามาตกในเขตบินได้ 1,419 ลูก
นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เทศบาลมีมาตรการควบคุมไม่ให้จำหน่ายโคมลอย หากพบวางขายตามร้านค้าหรือแผงลอยจะตรวจยึดและดำเนินคดีทันที พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนและนักท่องเที่ยวงดการปล่อยโคม เนื่องจากกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน นอกจากนี้การปล่อยโคมไม่ใช่วัฒนธรรมของชาวล้านนาอย่างที่เข้าใจกันผิดๆด้วย จึงไม่สนับสนุนให้มีการปล่อยโคม
นายณัฐฐ์ชูเดช กล่าวว่า นอกจากการควบคุมโคมลอยแล้ว ยังจะเข้มงวดกวดขันการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ซึ่งทุกปีจะเกิดอันตรายและความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะสะพานนวรัฐ สองฝั่งแม่น้ำปิง และประตูท่าแพ เป็นต้น ซึ่งเทศบาลจะออกสุ่มตรวจร้านค้าว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ว่าได้มาตรฐาน ไม่เป็นอันตรายหรือไม่ โดยเฉพาะประทัดยักษ์ต้องไม่มีวางจำหน่ายเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายอย่างมาก ซึ่งหากตรวจพบว่าไม่ถูกต้อง จะตรวจยึดและดำเนินคดีทันที"
ข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ธุดงคสถานล้านนา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ สาขาของวัดพระธรรมกาย จัดงานบุญทอดกฐินล้านนาสามัคคี และพิธีจุดประทีปลอยโคมถวายพุทธบูชา หรือยี่เป็งสันทรายถวายเป็นพุทธบูชา นับหมื่นลูกในช่วงหัวค่ำ และจะจัดพิธีอีกครั้งวันที่ 8 พฤศจิกายน เป็นรอบกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ใช่ประเพณีที่ถูกต้องตามจารีตล้านนา และยังเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนหากโคมตกใส่หลังคาบ้าน
วานนี้(28 ต.ค.) นายอภิชาติ ชอบทำเหมือน ผู้อำนวยการส่วนบริการ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่เทศบาลนครเชียงใหม่ จัดงานประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทง ปี 2557 วันที่ 1-7 พฤศจิกายน ทางท่าอากาศยานมีมาตรการป้องกันอันตรายจากโคมลอย ที่อาจจะเข้ามาตกในเขตการบิน โดยขอความร่วมมือสายการบินจัดตารางการบินให้เหมาะสม ทั้งขณะบินผ่านน่านฟ้าหรือขณะขึ้นลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยวันที่ 5-7 พฤศจิกายน ปรากฏว่ามีสายการบินแจ้งยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินที่ทำการบินหลังเวลา 18.00 น. เกือบทั้งหมด
โดยเที่ยวบินในประเทศ เปลี่ยนแปลงเวลาบิน 30 เที่ยว ยกเลิกเที่ยวบิน 96 เที่ยว เที่ยวบินระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงเวลาบิน 20 เที่ยวบิน และยกเลิกเที่ยวบิน 16 เที่ยว ทำให้ผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศลดลงประมาณ 16,200 คน และผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลงประมาณ 2,400 คน ส่งผลทำให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สูญเสียรายได้ประมาณ 2 ล้านบาท แต่ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและเครื่องบิน และเพื่อสืบสานประเพณี
นายอภิชาติ กล่าวว่า ทางท่าอากาศยานจะเพิ่มรอบความถี่จัดเก็บสิ่งแปลกปลอมในเขตการบินจากวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง ซึ่งเทศกาลยี่เป็งปี 2556 ท่าอากาศยานเชียงใหม่เก็บซากโคมที่ลอยเข้ามาตกในเขตบินได้ 1,419 ลูก
นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เทศบาลมีมาตรการควบคุมไม่ให้จำหน่ายโคมลอย หากพบวางขายตามร้านค้าหรือแผงลอยจะตรวจยึดและดำเนินคดีทันที พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนและนักท่องเที่ยวงดการปล่อยโคม เนื่องจากกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน นอกจากนี้การปล่อยโคมไม่ใช่วัฒนธรรมของชาวล้านนาอย่างที่เข้าใจกันผิดๆด้วย จึงไม่สนับสนุนให้มีการปล่อยโคม
นายณัฐฐ์ชูเดช กล่าวว่า นอกจากการควบคุมโคมลอยแล้ว ยังจะเข้มงวดกวดขันการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ซึ่งทุกปีจะเกิดอันตรายและความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะสะพานนวรัฐ สองฝั่งแม่น้ำปิง และประตูท่าแพ เป็นต้น ซึ่งเทศบาลจะออกสุ่มตรวจร้านค้าว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ว่าได้มาตรฐาน ไม่เป็นอันตรายหรือไม่ โดยเฉพาะประทัดยักษ์ต้องไม่มีวางจำหน่ายเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายอย่างมาก ซึ่งหากตรวจพบว่าไม่ถูกต้อง จะตรวจยึดและดำเนินคดีทันที"
ข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ธุดงคสถานล้านนา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ สาขาของวัดพระธรรมกาย จัดงานบุญทอดกฐินล้านนาสามัคคี และพิธีจุดประทีปลอยโคมถวายพุทธบูชา หรือยี่เป็งสันทรายถวายเป็นพุทธบูชา นับหมื่นลูกในช่วงหัวค่ำ และจะจัดพิธีอีกครั้งวันที่ 8 พฤศจิกายน เป็นรอบกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ใช่ประเพณีที่ถูกต้องตามจารีตล้านนา และยังเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนหากโคมตกใส่หลังคาบ้าน