ASTV ผู้จัดการรายวัน – ความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่สามารถขยายตัวได้ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ส่งผลกดดันบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก นักวิเคราะห์ระบุพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศแข็งแกร่ง มั่นใจสิ้นปีดัชนีแตะ 1600 จุด ด้านตลท. เดินหน้าจัดโรดโชว์ต่างประเทศส่งท้ายปี 2557 โชว์ศักยภาพตลาดทุนไทยแก่ผู้ลงทุนสถาบันที่อเมริกาและเอเชีย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันที่ 21 ตุลาคม 2557 ไปที่ 1,526.14 จุด ลดลง 0.53 จุด เปลี่ยนแปลง -0.03% มูลค่าการซื้อขาย 36,278.40 ล้านบาท โดยระหว่างวันสามารถแตะจุดสูงสุดที่ 1,530.84 จุด และต่ำสุดที่ 1,520.89 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหว ตลอดทั้งวันดัชนีแกว่งตัวสลับทั้งแดนบวก - ลบในกรอบ 1,524 – 1,531 จุด โดยมีแรงซื้อเข้ามาหุ้นในกลุ่ม Healthcare และ Food ขนะที่กลุ่มกดดันตลาดคือหุ้นใหญ่ในกลุ่ม ICT และ Energy
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่าจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูงกว่าการคาดการณ์ แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ยังบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโดยรวมของจีน ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาผลการประชุมประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการปฏิรูปหรือไม่
ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าพรุ่งนี้ จะยังคงได้รับแรงกดดันจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3/57 ของจีนที่อ่อนแอลง เพราะยังคงทำให้ตลาดกลับมากังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอีกครั้ง กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดทุนทั่วโลก แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัว แต่การส่งออกจะยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงให้น้ำหนักตลาดในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้ามีโอกาสปรับถอยลงต่อ โดยประเมิน downside ของการปรับถอยรอบนี้ที่ระดับ 1,500 จุด และกรณี worst case ที่ 1,450 จุด ส่วนพรุ่งนี้ดัชนีมีแนวต้าน 1,535 จุด แนวรับ 1,520 จุด
ขณะที่น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุระยะนี้ดัชนียังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้นบรรยากาศการลงทุน ประกอบกับปัจจัยนอกที่เข้ามากดดันอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะการตัดสินใจดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจทั้งฝั่งยุโรป และเอเซีย เพราะจะเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดทิศทางดัชนี
“วันนี้บรรยากาศการลงทุนดูเหงาๆ วอลุ่มเทรดเบาบาง เพราะไม่มีทั้งปัจจัยบวก และปัจจัยลบที่ชัดเจน โดยระยะนี้ยังคงให้น้ำหนักไปที่ความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัว 7.3% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7.2% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ซึ่งขยายตัว 7.5% จะเป็นเครื่องถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นระยะต่อไป คือต้องจับตาการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ และจีน ว่าจะสามารถตอบโจทย์ และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้หรือไม่”
อย่างไรก็ตามภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงเป็น “ขาขึ้น” เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน นักวิเคราะห์เชื่อว่า ณ สิ้นปี 2557 ดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1600 +/- อย่างแน่นอน
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็กระตุ้นบรรยากาศการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ระบุ ในช่วงที่เหลือของปี 2557 ตลท. ยังมีแผนนำ บจ. ไทยไปโรดโชว์พบผู้ลงทุนสถาบันในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อให้ข้อมูลความแข็งแกร่งของภาคเอกชนและศักยภาพการขยายธุรกิจตามการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ เริ่มจากวันที่ 27-30 ต.ค. 2557 ตลท. ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด และ Auerbach Grayson and Company LLC จัดโรดโชว์ “Thailand – Finding Alpha inside a Democratic Evolution” ที่กรุงนิวยอร์คและซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลังร่วมให้ข้อมูล และผู้บริหารระดับสูงของ 10 บจ. ที่มีศักยภาพ ร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบัน
