xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.นำทัพ บจ.ไทย โรดโชว์สหรัฐฯ เรียกความเชื่อมั่น เน้นการนำเสนอข้อมูลระยะยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลท.นำทัพ บจ.ไทย โรดโชว์สหรัฐฯ เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนโดยเร็ว เน้นข้อมูลระยะยาว สร้างความเชื่อมั่นจากความแข็งแกร่งของภาคเอกชน และศักยภาพในการขยายธุรกิจ ตามการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ พร้อมตัวเลขการเติบโตกำไร บจ. ด้านภาพรวมหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ดัชนีน่าจะแกว่งขึ้นในกรอบแคบ เชื่อแรงชื้อในประเทศเมื่อราคาอ่อนตัวลง ไม่ใช่เป็นการผลักดันราคา

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค.นี้ ตลท.จะนำ บจ.ไทยเดินทางไปโรดโชว์ พบผู้ลงทุนสถาบันในสหรัฐฯ ซึ่งถือว่ามีความมั่นใจเต็มที่ที่จะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศให้กลับคืนมาโดยเร็ว

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะได้ข้อมูลระยะยาว สร้างความเชื่อมั่นจากความแข็งแกร่งของภาคเอกชนและศักยภาพในการขยายธุรกิจตามการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งผลประกอบการของ บจ.ไทยปีนี้ เชื่อจะขยายตัว 10% ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 15% แต่ยังถือว่าเป็นข้อมูลที่ดี เพราะผลประกอบการขยายตัวสูงกว่าจีดีพีของประเทศ ซึ่งคาดว่าจีดีพีปี 2558 จะขยายตัว 4.8%

ส่วนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและวันพุธนี้ (28-29 ต.ค.) มั่นใจว่า การพิจารณายกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณทางการเงิน (QE) ของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร จะไม่กระทบกับตลาดหุ้นไทย เพราะได้รับรู้ถึงปัจจัยดังกล่าว และได้มีการวางแผนรับมือกับการปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยของสหรัฐฯไว้แล้ว โดยไม่ต้องมีการจับตากรณีใดเป็นพิเศษ

ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยเชื่อว่า ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2% จนถึงสิ้นปี โดยไม่ขอคาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้และปีหน้า จะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับที่หลายหน่วยงานประเมินไว้หรือไม่

ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (27-31 ต.ค.) น่าจะปรับขึ้นในกรอบแคบๆ เนื่องจากคาดหวังเชิงบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังจะได้รับผลดีจากแรงซื้อของทริกเกอร์ฟันด์ ซึ่งจะช่วยหนุนตลาด รวมถึงแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/57 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งใกล้จะประกาศผลประกอบการ

ขณะที่ น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่า ตลาดน่าจะเป็นลักษณะผันผวน และคงจะไปโฟกัสการประชุมของเฟด ซึ่งในรอบนี้รอดูว่าจะต่ออายุมาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ เพราะหากต่ออายุ จะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อตลาด แต่หากยุติ QE นักลงทุนคงจะหันไปมองในเรื่องของทิศทางดอกเบี้ยว่าเฟดจะกำหนดท่าทีอย่างไร

ทั้งนี้ ปัจจัยภายนอกยังมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทย ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรในผลประกอบการ บจ.แต่จะมีผลต่อตลาดหุ้นไม่มากนัก ส่วนแรงซื้อจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ตามปกติ จะมีมากในเดือน ธ.ค. และเป็นการซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง ไม่ใช่เป็นการผลักดันราคา
กำลังโหลดความคิดเห็น