พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องไมค์ห้องประชุมครม.ว่า ต้องแยกผลสอบให้ออก ไม่ใช่สอบปุ๊บแล้วบอกทุจริต แต่มันมีขั้นตอนเช่น ส่อทุจริต ทุจริต และมีเจตนาหรือไม่ ขณะนี้มีหลายคณะที่สอบอยู่ทั้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.). คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.).และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) ซึ่งการตรวจสอบยังไม่สิ้นสุดกระบวนการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากการตรวจสอบยังไม่เสร็จสิ้นก็จะยังไม่ใช้ห้องประชุมครม.ที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ประชุมได้ ก็ใช้ไมค์อันเก่าก็ได้ อยากให้ทุกคนมองภาพไปได้ๆ ว่าคนที่ทำเขาต้องการให้เกิดความทันสมัยเพราะในอนาคตจะต้องมีการประชุมร่วมกับต่างประเทศ ไม่ต้องบินไป ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมี
"ไม่ใช่ว่าครม.มาใหม่แล้วต้องใช้ไมค์ใหม่ เสียงผมดังพออยู่แล้ว ไม่ต้องใช่ไมค์ก็ได้ ผมไม่ได้ต้องการแบบนั้น แต่เห็นว่าอนาคตถึงอย่างไรเราก็ต้องมี อย่างน้อยก็ต้องประสานกับศูนย์ภัยพิบัติต่าง ๆ จะได้เห็นหน้าตากัน เราต้องเตรียมพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคาม เวลาไปต่างประเทศก็จะได้แสดงให้เขาเห็นว่าเรามีความพร้อมอย่างไรบ้างแต่เมื่อมีปัญหาก็ตรวจสอบกันไป. ต้องดูก่อนว่ามันีการทุจริตหรือยัง มีการไปรับเงินรับทองตรงไหน เขาตรวจสอบเยอะ อย่ามองว่าครม.จะต้องมาใช้ไมค์ใหม่ หรือมาเปลี่ยนเก้าอี้เพื่อให้ผมนั่งซึ่งผมไม่ได้อยากนั่งเลย ผมนั่งกับพื้นก็ได้ ไม่เห็นจะต้องมานั่งดีอะไรหนักหนา ที่ทำเนี่ยก็เพื่อหน้าตาของพวกท่านหน้าตาของประเทศทั้งนั้น ไม่ใช่หน้าตาผม ปัญหาเรื่องนี้เกิดจากมาตรฐานที่ไม่มีราคากลางเท่านั้น"นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่รัฐมนตรีบางคน ยังไม่ได้ยื่นแสดงบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าได้สอบถามแล้ว ทั้งนี้คนไทยชอบนิสัยการต่อสู้ อยากรู้ว่าใช่ ไม่ใช่แค่นั้น ตนได้ถามแล้วว่าได้เตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ ได้รับคำตอบมาว่า “เตรียมแล้ว และบอกว่ายังข้องใจบางเรื่องบางรายการ และได้ถามไปที่ ป.ป.ช.” ซึ่งตนเล่นงานไปแล้ว
จะถามไปทำไม โชว์ก็ต้องโชว์ มีเงิน 20 ล้าน 30 ล้าน โกงมาหรือเปล่า กฎหมายให้ท่านแสดงบัญชีทรัพย์สิน ถ้าไม่มีเรื่อง มีคดีความ มีคนร้องก็จบแค่นั้น และหลังจากออกจากตำแหน่ง ก็ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินอีกครั้ง เพื่อจะดูว่ามีทรัพย์สิน หนี้สินมากขึ้นหรือไม่ อย่างไร
"ทำไมไม่ไปถามนักการเมืองที่ผ่านๆ มา มันมี 7พันล้าน 8 หมื่นล้าน 4 แสนล้าน ไปถามสิ กฎหมายจะถามแค่ว่า เข้ามาครั้งแรกกับออกไป การแสดงบัญชีทรัพย์สินที่ต่างกันนั้นมาจากไหน อย่าถามอะไรที่นอกกฎหมาย เราต้องพูดกันด้วยกฎหมาย ผมแสดงบัญชีทรัพย์สินมาตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. 4 ปีแล้ว พอออกจากตำแหน่ง ก็ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พอมาเป็นครม. ต้องแสดงอีก ที่ผ่านมาไม่มีการฟ้องร้องก็จบ อย่าใช้ความรู้สึก ความเกลียดชัง อย่าใช้ความไม่ชอบหน้าผม ถ้าคนเราทำงานด้วยความรู้สึก ไม่ต้องมีกระบวนการ กฎหมายไม่ต้องมี ใช้ผมคนเดียวพอแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.