โรดโชว์ครั้งสุดท้ายของปีในระหว่างวันที่ 19–21 พ.ย. 2557 ตลท. จะร่วมกับ ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินช์ และบริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) จัดงาน “Thai Corporate Forum” ที่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยมี บจ. ขนาดกลาง 10 บริษัทตอบรับร่วมให้ข้อมูล ทั้งในรูปแบบการประชุม one-on-one และแบบกลุ่ม
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันที่ 21 ตุลาคม 2557 ไปที่ 1,526.14 จุด ลดลง 0.53 จุด เปลี่ยนแปลง -0.03% มูลค่าการซื้อขาย 36,278.40 ล้านบาท โดยระหว่างวันสามารถแตะจุดสูงสุดที่ 1,530.84 จุด และต่ำสุดที่ 1,520.89 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหว ตลอดทั้งวันดัชนีแกว่งตัวสลับทั้งแดนบวก - ลบในกรอบ 1,524 – 1,531 จุด โดยมีแรงซื้อเข้ามาหุ้นในกลุ่ม Healthcare และ Food ขนะที่กลุ่มกดดันตลาดคือหุ้นใหญ่ในกลุ่ม ICT และ Energy
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่าจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูงกว่าการคาดการณ์ แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ยังบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโดยรวมของจีน ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาผลการประชุมประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการปฏิรูปหรือไม่
ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าพรุ่งนี้ จะยังคงได้รับแรงกดดันจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3/57 ของจีนที่อ่อนแอลง เพราะยังคงทำให้ตลาดกลับมากังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอีกครั้ง กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดทุนทั่วโลก แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัว แต่การส่งออกจะยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงให้น้ำหนักตลาดในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้ามีโอกาสปรับถอยลงต่อ โดยประเมิน downside ของการปรับถอยรอบนี้ที่ระดับ 1,500 จุด และกรณี worst case ที่ 1,450 จุด ส่วนพรุ่งนี้ดัชนีมีแนวต้าน 1,535 จุด แนวรับ 1,520 จุด
ขณะที่น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุระยะนี้ดัชนียังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้นบรรยากาศการลงทุน ประกอบกับปัจจัยนอกที่เข้ามากดดันอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะการตัดสินใจดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจทั้งฝั่งยุโรป และเอเซีย เพราะจะเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดทิศทางดัชนี
“วันนี้บรรยากาศการลงทุนดูเหงาๆ วอลุ่มเทรดเบาบาง เพราะไม่มีทั้งปัจจัยบวก และปัจจัยลบที่ชัดเจน โดยระยะนี้ยังคงให้น้ำหนักไปที่ความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัว 7.3% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7.2% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ซึ่งขยายตัว 7.5% จะเป็นเครื่องถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นระยะต่อไป คือต้องจับตาการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ และจีน ว่าจะสามารถตอบโจทย์ และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้หรือไม่”
อย่างไรก็ตามภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงเป็น “ขาขึ้น” เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน นักวิเคราะห์เชื่อว่า ณ สิ้นปี 2557 ดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1600 +/- อย่างแน่นอน
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็กระตุ้นบรรยากาศการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ระบุ ในช่วงที่เหลือของปี 2557 ตลท. ยังมีแผนนำ บจ. ไทยไปโรดโชว์พบผู้ลงทุนสถาบันในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อให้ข้อมูลความแข็งแกร่งของภาคเอกชนและศักยภาพการขยายธุรกิจตามการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ เริ่มจากวันที่ 27-30 ต.ค. 2557 ตลท. ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด และ Auerbach Grayson and Company LLC จัดโรดโชว์ “Thailand – Finding Alpha inside a Democratic Evolution” ที่กรุงนิวยอร์คและซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลังร่วมให้ข้อมูล และผู้บริหารระดับสูงของ 10 บจ. ที่มีศักยภาพ ร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบัน
โรดโชว์ครั้งสุดท้ายของปีในระหว่างวันที่ 19–21 พ.ย. 2557 ตลท. จะร่วมกับ ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินช์ และบริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) จัดงาน “Thai Corporate Forum” ที่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยมี บจ. ขนาดกลาง 10 บริษัทตอบรับร่วมให้ข้อมูล ทั้งในรูปแบบการประชุม one-on-one และแบบกลุ่ม