แรงงาน ชื่นชมว่า นายกฯเก่ง มีความสามารถทำงานเก่ง ว่า ท่านเฉลิม ก็แบบนี้แหละ ตนไม่ฉลาดหรอก โง่จะตายอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นกำลังใจหนึ่งได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ได้ๆ จะเอาบวกหรือลบ เอาขึ้นแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากการตรวจสอบยังไม่เสร็จสิ้นก็จะยังไม่ใช้ห้องประชุมครม.ที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ประชุมได้ ก็ใช้ไมค์อันเก่าก็ได้ อยากให้ทุกคนมองภาพไปได้ๆ ว่าคนที่ทำเขาต้องการให้เกิดความทันสมัยเพราะในอนาคตจะต้องมีการประชุมร่วมกับต่างประเทศ ไม่ต้องบินไป ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมี
"ไม่ใช่ว่าครม.มาใหม่แล้วต้องใช้ไมค์ใหม่ เสียงผมดังพออยู่แล้ว ไม่ต้องใช่ไมค์ก็ได้ ผมไม่ได้ต้องการแบบนั้น แต่เห็นว่าอนาคตถึงอย่างไรเราก็ต้องมี อย่างน้อยก็ต้องประสานกับศูนย์ภัยพิบัติต่าง ๆ จะได้เห็นหน้าตากัน เราต้องเตรียมพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคาม เวลาไปต่างประเทศก็จะได้แสดงให้เขาเห็นว่าเรามีความพร้อมอย่างไรบ้างแต่เมื่อมีปัญหาก็ตรวจสอบกันไป. ต้องดูก่อนว่ามันีการทุจริตหรือยัง มีการไปรับเงินรับทองตรงไหน เขาตรวจสอบเยอะ อย่ามองว่าครม.จะต้องมาใช้ไมค์ใหม่ หรือมาเปลี่ยนเก้าอี้เพื่อให้ผมนั่งซึ่งผมไม่ได้อยากนั่งเลย ผมนั่งกับพื้นก็ได้ ไม่เห็นจะต้องมานั่งดีอะไรหนักหนา ที่ทำเนี่ยก็เพื่อหน้าตาของพวกท่านหน้าตาของประเทศทั้งนั้น ไม่ใช่หน้าตาผม ปัญหาเรื่องนี้เกิดจากมาตรฐานที่ไม่มีราคากลางเท่านั้น"นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่รัฐมนตรีบางคน ยังไม่ได้ยื่นแสดงบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าได้สอบถามแล้ว ทั้งนี้คนไทยชอบนิสัยการต่อสู้ อยากรู้ว่าใช่ ไม่ใช่แค่นั้น ตนได้ถามแล้วว่าได้เตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ ได้รับคำตอบมาว่า “เตรียมแล้ว และบอกว่ายังข้องใจบางเรื่องบางรายการ และได้ถามไปที่ ป.ป.ช.” ซึ่งตนเล่นงานไปแล้ว
จะถามไปทำไม โชว์ก็ต้องโชว์ มีเงิน 20 ล้าน 30 ล้าน โกงมาหรือเปล่า กฎหมายให้ท่านแสดงบัญชีทรัพย์สิน ถ้าไม่มีเรื่อง มีคดีความ มีคนร้องก็จบแค่นั้น และหลังจากออกจากตำแหน่ง ก็ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินอีกครั้ง เพื่อจะดูว่ามีทรัพย์สิน หนี้สินมากขึ้นหรือไม่ อย่างไร
"ทำไมไม่ไปถามนักการเมืองที่ผ่านๆ มา มันมี 7พันล้าน 8 หมื่นล้าน 4 แสนล้าน ไปถามสิ กฎหมายจะถามแค่ว่า เข้ามาครั้งแรกกับออกไป การแสดงบัญชีทรัพย์สินที่ต่างกันนั้นมาจากไหน อย่าถามอะไรที่นอกกฎหมาย เราต้องพูดกันด้วยกฎหมาย ผมแสดงบัญชีทรัพย์สินมาตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. 4 ปีแล้ว พอออกจากตำแหน่ง ก็ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พอมาเป็นครม. ต้องแสดงอีก ที่ผ่านมาไม่มีการฟ้องร้องก็จบ อย่าใช้ความรู้สึก ความเกลียดชัง อย่าใช้ความไม่ชอบหน้าผม ถ้าคนเราทำงานด้วยความรู้สึก ไม่ต้องมีกระบวนการ กฎหมายไม่ต้องมี ใช้ผมคนเดียวพอแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.แรงงาน ชื่นชมว่า นายกฯเก่ง มีความสามารถทำงานเก่ง ว่า ท่านเฉลิม ก็แบบนี้แหละ ตนไม่ฉลาดหรอก โง่จะตายอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นกำลังใจหนึ่งได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ได้ๆ จะเอาบวกหรือลบ เอาขึ้นแล้วกัน